เอาหล่อฝ่ายเดียว!ก้าวไกลถล่มสภาคว่ำร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน

'เซีย' เสียดายสภาคว่ำ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน หมดโอกาสยกระดับคุณภาพชีวิต เชื่อขั้วตรงข้ามหวังดิสเครดิต ก้าวไกล ไม่สนใจเนื้อหากฎหมาย 'สหัสวัต' ซัดเดือดเห็นแล้วธาตุแท้นักการเมืองอยู่ข้างนายทุน

07 มี.ค. 2567 - ที่รัฐสภา สส.พรรคก้าวไกล นำโดย นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงภายหลังกรณีที่เมื่อวันที่ 6 มี.ค. สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน

โดยนายเซีย กล่าวว่า ร่างกฎหมายที่เสนอ ที่ประชุมเห็นด้วยจำนวน 149 เสียง ไม่เห็นด้วย 159 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง อันเป็นเหตุให้ร่าง พ.ร.บ.ของพวกเราไม่ผ่านการพิจารณาในวาระที่หนึ่ง ในฐานะเป็นผู้ใช้แรงงานมามากกว่า 30 ปี เกินครึ่งชีวิต และในฐานะที่เป็นผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต้องขอเรียนว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากร่างกฎหมายที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานในประเทศนี้ให้ดีขึ้น และสามารถลืมตาอ้าปากได้ด้วยหลักการทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต ดังที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้อภิปรายในที่ประชุมไปแล้วนั้น และยังขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมรูปแบบการจ้างงาน รวมไปถึงพี่น้องไรเดอร์ ฟรีแลนซ์ และแรงงานอิสระ กฎหมายเปลี่ยนชีวิตคนทำงาน ที่จะช่วยยกระดับ สร้างการดูแลคนทำงาน ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลฉบับนี้ กลับไม่ได้รับความเห็นชอบ โดยมติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

“ผมรู้สึกเสียดายที่ประเทศของเราเสียโอกาสสร้างความเสมอภาคทางสังคม เสียโอกาสและเสียเวลาในการสร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ อีกทั้งเสียโอกาสที่จะเพิ่มผลผลิตประสิทธิภาพการทำงาน ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับระบบเศรษฐกิจ เสียดายที่คนทำงานในประเทศของเรา จะยังคงมีความคุ้มครองตามหลังนานาประเทศ ที่เดินนำหน้าพวกเราไปกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาที่สำคัญของผู้แทนที่มีความประสงค์ดี ต่อคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้”นายเซีย กล่าว

“ท้ายที่สุดรู้สึกผิดหวังที่บรรดาผู้แทนของประชาชนทั้งหลาย มองข้ามการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และให้ความสำคัญแต่เพียงเสียงของบรรดาเหล่านายทุน ขุนศึกศักดินาเจ้าของกิจการ ที่จะได้รับผลกระทบจากร่างแรงงานคุ้มครองแรงงานของเรา ด้วยการคว่ำร่างกฎ
หมายฉบับนี้ ตั้งแต่วาระแรก ทั้งที่เป็นเพียงพื้นฐานที่คู่ควรต่อการเป็นมนุษย์”

นายเซียกล่าวต่อว่า การคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นเรื่องการเมืองที่ขั้วตรงข้ามของเรา ต้องการทำลายคะแนนนเสียง ความเชื่อมั่นที่มีของชนชั้นแรงงานต่อพรรคก้าวไกล โดยไม่สนใจว่า เนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานอย่างไร มากน้อยแค่ไหน ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้แตะต้อง หรือกล่าวถึงกองทัพ สถาบันฯ หรือฝากฝั่งอนุรักษ์นิยม จารีตประเพณี แต่อย่างใดเลย แม้กระทั่ง การแลกเปลี่ยนในสังคมออนไลน์ เท่าที่เราพบเห็น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจำนวนมากที่ทำหน้าที่บริหาร ก็ยังเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ของพวกเรา เรื่องแบบนี้อาจจะดูเล็กน้อยสำหรับท่าน แต่สำหรับคนทำงานกว่าค่อนประเทศเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่เราจะต้องพลาดโอกาสที่ดีของกฎหมายฉบับนี้ สิ่งที่ปรากฏนี้ให้ความรู้สึกดังคำกล่าวที่ว่ากฎหมายเขียนขึ้นโดยคนชนชั้นใด ก็เพื่อรับใช้คนชนชั้นนั้น และแม้ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ จะไม่ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 ก็ตาม แต่เราจะต้องเดินหน้าผลักดันกฎหมาย เพื่อพัฒนาชีวิตคนทำงานเข้าสู่สภาต่อไปอีกหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ รวมถึง พ.ร.บ.ประกันสังคม ที่จะช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรอง และคุ้มครองคนทำงานในประเทศนี้ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

“ผมซึ่งเป็นผู้แทนของชนชั้นแรงงาน และพวกเรา สส.พรรคก้าวไกล ขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชน และพี่น้องผู้ใช้แรงงานว่า พวกเราให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องผู้ใช้แรงงานเสมอมา ตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว ที่เราเสนอร่าง พ.ร.บ.ยกระดับชีวิตพี่น้องแรงงานเข้าสู่สภาไปแล้วหลายฉบับ แม้จะไม่ผ่านการพิจารณาของสภาก็ตาม แต่พวกเรายังเดินหน้าทำงาน ผลักดัน พ.ร.บ.เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตคนทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับปรุงใหม่ ก็จะดีขึ้นกว่าเดิม ต่อเนื่องมาจนถึงสภาฯ ชุดปัจจุบัน และเรายังคนมุ่งมั่นผลักดันกฎหมาย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของคนทำงานในประเทศนี้ให้ดีขึ้น ขอให้ทุกท่านจงเชื่อมั่น และยึดมั่นร่วมกันต่อสู้กับพวกเรา ด้วยความสมานฉันท์ของคนทำงานด้วยกัน”

สำหรับความแตกต่างของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ กับร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานของ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลนั้น นายเซีย กล่าวว่า จริงๆ เรามีความตั้งใจที่จะผลักดันกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ ถึงแม้ว่าในท้ายที่สุด สส.จะไม่โหวตรับร่างกฎหมายของตนเอง แต่ก็ยังมีร่างกฎหมายของ น.ส.วรรณวิภา ซึ่งเกี่ยวกับการลาคลอด 180 วัน และการคุ้มครองลูกจ้างของรัฐที่ผ่าน หวังว่าในขั้นการพิจารณารายละเอียด ก็คงจะได้มีการพูดคุยกัน เพื่อให้ทุกคนลาคลอดได้ถึง 180 วัน และลูกจ้างของรัฐจะได้สิทธิ์ความคุ้มครองตามกฏหมายคุ้มครองฉบับดังกล่าว

“ข้อกังวลของฝ่ายรัฐบาลที่เห็นว่า กฎหมายฉบับนี้สุดโต่งเกินไป ในเรื่องของการขึ้นค่าแรง ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยแบกรับไม่ไหวนั้น เราได้ยืนยันและแถลงควบคู่ไปกับการแถลงนโยบายด้านแรงงาน ว่าเรามีมาตรการในการดูแลผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเป็นรูปธรรมในหลายเรื่อง”

ถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ สะท้อนอะไรบ้างนั้น นายเซีย กล่าวว่า สส.ที่แสดงเจตนารมย์ไม่รับร่างของพวกเรา อาจจะเห็นว่าปัญหาปากท้องของพี่น้องแรงงานเป็นเรื่องไกลตัวของพวกเขา เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ หรือไม่ใช่ลูกชาวบ้านธรรมดาอย่างพรรคก้าวไกล พวกเราส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน และเข้าใจปัญหาพี่น้องแรงงานเป็นอย่างดีตลอดมา ว่าที่ผ่านมาไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ด้วยเงื่อนไขของกฎหมายที่กำหนดไม่ให้เรามีโอกาสเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ เช่น การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ที่จะเป็นไปได้ยาก หากฝ่ายการเมืองไม่เห็นด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถาม น.ส.วรรณวิภา ที่เสนอร่างกฎหมายอีกฉบับผ่าน ว่าในขั้นตอนต่อไปของกรรมาธิการ คาดหวังสิ่งใดบ้างนั้น การที่เราแยกออกมาเป็น 2 ฉบับ คือฉบับที่เป็นร่างการเงิน และฉบับที่ไม่ใช่ร่างการเงิน เนื่องจากเรามีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกปัดตกทั้งฉบับ ซึ่งร่างของตน ถือเป็นร่างการเงินทั้งหมด เนื่องจากการยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานรัฐ ต้องใช้งบประมาณ

“เมื่อรัฐบาลใช้ร่างของตัวเองเป็นหลัก เราจะต้องไปต่อสู้ต่อในชั้นกรรมาธิการเหมือนกันว่า จะได้ วันลาคลอดเท่าไหร่ เนื่องจากในร่างของรัฐบาลนั้น ระบุไว้เพียง 98 วัน ซึ่งในส่วนรายละเอียดปีกย่อยอื่นๆ ก็ต้องไปดูอีกว่า คำว่าข้าราชการจะครอบคลุมถึงส่วนไหน เนื่องจากร่างที่ตนเขียนไว้กว้างมาก จึงต้องไปสู้กันในเนื้อหาอีกที

ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ได้กล่าวเสริมว่า การคว่ำกฎหมายไม่ใช่การพ่ายแพ้ของพรรคคก้าวไกล แต่เป็นการคว่ำการทวงคืนสิทธิขั้นพื้นฐาน คือการทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต พร้อมย้ำว่า กฎหมายของพรรคก้าวไกลไม่ได้ก้าวหน้าเกินไปเลย ไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินไป

"แรงงานไม่ควรมีโอกาสใช้ชีวิตหรือพักผ่อนหรือไม่ คนที่กล่าวว่ากฎหมายของพวกเราก้าวหน้าเกินไป คนพวกนี้หัวจิตหัวใจทำด้วยอะไร ถึงไม่เห็นความเป็นมนุษย์ แล้วการบอกว่ากฎหมายนี้ส่งผลกระทบต่อ SME เลิกมุดหัวอยู่หลัง SME ต้นทุนแรงงานเป็นเพียงต้นทุนส่วนหนึ่งของ SME ค่าน้ำ ค่าไฟ ลดหรือไม่ วัตถุดิบอื่นๆ คุณไม่พูดเลย เวลาแรงงานเรียกร้องสิทธิแรงงานขึ้นมา คุณก็เอาแต่โหน SME เอามาเป็นเกราะกำบัง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ" นายสหัสวัต กล่าว

นายสหัสวัต กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้พรรคก้าวไกลได้กระชากหน้ากากของนักการเมืองบางกลุ่มที่แฝงตัวเป็นหนึ่งเดียวกับนายทุน แล้วคอยขัดขวางสิทธิประโยชน์ของแรงงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ วันนี้ก็เห็นแล้วว่านักการเมืองบางกลุ่มเกาะกินเป็นหนึ่งเดียวกับทุน วันนี้แม้เราจะเสียโอกาสของคนหลายสิบล้านคน แต่สิ่งหนึ่งที่เราทำสำเร็จคือการกระชากหน้ากากคนพวกนี้ออกมาให้เห็น ว่าคนพวกนี้ยืนอยู่ข้างใคร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

ประธาน กมธ.ที่ดินเล็งขอถกที่ดินเขากระโดงเป็นวาระด่วนบอกไม่มีการเมือง!

'กมธ.ที่ดิน' เตรียมขอมติที่ประชุม นำข้อพิพาทที่ดิน 'เขากระโดง' พิจารณาเป็นวาระด่วน คาดเร็วสุดสัปดาห์หน้า เผย ไม่นำประเด็นการเมืองเข้ามาพิจาณาร่วม ยันตรวจสอบตรงไปตรงมา

'วันนอร์' ยกเครื่อง ออกระเบียบตั้งที่ปรึกษา กมธ. สภาฯ หลังปมฉาวใช้ตำแหน่งตบทรัพย์

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยการแต่งตั้งที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิประจำคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2567 มีเนื้อหาระบุว่า

สภาฯถกด่วน 'คดีตากใบ' ก่อนหมดอายุความเที่ยงคืนนี้

สภาฯถกด่วน 'คดีตากใบ' หมดอายุความเที่ยงคืนนี้ 'รอมฏอน' ตั้งคำถามจำเลยลอยนวลต้องรับผิดชอบหรือไม่ 'กมลศักดิ์' ขอบคุณนายกฯ แสดงความเสียใจ ขอรัฐบาลแก้กม.ไม่ให้ขาดอายุความ