'ดิเรกฤทธิ์' ชี้ สว. ที่ถอนชื่อออกก่อนยื่นซักฟอกรบ. ต้องตอบสังคมให้ได้

“ดิเรกฤทธิ์” ไม่กังวลสว.ถอนชื่อออกก่อนยื่นซักฟอกรบ. ชี้ ใครถอนออกต้องตอบสังคมให้ได้ แต่เชื่อเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ทำ ฟุ้ง มีแต่ลงชื่อเพิ่ม

16 ม.ค. 2566 – เมื่อเวลา 09.40 น. ที่รัฐสภา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า เราจะเสนอเรื่องไปที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค.นี้ ซึ่งเมื่อเราเสนอไปที่นายพรเพชรแล้ว นายพรเพชรจะต้องนำเรื่องส่งไปให้รัฐบาล ซึ่งขณะนี้สามารถรวบรวมเสียงได้ 90 กว่าเสียงแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการหารือกับรัฐบาลเช่นจะให้เวลาในช่วงไหนอย่างไร หรือให้เวลากี่วัน หลังจากนั้นเราจะนำเข้าสู่วิปวุฒิสภาเพื่อจัดสรรเวลากันอีกครั้ง

นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เราเป็นเหมือนผู้ก่อการ มีความคิดเห็นและได้พิจารณาถึงอำนาจและหน้าที่ รวมถึงเวลาที่มีอยู่ว่าควรจะเปิดอภิปรายหรือไม่อย่างไร หากเปิดแล้วจะได้ประโยชน์กับใคร ซึ่งเมื่อเราได้ความคิดเห็นแล้วว่าจะเปิดอภิปราย ก็ได้ส่งเรื่องไปให้สมาชิกแต่ละท่านพิจารณา ซึ่งก็พบว่ามีคนเห็นด้วยเยอะ นอกจากนี้ จะมีการส่งเรื่องไปยังกมธ.อื่นๆ ด้วยว่าท่านมีรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละหัวข้อที่เราเคยเสนอไปหรือไม่ อย่างไรบ้าง หรือจะเพิ่มประเด็นอะไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากที่ได้รับการประสานและพูดคุยเบื้องต้นนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลตอบรับมาอย่างดี ซึ่งหากท่านตอบรับ และมีความรับผิดชอบต่อสภา ก็สามารถใช้เวทีนี้มาอธิบายให้ประชาชนเพื่อคลายข้อสงสัยได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาก ไม่ใช่ปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจไปกล่าวหารัฐบาลว่าทำเช่นนั้น เช่นนี้ไม่ถูก ทั้งนี้ เมื่อเราตั้งคำถามไปแล้วรัฐบาลสามารถใช้เวลาตอบคำถามได้อย่างเต็มที่ จึงคิดว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่สำคัญ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า สว.ที่ลงชื่อไปแล้ว ท้ายที่สุดจะมีการถอนชื่อทำให้ไม่สามารถเสนอญัตติดังกล่าวได้ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่กังวล เพราะเห็นว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว รวมถึงก่อนลงชื่อก็มีการพิจารณาประเด็นต่างๆ ดีแล้ว ซึ่งหากลงชื่อและมีการถอนภายหลัง เขาก็ต้องอธิบายกับสังคมให้ได้ และคิดว่าจะมีการลงชื่อเพิ่ม ไม่มีการถอน ทั้งนี้ เราพร้อมที่จะเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ลงชื่อให้สังคมได้รับทราบ ส่วนรูปแบบการอภิปรายว่าจะเป็นในนามกมธ.หรือให้เอกสิทธ์สว.ทุกคนสามารถอภิปรายได้นั้น ต้องมีการดูรายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่กรอบเวลาที่เหมาะสมในการอภิปรายนั้น เนื่องจากเรื่องนี้เราเห็นว่าเป็นเรื่องด่วน เพราะบางเรื่องหากปล่อยให้ช้าไป แล้วหากรัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจมีการเดินเรื่องไปผิดทาง จึงคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เร่งรีบจะต้องมีการเปิดอภิปรายให้ทันเวลา ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้น หรือก่อนที่รัฐบาลจะก้าวพลาด ทั้งนี้ ตนมองว่า 1-2 วัน จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ก็อยู่ที่ความพร้อมของรัฐบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด 'ประชามติชั้นเดียว' แค่ยกแรก 'แก้รธน.ทั้งฉบับ' เจอด่านหิน-นโยบายขายฝัน!

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ กลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านด่านหินยาก แม้เพื่อไทยใช้เทคนิคช่องทางพ้น 180 วัน ผ่านร่าง พรบ.ประชามติ เป็นเพียงนโยบายในฝัน  

มติ 153 สว. ยืนประชามติ 2 ชั้น! อบรม 'ไอติม' พูดได้ไงจะมีผู้รณรงค์ให้ปชช.นอนหลับทับสิทธิ์

สว. ยกมือพรึ่บ 153 เสียง ผ่านกม.ประชามติ ฉบับกมธ.ร่วมฯ ยึดเสียงข้างมากสองชั้น ก๊วนสว.พันธุ์ใหม่ โวยดัดจริต สองมาตรฐาน โธ่! "ไอติม" โชว์กึ๋นนักเรียนนอก บอกสองชั้นเปิดช่องรณรงค์ให้ประชาชนนอนหลับทับสิทธิ์ สว.สีน้ำเงิน สวนทันควันใครจะกล้าทำแบบนั้น

กกต. ยื้อเชือด 'หมอเกศ' สั่งสอบเพิ่มปมวุฒิการศึกษา

มีรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ มีวาระพิจารณารายงานผลการตรวจสอบกรณีพญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย  สมาชิกวุฒิสภา ถูกร้องว่ากระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ

‘สว.เปรมศักดิ์’ โวย ‘รมต.’ เมินตอบกระทู้ ประชดต้องฟ้อง ‘รัฐมนเอก’ ปรับจาก ครม.

รัฐบาลน่าจะแสดงความรับผิดชอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบ ส่วนกระทู้สดไม่ได้ถามเลยแม้แต่กระทู้เดียวโดยรัฐบาลอ้างว่ามอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทยมาตอบ แต่ทางรัฐมนตรีก็เลื่อนออกไปอีก

อดีต สว. เผยความจริง 4 ข้อเรื่อง MOU 44 ได้พิสูจน์ให้คนไทยเห็นความจริงที่น่าเศร้า

ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า MOU 2544 ได้พิสูจน์ให้คนไทยเห็นความจริงที่น่าเศร้า”