'เพื่อไทย' เชื่อโหวตงบฯ วาระแรกสส.รัฐบาลไม่แตกแถว พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะฝ่ายค้าน

'เพื่อไทย' เชื่อโหวตงบฯ วาระแรก สส.รัฐบาลไม่แตกแถว พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะฝ่ายค้าน ขออย่าอคติจ่ายเงินดิจิทัล กู้เป็นแบคอัพ กระตุ้นการหมุนเวียนภานใน เหตุเศรษฐกิจโลกย่ำแย่

5 ม.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวถึงการอภิปรายพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ตลอด 2 วันที่ผ่านมาว่า ทำหน้าที่ได้ดีทั้งสองฝ่าย แต่ละฝ่ายเอาข้อมูลของตัวเองมาคุยกัน โดยเฉพาะงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงกลาโหม ระบุว่า ตัวเลขงบฯ ที่แต่ละท่านได้พูดมานั้นไม่ตรงกัน ไม่ใช่ข้อเท็จจริงสักเท่าไหร่ ดังนั้นเราต้องกลับไปดูว่าตัวเลขตัวไหนที่มีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามอย่าให้ตนต้องไปให้คะแนนฝ่ายค้านในการอภิปรายในครั้งนี้เลย เพราะถือว่าเขาได้ทำการบ้านมาดี อย่างที่ทราบเราได้เอกสารกระชั้นชิด มีเวลาตรวจสอบตัวเลขเพียง 9 วัน และเป็นช่วงของเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเรามีความล่าช้าในการทำงบประมาณชุดนี้ ถ้ารวมวาระ 2 และ 3 จนถึงการทูลเกล้า และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เราจะต้องอภิปรายในวันที่ 3-5 ม.ค.นี้

เมื่อถามว่าวันนี้จะมีการโหวตแล้วในส่วนของ รัฐบาลมีการกำชับ เสียงสส.อย่างไรบ้าง นายสรวงศ์ กล่าวว่า คาดว่าเสียงของฝ่ายรัฐบาลไม่น่าจะขาด เว้นแต่เสียงของนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชี​รายชื่อ​ พรรค​เพื่อ​ไทย​ ที่มีอาการป่วย อย่างไรก็ตาม นี่คือวาระแรกเท่านั้น ตนมองว่าเราน่าจะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพราะงบประมาณที่จะผ่านสภาเป็นผลประโยชน์ของประชาชน

เมื่อถามต่อว่า ตัวเลขสส.ที่จะมีการโหวตในวันนี้ สะท้อนถึงเสถียรภาพและเอกภาพของรัฐบาลได้เร็วหรือไม่ นายสรวงษ์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ตนมองว่าเสียงของเราจะผนึกกันแน่นอน ไม่น่าจะมีเสียงแตก สังเกตจากการอภิปรายของแต่ละท่าน งวดนี้จะไม่มีการปกป้อง หรือพูดถึงกระทรวงที่พรรคของตัวเองดูแล แต่จะเป็นการอภิปรายในภาพรวมและแตะทุกกระทรวง

เมื่อถามถึงการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อกำชับอะไรหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี นายกฯ ได้บอกให้เรารับฟัง และให้ทีมงานจดประเด็นในสิ่งที่ฝ่ายค้าน ได้เสนอแนะมา และพร้อมที่จะเข้าไปดูแลปรับแก้ในชั้นกรรมาธิการ การอภิปรายเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมามีสส. บางท่าน เข้าใจว่า ในชั้นกรรมาธิการสามารถปรับแก้งบประมาณได้แต่ในข้อเท็จจริงแล้วไม่สามารถทำได้ ที่ทำคือมีแต่ปรับลด ส่วนจะปรับลดและทำอะไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับชั้นกรรมาธิการ ซึ่งต้องรอดูในอีก 3 เดือนข้างหน้า

ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านมองว่าจะเป็นการตบทรัพย์หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลแต่ที่นายกได้ให้สัมภาษณ์ไป คิดว่าในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ไม่มีแน่นอน เชื่อว่าสส.แต่ละท่านมีวุฒิภาวะมากพอ และจะปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบ

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีการกู้เงินเพื่อนำไปใช้นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความชัดเจนเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีเป็นคนตอบจะดีกว่า เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เรามีหน้าที่ในการตรวจสอบ ถ้าฝ่ายรัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้อง เราก็มีโอกาสที่จะทักท้วงได้

" เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนนอกมองเข้ามา แต่พอเข้ามาอยู่ในตำแหน่ง และดูตัวเลขจริงๆนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คนนอกมอง เข้ามา เพราะฉะนั้น ผมมองว่าให้ฝ่ายบริหารเป็นผู้จัดการดีกว่า ถ้าจะเสนอพ.ร.บ.กู้เข้ามา ในฐานะที่เราเป็นส.สไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบทุกคน" นายสรวงศ์ กล่าว และว่า มั่นใจว่าประชาชนได้ใช้เงินดิจิตอล เพราะเราได้พูดกับประชาชนไว้ ตนเป็นสส.เขต อยู่กับประชาชนมาตลอด รู้ว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร ทุกคนก็ทราบว่าเศรษฐกิจโลกค่อนข้างที่จะตกต่ำ ถ้าเราไม่มีแผนในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจกันเองภายในประเทศ ตนบอกว่าแย่แน่นอน

เมื่อถามว่า สำนักงานกฤษฎีกา ชี้ว่านโยบายนี้ไม่ควรทำต่อ นายสรวงษ์กล่าวว่า เราทำตามคำชี้แนะของธนาคารแห่งประเทศไทย เท่าที่ศึกษามาการออกพ.ร.บ. เงินกู้ เป็นการกู้เงินมาเพื่อเป็นแบคอัพ ไม่ใช่เป็นการกู้จากการที่รัฐบาลออกนโยบายนี้ แต่อยากให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศโดยใช้ระบบดิจิทัล อย่าไปบอกว่าเป็นเงินดิจิทัลเพราะเราใช้เงินบาท แต่เงินจำนวนดังกล่าวถูกส่งให้ประชาชนในรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อไหร่ที่มีการใช้งานและไม่ได้เบิกเงินสดออกมา เงิน 500,000 ล้านบาทก็ยังอยู่แน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกฯ และทีมบริหารต้องการให้เกิดขึ้น เงินยิ่งหมุนเวียนมากเท่าไหร่ เงินภาษีก็เข้า รัฐก็มีรายได้

เมื่อถามถึงถึงสัดส่วนการตั้งกรรมาธิการงบประมาณ นายสรวงศ์ ว่า จะ เสนอทั้งหมด 72 คน เป็นครม 18 ท่าน ที่เหลือจะเป็นสส. ฝ่ายค้านและรัฐบาลในสัดส่วนลดหย่อนกันไป ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้ 15 คน ภูมิใจไทย 8 คน ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 8 ม.ค.นี้ โดยช่วงเช้าจะเป็นการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆในคณะกรรมาธิการ ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการประชุมแรงเนื้อหาสาระ โดยมีกรอบระยะเวลา 3 เดือน และจะเข้าวันละ 2 วาระ 3 ในวันที่ 4 เม.ย. หลังจากนั้นจะส่งให้สว.พิจารณา และส่งกลับมาที่ครม. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้า ประมาณวันที่ 17 เม.ย. คาดว่าเราน่าจะได้ใช้งบปี 2567 ปลายเม.ย.ถึงต้นพ.ค.

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมีการท้วงติงว่า การจัดงบครั้งนี้ ไม่มีการบรรจุ นโยบายของพรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ กล่าวว่า มี เกือบทุกนโยบาย เช่นนโยบายซอฟต์ พาวเวอร์ ซึ่งคนข้างนอกอาจจะตกใจว่ามีการใช้งบประมาณถึง 5,000 ล้านบาทกับนโยบายนี้แต่จริงๆ แล้วงบอยู่ หน่วยงานต่างๆอยู่แล้ว ไม่ได้มีการจัดงบพิเศษขึ้นมาเพื่อทำนโยบายดังกล่าว แต่เป็นการหยิบเงินจากกระทรวงต่างๆมาดำเนินการเพื่อให้ได้ประโยชน์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง