3 มี.ค. 2567 – สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,289 ตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงรัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เมื่อตอบได้มากกว่า 1 ท่าน พบว่า 5 อันดับแรกรัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 67.5 รองลงมา อันดับที่สอง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 36.0 อันดับที่สาม ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 32.9 อันดับที่สี่ ได้แก่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 26.0 และอันดับที่ห้า ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร้อยละ 21.8 ตามลำดับ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึง รัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ไขปัญหายาเสพติดและจัดระเบียบสังคม พบว่า 5 อันดับแรก รัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ไขปัญหายาเสพติดและจัดระเบียบสังคม ได้แก่ รัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ไขปัญหายาเสพติดและจัดระเบียบสังคม ร้อยละ 60.9 อันดับที่สอง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 33.9 อันดับที่สาม ได้แก่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุติธรรม ร้อยละ 29.4 อันดับที่สี่ ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 29.1 และอันดับที่ห้า ได้แก่ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 27.3 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลสำรวจของซูเปอร์โพล พบด้วยว่า 5 อันดับแรก รัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ไขปัญหา ปากท้อง อาชีพการงาน และที่ดินทำกิน ได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 65.4 อันดับที่สองได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 30.8 อันดับที่สามได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 30.5 อันดับที่สี่ ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร้อยละ 26.3 และอันดับที่ห้า ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร้อยละ 24.6 ตามลำดับ
เมื่อสอบถามถึง ระยะเวลาการให้โอกาส รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทำงานบริหารประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.1 ระบุอยู่ครบวาระ รองลงมาคือร้อยละ 10.4 ระบุ 3 ปี ร้อยละ 5.0 ระบุ 2 ปี และร้อยละ 6.5 ระบุไม่เกิน 1 ปี ตามลำดับ
รายงานของซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้โอกาสรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีทำงานบริหารประเทศต่อจนอยู่ครบเทอมในการประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือนแรก และพบว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดอันดับหนึ่งในทุกโผของการประเมินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การแก้ไขปัญหาปากท้อง อาชีพการงานและที่ดินทำกิน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูลและนายภูมิธรรม เวชยชัย ติด 1 ใน 5 ของทุกการประเมิน ในขณะที่ อันดับของรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละหน้างานของการประเมิน เช่น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ติดอันดับในการแก้ปัญหายาเสพติด และนายวราวุธ ศิลปะอาชา ที่ติดอันดับในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าประชาชนยังไม่รู้จักรัฐมนตรีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่จำเป็นต้องมีการรณรงค์เสริมสร้างการรับรู้ของประชาชนต่อผลงานของรัฐมนตรีแต่ละท่านในช่วงเวลาที่ประชาชนยังให้โอกาสรัฐบาลทำงานบริหารประเทศต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชำแหละ! ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ทำไม 'ปชป.' ติดลบ 'พท.' คะแนนบวก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คำตอบ:เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ทำไม เพื่อไทยคะแนนบวก ประชาธิปัตย์ ติดลบ
ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจชัด ปชป. เสียคะแนนนิยมหลังประกาศร่วมรัฐบาล
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความนิยมต่อประชาธิปัตย์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 1,346 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
เย้ยแรง! ‘อุ๊งอิ๊ง’ เหมือนคนตาบอด ต้องใช้ ‘ทักษิณ’ นายกฯตัวจริงจูงเดิน ไม่นั้นบริหารปท.ไม่สำเร็จ
สถานะของคุณอุ๊งอิ๊งใน ตอนนี้ เปรียบเหมือนผู้พิการทางสายตา หรือคนตาบอดที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้านำทาง หรือพี่เลี้ยงคอยพยุงหรือคอยจูง
ประชาชนไม่มีความสุขต่อเงินในกระเป๋า หวังรัฐบาลใหม่ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง รอยต่อรัฐบาล กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ
โพลหวังอิ๊งค์เร่งแก้ปากท้อง
โพล 2 สำนักประสานเสียง คนส่วนใหญ่หนุน “แพทองธาร” หวังแก้ปัญหาปากท้องโดยด่วน
'ซูเปอร์โพล' เผยประชาชน 51.7% เชื่อมั่นนายกฯ 'อุ๊งอิ๊ง'
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความเชื่อมั่น ต่อ นายกรัฐมนตรี คนใหม่ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)