ประเทศไทยต้องปกครองด้วย ระบอบสังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

16 ก.พ.2567 - ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กว่าประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบสังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

เราหวังมาโดยตลอดว่า ถ้าเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แล้วนั่นคืออุดมการณ์ที่สุด

แต่ตลอดมา เราได้แต่ประชาธิปไตยจอมปลอม ประชาธิปไตยบิดเบี้ยว ประชาธิปไตยสามานย์ ที่ไม่ได้นำความมั่นคง สงบสันติสุขเจริญรุ่งเรืองและเป็นธรรม อย่างแท้จริงมาสู่ชาติบ้านเมืองและประชาชนเลย ตรงกันข้ามกลับนำความขัดแย้ง แตกแยกและความเหลื่อมล้ำมาสู่สังคมอย่างกว้างขวาง ทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิต

เราต้องกำหนดออกแบบให้ชัดเจนขึ้นไปอีก ไม่ใช่เพียงประชาธิปไตย แต่ต้องเป็น ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม มีธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรม และกำกับโดยแนวทางของสังคมสวัสดิการ ซึ่งแตกต่างจากสังคมนิยมเต็มรูปแบบ ทุนนิยมเสรี รัฐสวัสดิการหรือ ประชานิยม

ไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสรีที่นำไปสู่การผูกขาดโดยคนกลุ่มน้อยที่สร้างความเหลื่อมล้ำในชาติแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา คนจนยิ่งจนลง คนรวยก็ยิ่งรวยขึ้น

ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มาตั้งแต่เริ่มต้นกำเนิดประเทศและเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศสยามและประเทศไทย

พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมใจหนึ่งเดียวของประชาชนคนในชาติ โดยไม่แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ไม่เป็นพรรคใดเป็นพวกใด จึงสามารถจรรโลงกอบกู้ประเทศชาติไทยให้อยู่ยั้งยืนยงได้

หากประเทศไทยไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแล้วไซร้ หรือหากเราใช้ระบบการเลือกตั้งแบบประเทศอื่น เราก็จะสูญเสียความเป็นศูนย์รวมใจหนึ่งเดียวของคนทั้งชาติ แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ประเทศไทยคงถึงการล่มสลายไม่สามารถคงความเป็นชาติไทยไว้ได้

และนั่นเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า พระมหากษัตริย์ประมุขของประเทศไทย เป็นความมั่นคงของชาติ

ความเป็นประมุขของพระมหากษัตริย์ไทย ต้องเป็นประมุขที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นแต่ในนาม หรือเป็นเฉพาะในทางพิธีกรรม

พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ใช่เจว็ด

พระมหกษัตริย์ในฐานะประมุข จึงต้องมีพระราชอำนาจ มีหน้าที่และความรับผิดชอบสำคัญใน 2 ด้าน คือ

1. ความมั่นคงของชาติ

2. ความผาสุกของประชาชน (ทุกหมู่เหล่าโดยไม่แบ่งแยก)

ความมั่นคง และความยืนยงคงอยู่ ของชาติไทยและความผาสุกของประชาชนไทย ต้องขึ้นอยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างขาดมิได้

ผู้ใดต้องการเปลี่ยนแปลงยกเลิกล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จากความเป็นประมุขของประเทศไทย ย่อมล้มล้างการปกครองและเป็นปฏิปักษ์ต่อความมั่นคงของประเทศชาติไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' ชี้นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร บทลงโทษไม่ควรรุนแรงถึงขั้นตัดสิทธิ-ยุบพรรค 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์การเมืองปี 2568 มีโอกาสเกิดคดีความที่นำมาสู่การยุบพรรคการเมือง และตัดสิทธิ สส. ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับองค์กรที่มีหน้าที่วินิจฉัย

'ชูศักดิ์' ดักคอฝ่ายค้านยื่นซักฟอก บอกปม 'ชั้น14-MOU44' คุยนานแล้วไม่มีน้ำหนัก

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบมีการลงมติตามมาตรา 151 ในสมัยประชุมนี้ว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน แต่ตนคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นขึ้นอยู่กับประเด็น

เชือดนิ่มแต่เจ็บจี๊ด! 'นิพิฏฐ์' ตอกกลับ 'เด็จพี่-พายัพ' ตำหนิ 'ชวน หลีกภัย'

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า สันดานเดียวกัน คบกันได้ ผมอ่านข่าว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ นายพายัพ ปั้นเกตุ ออกมาวิจารณ์ท่านชวน

'ภูมิธรรม' มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม 4 ปีแน่!

'ภูมิธรรม' มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เชื่อปี 68 ไม่มีเหตุวุ่นวายนำสู่รัฐประหาร ชี้ ปชต.ไม่ควรสะดุดขาดตอน ย้ำสัมพันธ์ทหารดีมาก มอง 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยธรรมดาของคนอยู่ ตปท.