ก้าวไกล เกาะติดคดี ‘ศักดิ์สยาม’ ชี้ผลออกมาไม่เป็นคุณ แค่เป็นรมต.ไม่ได้ 2 ปี

ก้าวไกล เผยคดี”ศักดิ์สยาม”พุธนี้ หากผลออกมาไม่เป็นคุณ แค่เป็นรมต.ไม่ได้ภายใน2 ปี

14 มกราคม 2566 – จากกรณีที่ ในวันพุธนี้ 17 มกราคม เวลา 14.00 น.ทาง ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัยกลางในคำร้องคดีที่ อดีตส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านฯในสมัยที่ผ่านมา ได้ร่วมกันลงชื่อ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น  อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี2543 มาตรา 4(1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)หรือไม่

ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ในฐานะแกนนำอดีตส.ส.พรรคฝ่ายค้านในสมัยที่ผ่านมาฯที่ยื่นคำร้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คดีดังกล่าว เปิดเผยว่า จะไม่ไปเดินทางไปร่วมฟังการอ่านคำวินิจฉัยกลางด้วย เพราะวันดังกล่าวติดการโหวตลงมติในการประชุมสภาฯ

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยในทางไม่เป็นคุณกับผู้ถูกร้อง(ศักดิ์สยาม) ว่า ตอนที่ฝ่ายค้านสมัยที่แล้วยื่นคำร้องไป ตอนนั้นนายศักดิ์สยาม ยังเป็นรมว.คมนาคมอยู่ แต่ปัจจุบัน นายศักดิ์สยาม ไม่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งจากการศึกษาข้อกฎหมายพบว่า หากผลออกมาในทางไม่เป็นคุณ ก็จะทำให้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีภายในสองปีนับแต่ศาลมีคำวินิจฉัยเท่านั้น  

เมื่อถามว่าหากผลออกมาในทางไม่เป็นคุณกับผู้ถูกร้อง พรรคก้าวไกล จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้เคยไปยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของนายศักดิ์สยามไว้โดยยื่นไปพร้อมๆกับตอนที่ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมกันลงชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ และต่อมา ตนก็ได้เดินทางไปยื่นเอกสารเพิ่มกับป.ป.ช.อีกหนึ่งรอบ ที่ก็ยื่นไปนานแล้ว ก็คงเป็นหน้าที่ของป.ป.ช. เพราะได้มีการยื่นเรื่องไปให้ป.ป.ช.ไปแล้ว

ทั้งนี้ คำร้องคดีดังกล่าวของนายศักดิ์สยาม พบว่าตามที่นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงว่าหากผลคำวินิจฉัยออกมาในทางไม่เป็นคุณกับผู้ถูกร้องทำให้ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ภายในสองปีนั้น พบว่าเป็นไปตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 160 (8)ที่บัญญัติ ว่า บุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีได้ ต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามคือ

“ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุกระทําการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือ 187มาแล้วยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันแต่งตั้ง”

ซึ่งกรณีของนายศักดิ์สยาม คำร้องดังกล่าว อดีตส.ส.ฝ่ายค้าน ร้องให้ศาลวินิจฉัยตามมาตรา 187 ที่บัญญัติว่า

“รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจํานวนที่กฎหมายบัญญัติและต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใด”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

'วิโรจน์' บอก 7 ส.ค. ผลออกมา ต้องมีคำอธิบายที่ปชช.เข้าใจได้

'วิโรจน์' บอกตามตรง 7 ส.ค. ก็แค่วันปกติ ยัน ไม่ตื่นตระหนก แต่ไม่ประมาท 'คดียุบก้าวไกล' หากผลเป็นลบ ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ภายใต้กรอบนิติรัฐ-นิติธรรม

'พิธา' เดินสายมู จ.เชียงใหม่

'พิธา' เดินสายมู ร่วมพิธีสงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเณศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าอาวาสมอบองค์พระให้ แต่ก็ต้องคืน เหตุมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ้ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯไปแล้ว

ก้าวไกลเพ้อชนะยุบพรรค!

ใจดีสู้เสือ! "ชัยธวัช" เชื่อ "ก้าวไกล" มีโอกาสชนะสูง อ้างยิ่งศาล รธน.ปิดไต่สวน "คดียุบพรรค" ก็ยิ่งมั่นใจในคำแถลงปิดคดี ปลุกกองเชียร์ 7 ส.ค.