เปิด 7 ประเด็น สว.ซักฟอกรัฐบาลเศรษฐา

9 ม.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเตรียมเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 โดยมีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. และนายจเด็จ อินสว่าง สว. เป็นแกนนำ

ล่าสุดมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของญัตติดังกล่าว ระบุว่า รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อ 11 ก.ย. 66 และบริหรราชการแผ่นดิน 4 เดือน แต่ไม่ได้แก้ปัญหาสำคัญตามนโยบายที่แถลง รวมถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นภายหลังจากการแถลงนโยบาาย ดังนี้

1.ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชน อาทิ การสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ ที่ยั่งยืนให้ประชาชน รวมถึงการแก้ปัญหาความยากจนที่ตั้งคำถามถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม , สภาพปัญหาการทำนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ชอบด้วยกฎหมายไม่สร้างภาระหนี้ให้ประชาชน , การแก้หนี้นอกระบบ ที่ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาต้นตอในระดับครัวเรือน, การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมประมง, การสร้างรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ

2.ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคำพิพากษาที่สะท้อนกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน, การทุจริตคอร์รัปชั่น ยาเสพติด, การลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์, การเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรที่เอื้อประโยชน์ให้นายทุน จะรับมืออย่างไร

3. ปัญหาด้านพลังงาน อาทิ การจัดการราคา ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มและน้ำมัน ปัญหกลุ่มทุนพลังงานที่มีอิทธิพลต่อการเมืองส่งผลให้ประชาชนแบกรับภาระต้นทุนราคาเชื้อเพลิง ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน

4.ปัญหการศึกษาและสังคมม อาทิ กาปฏิรูปการศึกษา ผ่านร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ, การแก้ปัญหาหนี้สินครู การจัดหลักสูตรการศึกษาให้ประชาชนเข้าใจในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปัญหาการดูแลผู้สูงวัย ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส

5.ปัญหาการต่างประเทศและท่องเที่ยว อาทิ ปัญหาจีนเทาที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, การไม่เลือกข้างความขัดแย้งของรัรฐบาลา, มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว

6.ปัญหาแก้รัฐธรรมนูญ ความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวที่ต้องอธิบายการดำเนินการ โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ประชาชนและพัฒนาประเทศ

และ 7. ปัญหาการปฏิรูปประเทศ แนวทางของรัฐบาลต่อการดำเนนิการตามแผนการปฏิรูปประเทศ

“ปัญหาข้างต้นเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่เร่งด่วน ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาโดยทันที เพราะส่งผลต่อการขับเคลื่อน ยกระดับกาารพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงบรรลุเป้าหมายให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เพิ่ม” รายละเอียดของญัตติที่เตรียมมเสนอระบุไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการเข้าชื่อของสว. เพื่อเสนอญัตติดังกล่าวต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ตาม มาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องใช้เสียงสนับสนุน 1 ใน 3 ของสว.ที่มีอยู่ หรือ 84 คนนั้น ล่าสุดหลังจากเปิดให้ สว.ร่วมกันลงชื่อ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (9 ม.ค.) พบว่าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. มียอดผู้ลงชื่อแล้ว 55 คน โดยมีทั้ง สว.สายพลเรือนและสายทหาร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นันทนา' คึก! ลั่นปฏิบัติการ สว.เล็กเปลี่ยนสภา

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะแกนนำสว.พันธุ์ใหม่ ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ปฏิ

เบื้องหลังจัดโผสภาสูง บ้านใหญ่บุรีรัมย์-สว.สีน้ำเงิน ป้องกันแรงต้านกินรวบไม่แบ่งเพื่อน  

เบื้องหลังการทำโผดังกล่าว เป็นที่รู้กันดีว่า โรงแรมพลูแมน ซอยรางน้ำ เป็นเซฟเฮ้าส์ทางการเมืองของ นักการเมือง-กลุ่มการเมือง ที่มีแบนด์พรรคคือสีน้ำเงิน

สว.กลุ่มอิสระ สะกิดจับตาชิง ‘รองปธ.คนที่หนึ่ง’ คาดลงแข่งเยอะแน่

สว.กลุ่มอิสระเผย จุดพีกชิงเก้าอี้ใหญ่สภาสูงคือ รองปธ.คนที่หนึ่ง คาดลงแข่งเยอะ ย้ำ ‘บุญส่ง’ เหมาะนั่งรองปธ.วุฒิฯ ยันเป็นเรื่องปกติหากจะคุยกับกลุ่มสีน้ำเงินก่อนโหวต  

เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ

เปิดศึกชิงเก้าอี้ ประมุขสภาสูง เสร็จสว.นํ้าเงิน

ฝุ่นตลบ! ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาสูง ล็อบบี้กันเดือด "เทวฤทธิ์” ชี้ควรเป็นคนเปิดกว้าง ให้พื้นที่เสียงส่วนน้อย ยันกลุ่มพันธุ์ใหม่ส่งชิงแน่ พร้อมเล็งเก้าอี้ประธาน

'นพดล' รับยังไม่ตัดสินใจชิงรองปธ.วุฒิสภา คนที่ 1 ขอเช็กเสียงหนุนก่อน

นายนพดล อินนา สว. กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอตัวชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1ว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ100% จะลงสมัครชิงตำแหน่งหรือไม่ ขอเวลาคิดอีก1-2วัน ต้องรอดูจะมีเสียงสนับสนุนจากเพื่อนสว.มากน้อยแค่ไหน