'ศิริกัญญา' รอบอร์ดดิจิทัลเคาะนิยาม 'วิกฤตเศรษฐกิจ' ยันใช้สภาขวางทุกวิถีทาง

‘ศิริกัญญา’ ชี้มัวรอดิจิทัลวอลเล็ตคลอด ทำโครงการอื่นสะดุด เสียโอกาสพยุงเศรษฐกิจ เชื่อรายงานป.ป.ช. สารตั้งต้นฟ้องศาล ยันก้าวไกลไม่ร้องแน่ ลั่นใช้วิธีการสภาฯ สกัดทุกวิถีทาง

9 ก.พ. 2567 – ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งข้อเสนอแนะ 8 ข้อเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตให้รัฐบาล ว่า เป็นมติของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตน่าจะดีที่สุด ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการประชุมกันเร็วๆ นี้ หลังจากที่ว่างเว้นมาประมาณหนึ่งเดือน และสัปดาห์หน้าเราน่าจะได้ทราบความคืบหน้าอื่นๆ เพิ่มเติม หลังจากที่ชะงักงันกันมานาน ทั้งนี้ ไม่มีใครไม่เห็นด้วยว่าเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ดี แต่จะเข้านิยามของวิกฤตสากลหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีการพูดคุยกัน แต่ที่แน่ๆ คือเศรษฐกิจไม่ดีเราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆ เข้ามาพยุงเศรษฐกิจให้สามารถกระเตื้องขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตาม การที่เราไปใจจดใจจ่ออยู่กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียวนั้น อาจทำให้โครงการอื่นที่ต้องเกิดขึ้นแล้ว ณ วันนี้ โดยไม่ต้องรอไปถึงเดือนพฤษภาคมหรือไกลกว่านั้นต้องมาแล้ว เพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ แต่เมื่อต้องมารอดิจิทัลวอลเล็ต จึงทำให้ทุกอย่างต้องดีเลย์ออกไป รวมถึงเสียโอกาสที่จะพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวให้เร็วขึ้นได้

เมื่อถามว่า นิยามของคำว่าวิกฤตเศรษฐกิจควรต้องให้จบใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตที่มีองค์ประกอบมาจากทั้งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะกรรมการกฤษฎีกา น่าจะสามารถตกลงกันได้ว่านิยามของวิกฤตเศรษฐกิจคืออะไร และสามารถที่จะบอกได้แล้ว ณ วันนั้นว่าสามารถที่จะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้หรือไม่ และเป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อตามที่กฤษฎีกาได้พูดไว้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวว่า หากรัฐบาลเดินหน้าก็ดูเหมือนมีคนที่จ้องจะร้องเรียน มองว่าโครงการนี้น่าจะสะดุดหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเตือนมาตั้งแต่ต้น หากเลือกทางนี้ ทางที่จะลุยไฟด้วยการออก พ.ร.บ.เงินกู้ ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกร้องแน่นอน

“แต่ไว้ใจได้ว่าพรรคก้าวไกลไม่ร้องแน่นอน เพราะเราไม่เห็นด้วยที่องค์กรอิสระจะเข้ามาแทรกแซงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในลักษณะนี้ การที่จะมาบอกว่าทำได้หรือไม่ได้นั้น ก็ไม่ใช่จะใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระ ให้เป็นหน้าที่สภาฯ ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจมากกว่าว่าเราจะให้โครงการนี้ผ่านหรือไม่ และแน่นอนว่าหากรัฐบาลใช้เสียงข้างมากก็น่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ แต่ดิฉันก็ห้ามไม่ได้จริงๆ ที่จะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะรายงานของ ป.ป.ช. ที่น่าจะเป็นสารตั้งต้นสำหรับการเขียนคำร้องได้เป็นอย่างดี“ น.ส.ศิริกัญญา ระบุ

เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลจะใช้วิธีการของสภาฯ ในการสกัดใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ใช่ เราคงจะใช้วิธีการในสภาฯ ทุกวิถีทางในการที่จะสกัดโครงการนี้ และจะพูดเหตุผลในการที่เราสกัดให้ประชาชนได้รับทราบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลรธน.มติ 6 ต่อ 3 ชี้โทษอาญา ตาม พ.ร.บ.เช็คไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 วินิจฉัย ว่าพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คปี 2534 มาตรา 4 วรรคสอง เฉพาะในส่วนโทษทางอาญา ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ