ปชป. สับเละ 4 โครงการกระตุ้นศก. จี้หยุดโครงการดิจิทัล วอลเล็ต

ปชป.สับเละ4โครงการกระตุ้นศก.  ชี้ “ดิจิทัล วอลเล็ต” เป็นไปไม่ได้ เตือนเศรษฐาหยุดโปรยทานเศรษฐี จี้ “เพื่อไทย” รับสารภาพหาเสียงเพ้อเจ้อ จวก คิดใหญ่ทำเป็น วาทกรรมหลอกลวง แนะรบ.กลับสู่โลกความเป็นจริง รื้อนโยบายก่อนหกเดือนถึง1ปี เศรษฐกิจดำดิ่งลึก

21 ม.ค.2567  – นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตสส.กทม. กล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ 4 โครงการของรัฐบาล ว่า ล่าสุดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทที่จะแจกให้กับประชาชน ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หน่วยงานหลัก 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงค์ชาติ) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง รายงานตั้งแต่ต้นปีก่อนเลือกตั้งไม่มีตัวชี้วัดบ่งบอกว่าประเทศจำเป็นต้องกระตุ้นแบบปูพรมแจกเงิน ซึ่งจะทำให้คนรวยที่ไม่เดือดร้อนได้รับประโยชน์ไปด้วย  เข้าข่ายลักษณะโปรยทานให้กับเศรษฐี

นายชนินทร์ กล่าวว่าขณะนี้เศรษฐกิจประเทศมีปัญหาเฉพาะจุด โดยอยู่ที่ปากท้องของผู้มีรายได้น้อย ที่เดือดร้อนจริงรอใช้เงินอยู่ ฉะนั้นรัฐบาลสามารถเร่งแก้ไขได้โดยแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กับคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยความยากจน หรือกลุ่มเปราะบาง ไม่เกิน 20 ล้านคน ใช้งบประมาณไม่ถึง 2 แสนล้านบาท นั่นหมายความว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไม่ผิดวินัยการคลัง สามารถใช้งบประจำ หรืองบเพิ่มเติมได้ แต่ควรปรับเงื่อนไขการให้เงินที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ใช้ของที่มีอยู่แล้ว เช่น แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ที่สำคัญต้องพิจารณาเงื่อนไขการใช้เงินไม่ให้ผลประโยชน์ไปตกอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่ และให้ไปถึงรากหญ้าอย่างแท้จริง 

“พรรคเพื่อไทยตั้งใจหาเสียงแบบประชานิยมตั้งแต่แรก เพ้อฝันให้ประชาชนหลงเคลิ้ม ผมว่าทางที่ดีที่สุดเพื่อไทยต้องรับสารภาพผิดที่หาเสียงพูดเพ้อเจ้อในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และอย่าอ้างว่าต้นเหตุที่ทำไม่ได้มาจากกฎหมายหรือมีคนคัดค้าน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการพูดไม่คิด คิดไม่รอบคอบ คิดใหญ่ทำเป็น เป็นวาทกรรมหลอกลวงของการเมืองที่ต้องการหาเสียงแบบเก่า ขอให้หยุดยื้อความสุขคนจน เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ถือว่าจบแล้วมีหลายด้านที่รออยู่ แม้รัฐบาลจะผลักดันให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่สุดท้ายก็จะไปเจอกับด่านวุฒิสภา รวมถึงยังจะโดนยื่นตีความทางกฎหมายอีกด้วย” นายชนินทร์ กล่าว

นอกจากนี้ นายชนินทร์ ยังกล่าวถึงโครงการอีซี่ อี-รีซีท (Easy e-Receipt) ว่ากระตุ้นไม่เข้าเป้า ผิดเป้าหมายทั้งกลุ่มคนที่รับประโยชน์ และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการล้วนเป็นคนที่มีฐานะ มีขั้นตอนที่ยุ่งยากต้องมีกระบวนการผ่านบริษัท คนกลาง Service Provider ทำการรับรอง ซึ่งต้องเสียเงิน ทำให้คนเข้าร่วมโครงการลำบาก สรุปสุดท้ายโครงการนี้คนที่ได้ประโยชน์ คือคนรวยและผู้ประกอบการร้านค้ารายใหญ่ แต่รัฐเสียรายได้จัดเก็บไปเกือบหมื่นล้านบาท  โครงการนี้แม้จะมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ควรคำนึงว่าจะทำอย่างไรให้กระตุ้นจากข้างล่างขึ้นบน ไม่ใช่บนลงล่าง 

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการลดภาษีให้อสังหาริมทรัพย์ ก็ไม่สามารถช่วยคนระดับล่างให้มีที่อยู่อาศัยได้ และไม่สามารถกระตุ้นยอดการโอนหรือยอดขายคอนโดที่พักอาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทได้ เพราะผู้ซื้อไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรืออาจเข้าถึงแต่กลับถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อ กู้ไม่ผ่าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ซึ่งมาจากภาคธุรกิจอสังหาฯ ทราบดีว่าควรจะต้องแก้ไขอย่างไร 

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่ารัฐบาลต้องกลับมาสู่โลกความเป็นจริง โครงการใหญ่ที่เป็นของตายจับต้องได้และลงทุนแล้วคือโครงการเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ไม่ควรทิ้ง ขณะที่โครงการแลนด์บริดจ์ที่นายกฯเดินทางไปเกือบทั่วโลก ใช้งบประมาณไปหลายร้อยล้านบาท ถามว่ามีประเทศใดบ้างรับคำเป็นเรื่องเป็นราว การเป็นเซลส์แมนต่างประเทศต้องปรับจูนการสื่อสารให้ชัดเจน ไม่ใช่พูดเหมือนเป็นไบโพลาร์ ไปต่างประเทศพูดอย่าง บอกว่าประเทศพร้อมเศรษฐกิจน่าลงทุน แต่อยู่ไทยกลับบอกว่าประเทศเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ที่สำคัญสมัยที่ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาฯ เคยศึกษาแล้วพบว่าโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อขนถ่ายสินค้าข้ามฝั่งเกิดขึ้นยาก

“อีก 6เดือนถึง1ปี ถ้ารัฐบาลไม่ปรับรื้อนโยบายเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจประเทศดำดิ่งโงหัวไม่ขึ้นจริง และรัฐบาลชุดนี้จะต้องรับผิดชอบ รัฐบาลจะต้องมีชุดนโยบายที่จับต้องได้และถูกจุด ทั้งการเงินและการคลังต้องเดินไปด้วยกัน ดอกเบี้ยจะไปอย่างไร การใช้เครื่องมือภาษีที่มีอยู่ จะลด จะเพิ่ม ต้องใช้ให้ถูกจุด ถูกกลุ่ม นอกจากนี้ต้องเร่งรัดการใช้งบประมาณโดยเฉพาะงบลงทุนของงบประมาณปี 67 ส่วนการจัดทำงบประมาณปี68 ต้องถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกประการหนึ่งที่สำคัญต้องทำโดยเร่งด่วน คือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่จะทำให้ลดการเหลื่อมล้ำทางรายได้ และโอกาสการทำงานของประชาชนในประเทศ” นายชนินทร์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

เปิดใจ 'ชวน' วางมือการเมืองหรือลงเลือกตั้งต่อ? เชื่อ 'อภิสิทธิ์' ไม่ไปไหนรอกลับมาช่วย ปชป.

นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภากล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเอง หลังเป็นส.ส.มา 17 สมัยติดต่อกัน หลังมีกระแสข่าวทั้งพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่ส่งนายชวน ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าและกระแสข่าวเตรียมวางมือทางการเมือง

นายกฯเศรษฐา ปลื้มชาวศรีสะเกษ ต้อนรับสุดอบอุ่น ยันปลายปีนี้ได้เงินหมื่นแน่นอน

นายกฯ กราบ ‘รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์’ สวดชยันโต ให้พร ‘ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติอยู่ดีมีสุข’ ย้ำคำมั่นชาวศรีสะเกษ ได้ดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ปลายปี ยันสส.ดูแลพื้นที่ดี นำปัญหาสะท้อนรัฐบาล

แขวนงบดิจิทัลวอลเล็ต! กมธ.งบ 68 ข้องใจไม่มีเอกสารแจงรายละเอียด

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธาน

อดีตคนก้าวไกลซัด 'ศิริกัญญา-ก.ก.' เรื่องยื่นศาลระวังซ้ำรอยเรื่องแก้ ม.112

'คารม'โต้กลับ 'ศิริกัญญา-ก้าวไกล' กรณีเตรียมยื่นศาลปกครองระงับงบดิจิทัลวอลเล็ต แนะดูข้อกฎหมายให้รอบคอบ เดี๋ยวจะหน้าแตก