'สกลธี' สนใจชิงผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ รับ กปปส.ถอยห่าง พปชร. ไม่เกี่ยวข้องกัน

“สกลธี” สนใจชิงผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ รอชัดเจนก่อน ก.พ.65 รับ กลุ่ม กปปส.ถอยห่างการบริหารของ พปชร. แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเหลืออยู่

23 ธ.ค.2564 - นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตแกนนำ กปปส. และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ ไทยแลนด์ ถึงกรณี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุมีหลายกลุ่มการเมืองเริ่มเสนอตัวชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมยกตัวกอย่างกลุ่ม กปปส.ที่อาจเปิดตัวด้วย ว่าขอให้เรียนถามรัฐมนตรีดีกว่า เพราะตนกับรัฐมนตรีอาจจะเป็นกลุ่มที่เป็นเพื่อนกินเที่ยวด้วยกัน ถ้าถามตน ด้วยความที่เราคบกันมานาน รัฐมนตรีคงเห็นว่า ตนทำงานใน กทม.มา 4 ปี คงมองว่า ทำไมถึงไม่เสนอตัวเอง แต่ด้วยความสัตย์จริง ยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับรัฐมนตรีแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า การส่งสัญญาณของนายชัยวุฒิ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง นายสกลธี กล่าวว่า อาจจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจำกันได้ 1 ปีก่อน ตนเป็นหนึ่งในคนที่สนับสนุนนางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ ลงชิงผู้ว่าฯ กทม. แต่เมื่อมีอุบัติเหตุทางการเมืองก็เงียบๆซาๆกันไป เป็นไปได้ว่านายชัยวุฒิอาจจะเห็นว่าตนทำงานใน กทม.มา 4 ปี มีประสบการณ์ ทำไมถึงไม่เสนอตัวเอง

เมื่อถามว่า กรณีนางทยาถูกอุบัติเหตุทางการเมืองจนไม่สามารถลงสมัครได้แล้ว ทำให้คนหันมาสนใจชื่อของนายสกลธีใช่หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ช่วงนั้นถ้าจำกันได้ มีการเตรียมการกันอยู่พอสมควร ทั้งจัดทีมหาเสียง วางตัวผู้สมัคร ส.ก. กันพอสมควร พอเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ละคนก็กระจายกันออกไป บางคนไปอยู่กับทีมท่านจักรทิพย์ ชัยจินดา บางทีมอยู่กลุ่มรักษ์กรุงเทพ และยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ต่อ

เมื่อถามว่า ทีมที่เตรียมไว้แตกไปหมดแล้วใช่หรือไม่ นายสกลธี กล่าวยอมรับว่า ใช่ครับ ทุกคนแยกย้ายกันไป แต่ยังมีการพูดคุยกันตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตนเอง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดีอีเอส ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง พปชร. เราก็เป็นทีมดูแลพื้นที่ กทม.ของพรรค ดังนั้น แต่ละคนแยกย้ายกันไป แต่ยังมีการพูดคุยกัน รับประทานข้าวกันตามปกติ

เมื่อถามว่า ทีมที่กระจัดกระจายไปอยู่กับกลุ่มไหน นายสกลธี กล่าวว่า เท่าที่เห็นรายชื่อที่เขาส่งต่อกันทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ส่วนใหญ่ยังอยู่กับ พปชร.

เมื่อถามว่า ไม่ได้ย้ายไปอยู่กับทีมของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ใช่หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า มีบางคน แต่ไม่เยอะเท่ากับที่อยู่กับ พปชร.

เมื่อถามว่า ธงส่วนตัวยังสนใจลงผู้ว่าฯ กทม.ใช่หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า “ผมขอเรียนตรงๆ ผมทำงาน กทม.จะครบ 4 ปี เดือนเมษายนนี้ มีความสนุกกับการทำงาน มีความสนใจการเมืองท้องถิ่น แต่ต้องดูหลายๆอย่างประกอบในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าว่าความชัดเจนจะเป็นอย่างไร ผมถึงจะให้คำตอบได้ ถามว่าผมสนใจหรือไม่ ก็สนใจอยู่แล้ว เพราะอยู่ในท้องถิ่นมา 4 ปีแล้ว”

นายสกลธี กล่าวว่า ต้องดูเรื่องความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้ง และยังมีภารกิจหลายอย่างที่ยังทำค้างอยู่ หลายอย่างเป็นนโยบายมาจากนายกรัฐมนตรี เรายังทำไม่เสร็จ และอาจจะจบในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะโครงการพัฒนาคลองแสนแสบที่รับนโยบายมาจากนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เข้ามาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องทำให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางล้อ ราง เรือ และใช้พลังงานสะอาด วันนี้เสร็จเกือบหมดแล้ว ก็จะเปิดให้บริการช่วงเดือนมีนาคมนี้

เมื่อถามว่า ยังมีเงื่อนไขอะไรที่ต้องรอดูอีกหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า อาจจะเป็นรวบรวมคนที่สนใจและมีแนวทางไปทางเดียวกัน อยากพัฒนาบ้านเมือง อยากพัฒนา กทม. แต่ตนไม่ได้ปิดตาย อาจจะโดดกลับไปสนามใหญ่ก็ได้ แต่ตนยังสนุกกับท้องถิ่น มีอะไรอีกหลายอย่างต้องเรียนรู้อีกเยอะ

เมื่อถามว่า เงื่อนไขสำคัญคือต้องรอดูว่า พปชร.จะสนับสนุนด้วยหรือไม่ นายสกลธี ปฏิเสธทันทีว่า “ตรงนั้นไม่เกี่ยวเลยครับ ตั้งแต่นายณัฏฐพล นายพุทธิพงษ์ โดนคดีไปเมื่อเดือน ก.พ. กลุ่มของพวกผมใช้คำว่าถอยห่างออกมาจากการบริหาร อาจจะด้วยเหตุผลหลายอย่างภายในเรียกว่าแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ พปชร.เหลืออยู่เลย” เมื่อถามย้ำว่า หากลงผู้ว่าฯ กทม.จะลงในนามอิสระใช่หรือไม่ นายสกลธี กล่าวยอมรับว่า “ใช่ครับ ถ้าลงคงจะเป็นอย่างนั้น”

เมื่อถามถึงการเข้าพบนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. นายสกลธี กล่าวว่า ทุกปีตนกับนายณัฏฐพลจะเข้าไปขอพรปีใหม่นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ท่านถามสารทุกข์สุขดิบเรา ท่านก็ถามนายณัฏฐพลว่าตั้งแต่โดนคดีไปได้ทำอะไรมาบ้าง เป็นการพูดคุยกันเรื่องทั่วไปมากกว่า เมื่อถามอีกว่า ได้พูดคุยเรื่องอนาคตทางการเมืองและเรื่องผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า “เรียนตรงๆ ก็มีการคุยกันครับ แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะคุยกับท่านนายกรัฐมนตรี อาจจะเสียมารยาทหากนำมาเปิดเผย”

นายสกลธี กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวน่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2565 ไม่เกิน ก.พ.ก็น่าจะชัด อย่างที่เรียนว่า ตนอยากทำภารกิจ กทม.ให้ลุล่วงเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ตนอาจจะเลิกไปเฉยๆ แล้วกลับไประดับชาติก็ได้ เรื่องนี้ยังไม่แน่นอน แต่ถามว่าสนใจหรือไม่ ตนสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาศาลาว่าการ กทม.แล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลเพ้อชนะยุบพรรค!

ใจดีสู้เสือ! "ชัยธวัช" เชื่อ "ก้าวไกล" มีโอกาสชนะสูง อ้างยิ่งศาล รธน.ปิดไต่สวน "คดียุบพรรค" ก็ยิ่งมั่นใจในคำแถลงปิดคดี ปลุกกองเชียร์ 7 ส.ค.

'ก้าวไกล' มองคดียุบพรรคไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เตรียมพร้อมเป็นรัฐบาล เลือกตั้งครั้งหน้า

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิด 3 วิสัยทัศน์พัฒนาเชียงใหม่ พร้อมกับเปิดตัว นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่

'สกลธี' ยื่นลาออก พปชร. ขอไปทบทวนทำงานการเมืองในแนวทางใหม่

นายสกลธี ภัททิยกุล ยื่นหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ขอลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยให้เหตุผลว่ามีภารกิจส่วนตัวหลายประการ จึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและตำแหน่งอื่นๆ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค

‘พิธา’ แสลงหู ‘สว.สีส้ม’ ขออย่าป้ายสีเติมนามสกุลให้ใคร

‘พิธา’ ขออย่าป้ายสีเติมนามสกุลให้ใคร หลังเลือก สว. ผุดคำว่า ‘สว.สีส้ม’ เชื่อส้มในที่นี้คือ ‘จุดยืนประชาธิปไตย’ ย้ำหลักกฎหมายพรรคการเมืองเอี่ยวไม่ได้ มองจะได้สภาสูงที่มีคุณภาพ แม้ไม่ใช่เลือกตั้งทางตรง