'เศรษฐา' โชว์วิสัยทัศน์ 'จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง' ขอฉายแสงสว่างอนาคต 8 ด้าน ลั่นยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก บอกในน้ำมีปลา ในนามีข้าว และต้องมีตังค์ในกระเป๋าด้วย
22 ก.พ.2567 - ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” โดยเป็นการกล่าววิสัยทัศน์ 8 ด้าน ได้แก่ 1.ศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว 2. ศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ 3.ศูนย์กลางอาหาร 4. ศูนย์กลางการบิน 5. ศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค 6. ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต 7. ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิตอล และ8. ศูนย์กลางทางการเงิน ทั้งนี้ มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ หัวหน้าส่วนราชการ ปลัดกระทรวง อธิบดี ธนาคารแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน เข้าร่วม
นายเศรษฐา กล่าวช่วงหนึ่งที่น่าสนใจว่า ความขัดแย้ง ปัญหาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บดบังศักยภาพ บดบังแสงสว่างของประเทศไทย ตั้งแต่ 6 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ความสงบ ความสมัครสมานสามัคคี ความร่วมใจกันของพวกเรา เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่เราจะเริ่มต้นให้ชาวโลกรู้ว่าแสงสว่างในประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการเฟ้นหาซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อเสน่ห์ของประเทศไทย เป็นเรื่องสำคัญและนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนเห็นด้วยและร่วมมือร่วมใจผลักดันให้เกิดขึ้น เช่น มวยไทยสามารถผลักดันได้ง่ายมาก เพราะคำว่ามวยไทยเป็นการใช้คำทับศัพท์ ซึ่งมีคำว่าไทยอยู่ อย่างประเทศอังกฤษที่มีค่ายมวยไทยกว่า 4,000 ค่าย มีครูมวยไทยที่ออกไปสร้างอาชีพ และนำเงินกลับมาได้มาก นอกจากนี้ กางเกงมวยไทยที่แฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลกนำไปใส่ ทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทั้งกางเกงมวยไทย มงคล ที่รัดแขนจะเป็นของที่ระลึกเมื่อนักท่องเที่ยวบินมาประเทศไทย ซึ่งจะสร้างเงินให้คนไทย และรัฐบาลควรที่จะต้องสนับสนุนเชิญชวนให้ชาวโลกมาเที่ยวเมืองไทย โดยให้ทำความรู้จัก ซึ่งเราจะจัดงานศิลปะวัฒนธรรม คอนเสิร์ตระดับโลก ที่ผลักดันโดยรัฐบาล
“เมื่อ 2 วันก่อนที่ผมพูดไปก็เป็นดราม่านิดหน่อยเรื่องของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินนักร้องระดับโลก เราก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่มาที่นี่ แน่นอนว่ามีขีดจำกัดหลายอย่าง ซึ่งเราจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไปว่ามันคืออะไร ทั้งนี้เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้มีการเซ็นสัญญากับสิงคโปร์ว่าหากจะมาแสดงคอนเสิร์ตในอาเซียน ก็ขอให้มาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศสิงคโปร์ประเทศเดียวในอาเซียน ทำให้คนที่จะเข้าไปดูคอนเสิร์ตจากประเทศต่างๆก็บินเข้าไปที่สิงคโปร์ และจับจ่ายใช้สอยที่สิงคโปร์ สามารถเอาศิลปินใหญ่ระดับโลกมาแสดงในประเทศไทยได้จะสามารถดึงดูดให้คนเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมากและเราก็สามารถจัดกิจกรรมอื่นล้อไปกับคอนเสิร์ตได้ด้วย นอกจากนี้ก็ควรมีการแก้ไขกฎหมายปรับเปลี่ยนเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้สอดคล้องกับบริบทโลกด้วย “นายกฯ กล่าว
นายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลตั้งเป้าประเทศไทยจะก้าวไปเป็นที่ 1 ของภูมิภาค ด้วยข้อได้เปรียบทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว ภูมิอากาศที่อบอุ่น ตลอดปีโครงสร้างที่พร้อมต่อยอด และที่สำคัญคือศักยภาพของคนไทย ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ (Medical Hub) เพราะระบบพยาบาลของประเทศไทยเรา เป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งในปี 2566 การท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์และสุขภาพสร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 4 หมื่นล้านบาท ไทยจึงมี 3 เหตุผลหลักที่ทำให้เป็นเลิศทางการแพทย์สำหรับคนทั่วโลก 1.โรงพยาบาลที่ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ โรงพยาบาลเอกชนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 2.บุคลากรทางการแพทย์ ล้วนมีฝีมือเยี่ยม ประกอบกับไมตรีจิตของคนไทยสร้างความสบายกาย สบายใจให้กับผู้รับการรักษา 3.ราคาสมเหตุสมผล ประเทศไทยค่ารักษาถือว่าถูกเมื่อเทียบกับการไปหาหมอในหลายประเทศ นอกจากการแพทย์ ประเทศไทยก็มีชื่อเสียงด้านการดูแลสุขภาพ สปาไทย นวดแผนไทย แพทย์แผนไทย
นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกจากมาตรการที่จะสร้างรายได้แล้ว คนไทยต้องมีระบบรักษาพยาบาลที่ดี ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ทั่วถึงและสมศักดิ์ศรีด้วย 30 บาทรักษาทุกที่ นำร่องไปแล้ว 4 อีกไม่นานเพิ่มเป็น 12 และจะครบทุกจังหวัด ในสิ้นปีเราจะใช้ระบบ AI เชื่อมฐานข้อมูล อัพเกรดระบบการแพทย์ ให้คนไทยที่ไปหาหมอต่อจากนี้ คนไข้อาจจะไม่รู้จักหมอ แต่หมอจะรู้จักคนไข้ จากข้อมูลการใช้บริการทางการแพทย์ตลอดชีวิต และเราจะเพิ่มบุคคลากรทางการแพทย์และพยาบาลให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน พร้อมดูแลความเป็นอยู่ของแพทย์ พยาบาล ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แบ่งเบาภาระ ที่สำคัญป้องกันปัญหาสมองไหล ด้วยมาตรการทั้งหมด จะทำให้ไทย เป็น Medical Hub ของ Southeast Asia มีระบบพยาบาลชั้นเลิศสำหรับคนไทย ไม่ให้คนไทยมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และกลายเป็นจุดขายที่นำเงินเข้าประเทศไปพร้อมกัน
นายเศรษฐา กล่าวว่า การยกระดับเกษตรกรรม ประเทศไทยเป็นประเทศที่เกษตรกรรม มีรายได้ต่ำ ซึ่งรัฐบาลทุกพรรคอยากดึงศักยภาพเกษตรกรขึ้นมา 3 เท่าภายใน 4 ปีของรัฐบาลนี้ นอกจากนี้จะส่งเสริมการผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาด รวมไปถึงพืชแห่งอนาคต เช่น เห็ดแครง โดยในสัปดาห์หน้าจะลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูว่าอาหารการกินมีอะไรดีบ้าง เพื่อนำไปเสนอ อย่างปลานิลสายน้ำไหลตัวละ 3,000- 4,000 บาทที่ภาคใต้ ที่ตนจะลงไปก็จะดึงศักยภาพตรงนี้ออกมา และการไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่ต้องพูดถึงความไม่สงบ ไม่ต้องพูดถึงความขัดแย้ง เราจะพูดถึงโอกาสเพียงอย่างเดียวที่รัฐบาลนี้จะนำมาให้ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านนโยบายต่างๆ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ขอเติมอีกอย่างมีตังค์ในกระเป๋า ไม่หยุดแค่นี้ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่มีตังค์ในกระเป๋าไม่ได้
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เรามั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นจุดศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด ขณะที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล คนไทยไม่ได้เก่งน้อยในด้านเทคโนโลยี แต่เราขาดโอกาส ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมในการที่จะเข้าสู่ดิจิทัล ทำให้เกิดเจ้าสัวน้อยในวงการอุตสาหกรรมได้ เรามีบุคลากร มีสถานศึกษา ซึ่งเวลาที่ตนไปไหนก็จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนบุคลากร โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิ้ลได้มาขอเจอกับตนทำให้ภูมิใจมาก แม้จะไม่ได้พูดตรงๆว่าต้องการอะไร แต่เขารู้สึกประทับใจว่าประเทศไทยมีนักพัฒนาแอพต่างๆกว่า 3 แสนคน ซึ่งถือว่าเยอะมาก เขาจึงอยากหาโอกาสมาร่วมกับไทย เพราะฉะนั้นเราจะต้องเห็นโอกาสดังกล่าว เพื่อเข้าถึงโอกาสเหล่านั้น และต้องเก็บบุคลากรเหล่านี้ไว้ในประเทศไม่ให้เขาอยากอยู่นอกประเทศ เพื่อทำการพัฒนาประเทศต่อ
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้บริษัทใหญ่ๆอยากลงทุนในประเทศไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Huawei Microsoft Google ถ้าเป็นเช่นนี้ลูกหลานของเราจะมีเงินเดือนเป็นล้าน เหล่านี้เราจึงต้องพยายามดึงดูดบริษัทเหล่านี้มาลงทุนในประเทศไทย เพราะลงทุนครั้งหนึ่งเป็นหลายๆล้านบาท สิ่งเหล่านี้จะเป็นสารตั้งต้นดึงดูดให้อุตสาหกรรมใหญ่ๆอยากมาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถจ้างคนได้ในราคาที่สูงมาก เดือนมีนาคมตนเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อกลับมาแล้วก็จะเร่ง โดยวันที่ 14 มี.ค.นางจีนา ไรมอนโด รมว.พาณิชย์สหรัฐอเมริกา จะบินมาเจรจาเรื่องนี้ โดยเฉพาะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประเทศไทยอาจจะมีบริษัทผลิตชิปมาลงทุน เรามีกองทุนเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามา แต่เราจะต้องมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถ เพราะฉะนั้นเรื่องของการศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นายเศรษฐา กล่าวตอนท้ายด้วยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคล ที่เราต้องให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดของบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลนี้ได้สั่งการแล้วว่าเรื่องของถนน เรื่องสายไฟลงดิน ขยะ จะต้องมีการบริหารจัดการไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมมา ซึ่งเรื่องที่พูดมาทั้งหมดอยากจะฉายแสงสว่างอนาคตที่ดี และหวังว่าวันนี้ประชาชนจะเห็นอนาคตที่ดี และพวกเราทุกคนที่นั่งในที่นี้ เป็นบุคคลที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงได้ เราทุกคนจะร่วมกันในวันนี้ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานเราทุกคนแน่นอน อย่างที่กล่าวในเบื้องต้นเรามี 8 หัวข้อ พบกันอีกครั้งในวันที่ 1 มีนาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตามสูตร! ฟื้นคณะกรรมการ 6 ชุดแก้ปัญหาสมัชชาคนจน
'ชูศักดิ์' ถก คกก.สมัชชาคนจน ตั้ง 6 กก. สมัยเศรษฐา เร่งวางแนวทางแก้ 4 เรื่องด่วน
'คำนูณ' เตือนอย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย! ชี้ไทยไม่รับอำนาจศาลโลกมา 64 ปีแล้ว
นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
อดีตบิ๊กศรภ. แนะนายกฯอิ๊งค์ 5 ข้อ ก่อนโชว์วิสัยทัศน์ครั้งสำคัญ
พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
'สมศักดิ์' เชื่อไม่ซ้ำรอยรัฐบาลเศรษฐา โยนฝ่ายกฎหมายแจง 6 ประเด็นคำร้องยุบพท.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. สาธารณสุข ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมืองในขณะนี้โดยเฉพาะกรณีนายธีรยุทธ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้องในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย(พท.)
ย้อน ลมปาก 'ณัฐวุฒิ' ประกาศทิ้ง 'เพื่อไทย' อยู่ด้วยไม่ได้กับพรรค 2 ลุง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Live “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ”