'ธรรมนัส' ขออย่าหลงประเด็น ยัน ก.เกษตรเป็นฝ่ายถูกกระทำ ใครพาดพิงฟ้องกลับแน่

"ธรรมนัส" ขออย่าหลงประเด็น ยันกระทรวงเกษตรฯเป็นผู้ถูกกระทำ หลังอธิบดีกรมการข้าวแจงปมศรีสุวรรณรีดทรัพย์ ถามกลับ ใครรับได้บ้าง มีคนไปยุ่งเรื่องครอบครัว บอก ขอให้เอากลับไปคิดเอง เรื่องเกิดตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ทำไมมาร้องตอนนี้ ย้ำ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่ถ้าลูกน้องถูกรังแกโดยที่ไม่ผิด จะไม่ยอมปล่อย-ใครพาดพิงตัวเอง พร้อมดำเนินคดี

30 ม.ค.2567 - ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังจากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แถลงชี้แจงในข้อกล่าวหากรณีถูกพาดพิงว่ามี ‘นายหมู’ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นคนพาภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว นำเงินไปมอบให้กับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 โดยอ้างว่าต้องการให้เรื่องร้องเรียนยุติลง และไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อองค์กรนั้น

โดยผู้สื่อข่าวได้ถาม ว่าอยากบอกอะไรกับอธิบดีกรมการข้าวหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ต้องบอกอะไร เราลูกพระเจ้าตากอยู่แล้ว โทรคุยกับอธิบดีกรมการข้าวกันทุกวัน ถ้าวันไหนไม่คุยกันรู้สึกเหงา ไม่ต้องพูดอะไรมาก ส่วนภรรยาของอธิบดี ก็พูดคุยกัน พร้อมหันหน้าไปถามอธิบดีการข้าวว่า ”ใช่ไหม“ ก่อนอธิบดีกรมการข้าว จะตอบกลับว่า “ขอบคุณครับนาย ที่ให้กำลังใจกัน”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตั้งแต่มีการร้องเรียนเรื่องแรกเมื่อปีที่แล้ว การมีหนังสือร้องเรียนเข้ามา จะเท็จหรือจริงอย่างไร ก็ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้โอกาสหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนได้ชี้แจง ซึ่งปลัดกระทรวงก็ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ปีที่แล้ว และพบว่าไม่ผิด

โดยเฉพาะประเด็นงบประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่เราจะนำมาพัฒนาคุณภาพข้าว สู่ ประชาชนทั้งหมด ทั้งนี้ พอมีปัญหาเรื่องการที่จะต้องนำไปเยียวยาชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ก็นำงบไปหมด กระทรวงไม่ได้ใช้เงินเลย จึงอยากถามว่าจะไปร้องเรียนเรื่องอะไร

ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างการพัฒนาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่เกษตรกรชาวนาได้ประโยชน์ทั้งนั้น โดยสรุปได้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ผิด แล้วจะไปเอาผิดกับเขายังไง ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นกรรมการ แต่เป็นคนสั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับเรื่องร้องเรียน และหน่วยงานที่ถูกพาดพิงก็ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่เมื่อเป็นประเด็นสำคัญ ที่สังคมให้ความสนใจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไร ก็จะต้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งหมดมีกฎหมายรองรับตามระดับขั้นตอน

สำหรับกรณีที่มีนักร้องมาร้องเรียนนั้น เรื่องอะไรก็ถูกจับมาเป็นประเด็น ร.อ.ธรรมนัส มองว่า ไม่ถูก เพราะต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ถูกร้องและผู้ร้องก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำงานของตนไม่ได้ทำตามกระแส เช่น หากมีเรื่องร้องเรียนมาปุ๊บก็จะปลดออกจากตำแหน่ง หรือสั่งย้ายออกจากตำแหน่ง ในอดีตก็มีบทเรียน คนสั่งย้ายถูกฟ้องตามมาตรา 157 ติดคุกติดตารางมีเยอะแยะ ดังนั้น ต้องมีหลักการทำงาน ตามกฎหมาย ไม่ใช่กดหมู่ตามกระแสหรือตามนักร้อง เมื่อถูกร้องแล้วมาลงโทษลูกน้องมันไม่ใช่แนวทางของตนเอง

ส่วนกรณีที่มีที่ปรึกษารัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว ถูกพาดพิงนั้น ตนเองและอธิบดีกรมการข้าวก็ได้ชี้แจงไปทั้งหมดแล้ว เชื่อว่ามีหลายกรมในสังกัดกระทรวงเกษตรถูกร้องเรียน เพียงแต่ว่าไม่มีใครกล้าเปิดหน้า ปกป้ององค์กรของตนเอง ซึ่งมีหลายกระทรวงที่รัฐมนตรีหลายคนได้พูดคุยกัน แต่ทุกคนก็ไม่อยากให้เป็นประเด็น ในส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวข้องกับเกษตรกรกว่า 50 ล้านคน เวลาจะทำอะไรก็ต้องละเอียดอ่อน ไม่ทำตามกระแส โดยหลังเกิดเรื่องดังกล่าว ตนเองพบว่ามีพวกหิวแสง จุดประเด็นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง วันนี้หลายคนก็ถูกฟ้อง

อีกกรณีที่มีการพาดพิงถึงอดีตนักการเมือง ‘ป.’ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่อยากให้ไปพาดพิงถึง เพราะชั่วโมงนี้ตนเองมาปัดเป่ามาปัดกวาดบ้านหลังนี้ให้สะอาด ในสิ่งที่ผ่านมาจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากตนเองเป็นนักการเมืองจะต้องให้เกียรตินักการเมืองด้วยกัน

“ไม่ใช่ว่าผมมานั่งอยู่ตรงนี้แล้วจะไปซัดคนเก่า ไม่ใช่แนวทางของธรรมนัส การเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง การจะพูดอะไร ก็ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรถูกนายศรีสุวรรณร้องเรียนเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นการร้องเรียนอย่างเดียว หรือเป็นการรีดทรัพย์ด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า อธิบดีกรมฝนหลวงถูกเรียกทรัพย์ในลักษณะเดียวกันกว่า 100 ล้านบาทนั้น ตนเองไม่ทราบ และไม่มั่นใจ เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่ง แต่เมื่อไหร่ที่ทราบว่าลูกน้องถูกรังแก แล้วไม่ผิด จะไม่ยอมปล่อยให้ลูกน้องตนเองถูกรังแก จะต้องบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก

ซักว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนทำไมถึงเพิ่งถูกร้องในตอนนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวสั้นๆ ว่า “ขอให้เอากลับไปคิดเอง”

ส่วนกรณีที่อธิบดีกรมการข้าวกับภรรยาทำการล่อซื้อนั้น ตนเข้าใจได้ ว่าหากอธิบดีโดนคนเดียวคงไม่เป็นไร แต่อธิบดีไม่ยอมให้คนในครอบครัวถูกก้าวล่วง จึงอยากถามกลับว่า ใครรับได้บ้าง เมื่อมีคนไปยุ่งเรื่องครอบครัว เรื่องลูก เรื่องภรรยา มันเกินจะรับได้ เรื่องดังกล่าวขออย่าหลงประเด็น ว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นจำเลย พร้อมย้ำว่า กระทรวงเกษตรเป็นผู้ถูกกระทำ

ส่วนกรณีที่มีคนพาดพิงว่ามีการสมรู้ร่วมคิดในเรื่องดังกล่าวนั้น ร.อ.ธรรมนัสถามกลับว่า “สมรู้ในเรื่องอะไร ถ้าผมสมรู้จริงๆ ผมจะพูดคุยกับอธิบดีหรอ ระดับรัฐมนตรีว่าการฯ ไปสมรู้กับคนรีดเงินล้านห้าเนี่ยนะ”

ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า เรื่องนี้ตนเองให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายข้าราชการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ถ้ามีใครพาดพิงถึงตนเอง ก็จะดำเนินคดีหมด เพราะตนเองไม่รู้เรื่องด้วย ตนเองไม่ทราบว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง