'จตุพร' เชื่อเกมยุบก้าวไกลเหลว ชี้เลือกตั้งหน้ากวาดไม่ต่ำ 250 เสียง

3 ก.พ.2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในการเฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวันที่ 2 ก.พ.67 โดยเชื่อว่าหากขบวนการดีลเล่นเกมยุบพรรคก้าวไกล ย่อมเป็นวิธีจัดการปัญหาที่ผิดพลาด เพราะยิ่งจะทำให้ก้าวไกลกล้าแกร่ง เติบโตด้วยจิตวิญญาณมั่นคงครั้งใหญ่

“การล้มล้างการปกครองหรือสถาบัน ใครจะมีปัญญา นอกจากคนมีปืนเท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งเป็นความจริงของการเปลี่ยนแปลงทั่วโลก ดังนั้นหลักสำคัญคืออะไรที่แก้ไขปัญหาไม่สอดคล้องข้อเท็จจริงจะยิ่งสร้างปัญหาลุกลามโดยไม่จำเป็นอะไรเลย” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนว่าการเริ่มต้นดีลทั้งหมดได้สร้างแรงเหวี่ยงให้เกิดวิกฤตของประชาชน และเป็นปัญหาความไม่ชอบธรรม อีกทั้งสร้างแบบอย่างการตระบัดสัตย์ และสมคบกันทั้งระบบเพื่อย่ำยีกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ขณะนี้

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญกระทำการต่อสิ่งหนึ่ง ถึงแม้จะฆ่าแล้วตายและจบหรือไม่ แต่การตัดสินใจนั้นยิ่งกลับนำพาไปสู่การเกิดใหม่ที่ใหญ่กว่าโดยไม่จำเป็น เพราะมาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหามีอยู่แล้ว กฎหมายอาญาก็ยังมีอยู่ อีกอย่างการแก้ ม.112 ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เสนอไปก็ไม่ได้เข้าสภา หรือเข้าก็ตก แล้วอยู่ดีๆเราจะหาเรื่องว่า ปั่นให้กระทบกระเทือนสถาบันได้อย่างไร เมื่อมีเส้นทางอื่นจัดการได้กลับไม่นำมาใช้

“สิ่งสำคัญในขณะนี้คนที่คิดแต่ละเกมต้องการอะไร ถ้าดีลกันมา แต่ตัวเองไม่สามารถรักษาไว้ได้ ส่วนการจะลงมือกระทำการใดๆ ต้องหลีกเลี่ยงกระทบสถาบันหลักของชาติ เพราะยิ่งหวั่นวิตกเรื่องนี้มากหรือไปจัดการเขามาก เขาก็ยิ่งโต” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ถัดจากนี้ไปการออกแบบรัฐธรรมนูญ 2560 ให้สรรหา สว. มาจากสาขาอาชีพ จะเสร็จก้าวไกลหมด และ สว. จะมาเลือกองค์กรอิสระอีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ก้าวไกลยังจะ ได้รับเลือกการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างมากมายด้วย จึงน่าสนใจในการจัดการปัญหาที่มุ่งแต่จะฆ่าให้ตาย แต่ก็ไม่ตายจริงและยิ่งสกัดกั้นก็ยิ่งโต

นายจตุพร กล่าวว่า การยุบพรรคก้าวไกลนั้น ขณะนี้มีความลังเลสูงมาก หากมีการปล่อยวางไม่ไปติดยึดกันแล้ว เมื่อถูกยุบพรรคจิตวิญญาณก็จะไปสิงร่างพรรคใหม่อื่นๆ ที่ตั้งขึ้นมาไปเรื่อยๆ ดังนั้นเท่ากับคุณตีร่างได้ แต่ตีจิตวิญญาณไม่ได้ เพราะไปสร้างความกลัวเกินจริงขึ้นมาหลอกตัวเองว่าจะจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าขณะนี้คงจะมีวิธีคิดการแก้ไขปัญหากัน โดยสามารถตีความได้ว่าการเข้าข่ายก็ยังไม่ถึงขั้นล้มล้าง แม้แต่เป็นนายกฯ 8 ปียังตีความให้เหลือ 6 ปีได้ แล้วจะเอาอย่างไรกับบ้านเมืองนี้ ดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นมาได้

“ถึงวันนี้สิ่งสำคัญที่สุด ต้องใช้กระบวนการกฎหมายเข้าจัดการตามลักษณะความผิดในเรื่องนั้นๆ จึงจะสอดคล้องความจริงมากที่สุด แต่เมื่อเลือกวิธียาแรงแบบมุ่งยุบพรรคแล้ว ท้ายที่สุดแล้ว มันแรงได้จริงหรือไม่” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สถานการณ์ถัดจากนี้ไป เมื่อแดงกลายเป็นส้มจึงเป็นเรื่องปกติ แต่เหลืองกลายเป็นส้มที่มีมากขึ้น และเห็นเป็นปกติแล้ว หากพิจารณาด้วยข้อเท็จจริง การเสนอปฏิรูปต่างๆของทุกพรรคที่ไม่รักษาข้อเสนอของตัวเองไว้ ได้ไปรวมอยู่ที่นโยบายของพรรคก้าวไกลหมดแล้ว จนกลายเป็นความหวังของประชาชนขึ้นมาได้ในขณะนี้ ความจริงของประเทศนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างถูกต้องเพื่อให้จัดการกันอย่างเรียบร้อยภายใต้ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ต้องเป็นธรรม เสมอภาค ไม่เหลื่อมล้ำ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวล คือ การดีลการเมืองรอบนี้เป็นการทำลายประเทศทั้งระบบ ทำลายความรู้สึกของประชาชน แล้วจะเป็นตำราของการหน้าไหว้หลังหลอก ต้องเป็นคนตระบัดสัตย์จึงจะเป็นคนที่ได้ดี คนที่รักษาคำสัตย์กลายเป็นโง่ของประเทศนี้ คนกะล่อนปลิ้นปล้อนตลบตะแลงเท่านั้นที่จะมีอำนาจ

“คาดว่าพรรคก้าวไกลยิ่งยุบจะยิ่งเติบโตขึ้น เพราะจิตวิญญาณการต่อสู้มีในระบบคิดอย่างเข้มข้น มีระบบการจัดการอย่างลุ่มลึก ดังนั้นเมื่อพรรคถูกยุบแล้วพรรคยิ่งเติบโตขึ้น เพราะเมื่อเก่าตายไปก็จะมีคนใหม่มาเสริมอีก แสดงถึงการอยู่ด้วยระบบการจัดการทางความคิดและอุดมการณ์ของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในการต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งพรรคอื่นตามไม่ทัน ถึงที่สุดแล้วการยุบก้าวไกล เชื่อว่าขบวนการออกแบบเริ่มลังเลสถานการณ์ แต่ถ้าจะเร่งให้เกิดการยึดอำนาจอีกครั้ง ก็ตามหาตัวเร่งของสถานการณ์ใหม่ อีกอย่างถ้ายุบแล้วโต และไม่มีการยึดอำนาจ มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลจะได้ไม่ต่ำกว่า 250 เสียงแน่” นายจตุพร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 20)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

'นิพิฏฐ์' จะเสียภาษีให้น้อยที่สุด หวั่นถูกนำไปสร้างความเข้มแข็งให้นักการเมือง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีคำกล่าวว่า “หากต้องการรู้ว่าประชาชนเป็นอย่างไรให้เป็นนักการเมือง หากต้อง