ก้าวไกลเกาะติด! ลุยสอบงบ 'กรมการข้าว-กรมฝนหลวง'

'กมธ.ติดตามงบฯ' เดินหน้าสอบ ข้อร้องเรียนกรมการข้าว-กรมฝนหลวงฯ 'กรุณพล' จับผิดงบวันข้าวแห่งชาติจาก 5 ล้าน เพิ่มเป็น 15 ล้าน 'ไอซ์' เผยหนังสือร้องเรียนมีล็อกสเปกเครื่องบิน 2 ลำมูลค่าพันกว่าล้าน

01 ก.พ.2567 - ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ แถลงว่าทาง กมธ.จะบรรจุระเบียบวาระการพิจารณางบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมการข้าว และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่ปรากฏตามข่าวที่เกี่ยวข้องกับนายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ซึ่ง กมธ.มีหน้าที่วิเคราะห์พิจารณาศึกษางบประมาณอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับคำถามจำนวนมากในส่วนของงบประมาณทั้ง 2 กรม ว่ามีการส่อเค้าความทุจริตหรือไม่ จึงอยากใช้พื้นที่กมธ.ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ กมธ.ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนแล้ว และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รวมถึงได้ประสานไปยังอธิบดีทั้ง 2 กรม ปรากฏว่าอธิบดีกรมฝนหลวงฯ ยืนยันว่าวันที่ 15 ก.พ. ตารางงานว่าง ดังนั้น ทางกมธ.จะได้ออกหนังสือเชิญมาประชุมในวันดังกล่าว โดยในวันนี้ (1 ก.พ.) ในที่ประชุมก็จะขอมติในที่ประชุมเพื่อบรรจุระเบียบวาระที่จะมีการประชุมในวันที่ 15 ก.พ. จึงหวังว่าอธิบดีกรมฝนหลวงจะเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามในส่วนของกรมการข้าว ซึ่งขณะนี้ประสานไปยังอธิบดีแล้วแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเพราะเจ้าหน้าที่ประสานงานแจ้งว่าอธิบดีขอดูหนังสือเรียกประชุมก่อน

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องการให้ใช้เวที กมธ.เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้อธิบดีได้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และกมธ.จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยจะพิจารณาว่าการใช้งบประมาณในส่วนนี้มีปัญหาบกพร่องตรงไหนที่สังคมควรจะรับทราบบ้าง โดยทางกมธ. ต้องการให้พิจาณาในวัที่ 15 ก.พ. อธิบดีทั้ง 2 คน มาชี้แจงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ไปศึกษางบประมาณของกรมการข้าวมาโดยตลอด และนายกรุณพล ก็ได้เข้าร่วมประชุม กมธ.ที่เกี่ยวกับกรมการข้าวด้วยเช่นกัน

ด้านนายกรุณพล กล่าวว่า ได้เคยสอบถามจากรองอธิบดีกรมการข้าวที่มาชี้แจงกับ กมธ.เมื่อเดือน ต.ค.2566 ถึงข้อสงสัยต่างๆ ที่มีประชาชนและข้าราชการในกรมการข้าวร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่วันนี้งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการบีซีจีข้าวรักโลกของกรมการข้าว ก็ได้ถูกโอนย้ายไปเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยในบางโครงการ แม้จะเป็นเงินเล็กน้อย เช่น งานวันข้าวแห่งชาติในปี 2566 ใช้งบในการจัดงาน 5 ล้านบาท แต่สิ่งที่เราลงไปเจอคือมีการใช้ให้หน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ​ เป็นผู้จัดจ้างงาน เป็นผู้ทำงาน และใช้อุปกรณ์ภาครัฐในการจัดงาน ทั้งๆที่ในทีโออาร์เขียนว่าให้ออร์แกไนซ์เป็นผู้จัดงาน ซึ่งเป็นคำถามที่เราถามไปยังกรมการข้าวแต่จนบัดนี้ ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วยังไม่ได้คำตอบ และล่าสุดในวันที่ 4-6 มิ.ย. จะมีการจัดงานวันข้าวแห่งชาติ ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ​ เสด็จเป็นประธานในงานนี้โดยกรมการข้าวใช้งบ 15 ล้านบาท เราจึงอยากขอคำชี้แจงจากอธิบดีกรมการข้าวว่าเหตุใดเมื่อพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาเป็นประธาน ทำไมถึงต้องเพิ่มงบขึ้นอีก 10 ล้านบาท ถือว่าเหมาะสมหรือไม่กับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันนี้ และผู้ใดเป็นผู้ได้รับสัมปทานในงานนี้ เป็นเจ้าเดิมหรือไม่ ยังจำเป็นต้องใช้พนักงานของภาครัฐเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างและเข้ามาทำงานเองหรือไม่ เพราะข้อกล่าวอ้างว่าเอกชนไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ

นายกรุณพล กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีงบประมาณการจัดซื้อปุ๋ยจุลินทรีย์ รวมถึงโครงการข้าวรักโลก ทั้งที่ปัจจุบันเราทราบดีว่าปุ๋ยในประเทศขาดแคลน ทำให้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นจาก 700 บาท เป็น 1,000 บาท ซึ่งทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากราคาปุ๋ย ทำให้เกิดโครงการปุ๋ยจุลินทรีย์ แต่ตัวชี้วัดการใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ทำให้ผลลัพธ์การผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน ซึ่งเราเห็นงบประมาณบางส่งที่ส่งปุ๋ยจุลินทรีย์ไปตามศูนย์ข้าวต่างๆ ในบริมาณที่เท่ากัน ทั้งๆที่ปริมาณศูนย์ข้าวแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ซึ่งตั้งแต่รองอธิบดีกรมการข้าวเข้ามาชี้แจงจนถึงบัดนี้ยังไม่ได้คำตอบ และได้เพียงแค่คู่มือการใช้ปุ๋ย รวมถึงการพัฒนาพันธุ์ข้าวตั้งแต่อธิบดีคนปัจจุบันขึ้นมารับตำแหน่งมีความล่าช้า และมีข้อสงสัยมากมาย เราจึงหวังว่าข้อสงสัยเหล่านี้อธิบดีจะเป็นผู้มาตอบคำถามด้วยตัวเอง

ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกมธ. กล่าวว่า ตั้งแต่ กมธ.ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายศรีสุวรรณและนายยศวริศ นั้นมีการตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้ประธาน กมธ.หรือเป็นสส.ของพรรคก้าวไกล ลงไปรับหนังสือแต่เมื่อเรื่องถูกส่งเข้ามาในกมธ.แล้วก็เป็นหน้าที่ของ กมธ.ที่จะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งในส่วนของกรมฝนหลวง มีข้อสังเกตที่แนบมาในหนังสือร้องเรียนคือมีการล็อกสเปกการจัดซื้อเครื่องบินจำนวน 2 ลำ มูลค่า 1,188 ล้านบาท โดยให้ประเทศ ประเทศเดียวในการส่งทีโออาร์เข้าร่วมประมูล และมีการไปดูงานที่บริษัทที่ส่งทีโออาร์เข้ามาร่วมประมูล

เมื่อถามว่า ตอนมายื่นหนังสือนายศรีสุรรณได้บอกเหตุผลหรือไม่ว่าทำไมต้องเป็น สส.พรรคก้าวไกลมารับหนังสือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้บอก แต่ยืนยันว่าต้องเป็นก้าวไกล

เมื่อถามย้ำว่ามองหรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลอาจถูกเป็นเครื่องมือได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนนั้นได้ผ่านมาแล้ว และได้ปรากฎว่ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าทั้ง 2 คน ใช้ กมธ.เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์จริง ส่วนเนื้อหาในข้อร้องเรียนที่ให้เลขาฯตรวจสอบพบว่า ข้อมูลทุกอย่างในข้อร้องเรียนไม่ว่าจะเป็นชื่อโครงการ จำนวนงบประมาณต่างๆ ไม่ได้เป็นข้อความเท็จ ดังนั้น เราต้องดำเนินตามกระบวนการต่อไป ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ เช่น มีการล็อกสเปก การไปศึกษาดูงานกับต่างประเทศกับผู้รับเหมา ก็ต้องตรวจสอบต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา'มั่นใจ'เท้ง'จะพา ปชน.ขึ้นแท่นเหมือนที่ตัวเองเคยทำได้!

'พิธา' บอก ดูผลโพลไม่ดูตัวเลข แต่ดูว่าใครทำ หลัง คนไม่เชื่อมั่นฝ่ายค้าน เชื่อตัวเองผ่านมาได้ 'เท้ง' ก็ต้องผ่านได้ ขออย่าใส่นามสกุลให้พรรคประชาชน หลังถูกโจมตีเป็นพรรคพม่า-บีอาร์เอ็น

ผู้นำฝ่ายค้านขึงขังเดินหน้าตรวจสอบจริยธรรม สส.

'ผู้นำฝ่ายค้าน' ยันเดินหน้าตรวจสอบจริยธรรม สส. ในสภา ไม่ละเว้นแม้เป็นสส.ด้วยกัน มองเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องภายใน ไม่สามารถตัดสินได้

'ณัฐพงษ์' ชี้รัฐบาลปัดความรับผิดชอบไม่พ้นแม้ 'พล.อ.พิศาล' ลาออก

'ณัฐพงษ์' จี้รัฐบาลอย่าปัดความรับผิดชอบ ตามจำเลยคดีตากใบรับผิดก่อนคดีหมดอายุความ หวั่นประชาชนหมดความเชื่อมั่นรัฐบาล