กกต.ร่ายยิบลงดาบฟันซ้ำ 'เกศกานดา' อดีตผู้สมัคร ปชป.

กกต.ฟันซ้ำใบดำ-ใบแดง 'เกศกานดา' ผู้สมัคร สส.กทม.ปชป. อีกคดีซื้อเสียงแลกคะแนนเพิ่ม สั่งดำเนินคดีอาญาพร้อมพวก

17 ม.ค.2567 - เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พร้อมดำเนินคดีอาญา น.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัคร สส.กทม.เขต 16 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพิ่มเติมอีกหนึ่งคดี

โดยเป็นกรณีที่ กกต.ได้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง สส. วันที่ 2 พ.ค.2566 เวลากลางวัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า นายสถาพร ไกรถวิล ผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของ น.ส.เกศกานดา ผู้ถูกร้องที่ 1 โทรศัพท์ติดต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวนัดหมายให้ น.ส.เกศกานดา มาพบกับที่บ้านพักของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในช่วงเวลาค่ำของวันเดียวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง และมีบทสนทนาตอนหนึ่ง ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวถามว่า “เอาแบบเปล่าเลยเหรอ” และนายสถาพร ตอบว่า “เอาแบบนั้นแหละ ไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ต้องจด ทำอะไรก็ทำไปเลย ผมบอกน้องมันแล้ว บอกให้ไปเหอะ พวก ๆ กันทั้งนั้น ก็เดี๋ยว ช่วยสัก 40 เสียง 30 เสียง ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะว่าเราก็อยากให้ตังค์เอาไว้ใช้ ไม่เสียหายอะไรหรอก”

บทสนทนาดังกล่าวมีลักษณะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการแจกเงินซื้อเสียงว่าจะต้องจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่ ต่อมาเวลาประมาณ 18.10น.ของวันเดียวกัน นายสถาพร ไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวขอให้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้แก่ น.ส.เกศกานดา เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเป็นประธานหมู่บ้านวงศกร 5 และเป็นตัวแทนหรือหัวคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นในพื้นที่

จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. น.ส.เกศกานดา นายฐนวัฒน์ ภูมี ผู้ถูกร้องที่ 3 และพยานผู้ถูกร้อง เดินทางมาถึงบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ผู้ถูกร้องทั้งสามพูดคุยกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในทำนองขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวแบ่งคะแนนเสียงของหมู่บ้านวงศกร 5 ให้แก่น.ส.เกศกานดา ซึ่งบทสนทนาช่วงหนึ่ง น.ส.เกศกานดา พูดว่า “เกศก็พอรู้ว่าพี่สถาพรโทรมาคุยกับพี่เรื่อยๆ วันนี้เลยอยากมาหาพี่ เกศอยากจะขอโอกาส เพราะว่าแนวโน้มที่โพลออกมา เกศก็มีโอกาส แต่เกศตามอยู่นิดหนึ่ง แต่ของคุณบอนคะแนนมันไม่ขึ้นเลย ไม่ติด 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 เลยด้วยซ้ำ เกศเลยว่าในเมื่อเกศเป็นคนแพ้ เกศหาคะแนนเพิ่มอยู่แล้ว ดังนั้นเกศอยากจะขอคะแนนที่ไปให้คุณบอน ขอถ่ายมาเป็นฝั่งเกศ เพราะว่าเกศมีโอกาสมากกว่า ไม่อย่างนั้น ก็เสียของ เกศก็ไม่อยากให้คะแนนมันหายไปเลย เกศแพ้มาก่อน เกศหาคะแนนเพิ่มอย่างเดียว เอาทุกวิถีทาง อย่างที่พี่โตบอก เอาทุกวิถีทาง” โดยคำว่าพี่โต หมายถึงนายฐนวัฒน์ และบอนหมายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง คนหนึ่ง ซึ่งนายฐนวัฒน์ พูดว่า “ตอนนี้โพลติด 1 ใน 3 มีเบอร์ 4 เบอร์ 14 เบอร์ 11 แต่เบอร์ 5 มีปละปลาย ไม่ติด 1 ใน 4 ถ้ามันพอพลิกเกมได้ก็อยากจะพลิก เพราะว่าพี่ดันทางพี่บอนใช่ไหมมันก็ไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะเปอร์เซ็นต์มันไม่ขึ้นเลยนะ เผื่อว่าพี่มาช่วยเกศ” นายสถาพร พูดว่า “ตามนิดเดียว วันนี้ซอย 2 ซอยพวกเย็บผ้า พนักงานแรงงาน ผมก็ใส่ไปแล้ว 20 คน ช่วยเหลือไปคนละ 500 ห้าร้อยมันถึงแฮปปี้ไง ถ้าได้มาสัก 200กว่า มันจะทำให้ตัวเลขมันขึ้น” ปรากฏตามบันทึกเสียงการสนทนา ตั้งแต่นาทีที่ 26.21
จากบทสนทนาดังกล่าว น่าเชื่อว่าผู้ถูกร้องทั้งสามพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งและการแจกเงินซื้อเสียง ประกอบกับจากการ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด นาทีที่ 1.42.30 ปรากฏภาพ น.ส.เกศกานดา นำธนบัตรจำนวนหนึ่งวางบนโต๊ะ แล้วนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าววางทับเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า “อันนี้เกศฝาก ฝากวางไว้ก่อน เกศไม่สร้างความลำบากใจ เกศเข้าใจ แต่ถ้าทอนตรงไหนมาได้ก็ทอนมาให้เกศหน่อย ด้วยของตัวพรรค บอนเองอ่ะคนในพื้นที่เขาก็ไม่ได้ชอบเยอะ เกศก็เลยหนีไปอยู่ประชาธิปัตย์ไง ยังไงให้เกศมีคะแนนบ้างล่ะ” ปรากฏตามบันทึกเสียงการสนทนา นาทีที่ 48.26 ซึ่งเมื่อพิจารณาภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ นาทีที่ 1.42.30 เป็นต้นไป และขยายภาพขณะที่ น.ส.เกศกานดา วางวัตถุบนโต๊ะ และขณะผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวหยิบวัตถุดังกล่าวขึ้นมาจากโต๊ะนำมาใส่กระเป๋ากางเกง และล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงนำมาใส่ถุงพลาสติกใสและเก็บวัตถุดังกล่าวไว้ในตู้ น่าเชื่อได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นธนบัตรที่อยู่ในลักษณะพับครึ่งจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่เอกสารหาเสียงเลือกตั้งตามที่ผู้ถูกร้องทั้งสามกล่าวอ้าง เนื่องจากหากเป็นเอกสารหาเสียงเลือกตั้งที่มี ลักษณะเป็นบัตรแนะนำตัวตามที่นายฐนวัฒน์ ส่งมอบให้แก่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนเพื่อประกอบการให้ถ้อยคำแล้ว การวางบัตรแนะนำตัวซึ่งเป็นกระดาษที่มีความหนาและมีน้ำหนักมากกว่าธนบัตรนั้นไม่จำต้องนำวัตถุอื่นมาวางทับไว้ ซึ่งตามภาพที่ปรากฏวัตถุดังกล่าวมีลักษณะโค้งงอเหมือนกับธนบัตรจำนวน หนึ่งที่พับครึ่งไว้ มิใช่ลักษณะของบัตรแนะนำตัว

อีกทั้งจากการตรวจสอบการสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ ระหว่างผู้ร้องกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 วันที่ 7 และวันที่ 12พ.ค.2566 หลังจากที่ น.ส.เกศกานดา ให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวแล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวประสงค์จะขอคืนเงินบางส่วนให้นายสถาพรเนื่องจากเพิ่งแจกเงินไปหนึ่งหมื่นกว่าบาท กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า น.ส.เกศกานดากระทำการและก่อสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นายสถาพร และนายฐนวัฒน์ ให้เงินดังกล่าว แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง อันเป็นการ ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 16 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.เกศกานดา มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิ เลือกตั้งของ น.ส.เกศกานดา อินช่วย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138วรรคหนึ่ง และให้ดำเนินคดีอาญา แก่ น.ส.เกศกานดา, นายสถาพร และนายฐนวัฒน์ ตามกฎหมายเดียวกัน มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158วรรคหนึ่ง รวมทั้งให้กันผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 มาตรา 46 ประกอบระเบียบกกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2563 ข้อ 5 และข้อ 6

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

'พงษ์ศักดิ์' แชมป์เก่า 6 สมัย ร้องประธาน กกต. สั่งระงับรับรองผลเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น

นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 2 ได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังตรวจพบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 1 ได้หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเฟสบุ๊ค จ

‘สนธิญา’ ยื่น กกต.สอบ ‘ทักษิณ’ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกม.เลือกตั้งท้องถิ่น

สนธิญา ยื่น กกต.สอบ ทักษิณ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น-พรรคการเมือง-รธน. ห้ามคนต่างชาติเอี่ยวการเลือกตั้งทุกระดับ  พ่วงร้องสอบหาเสียงหยาบคาบ เป็นเท็จ อาจทำเลือกตั้ง อบจ.อดุรฯ โมฆะ 

ฟิล์ม-รัฐภูมิ ยื่น กกต.ไขก๊อกพ้นสมาชิก พปชร. ‘ไพบูลย์’ ชี้เรื่องส่วนตัวไม่กระทบพรรค

เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังไม่รู้ว่าเขาผิดหรือเขาถูก เพราะเราไม่เกี่ยวข้อง และเรื่องนี้ไม่กระทบกับภาพลักษณ์พรรค ไม่ทำให้เรามีปัญหา

ดร.ณัฏฐ์ ชี้เลือกนายกอบจ.อุดร เพื่อไทยชนะไม่ขาดจะกระทบสนามใหญ่ เตือน 'ทักษิณ' ปากพาซวย!

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ 'ทักษิณ ชินวัตร' ยกทัพไปช่วยหาเสียงนายกอบจ.อุดรธานี แม้เกณฑ์คนไปฟังเยอะ คะแนนสวนทาง หากไม่ชนะขาด กระทบต่อสนามใหญ่ ยกวาทะ 'ถ้าจะเลือกทักษิณ ให้เลือกเบอร์ 2' ระวังทำคนหลงผิดโทษถึงคุก! 

'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???