29 ธ.ค. 2566 - นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า ในการเข้าร่วมบริหารงานของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าร่วมบริหารงานภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน มาครบ 3 เดือน มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ในการพัฒนาประเทศ ที่ล้วนมุ่งเน้นยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ ให้อยู่ดีกินดี โดยเฉพาะการสานต่อนโยบายเรื่องที่ทำกิน การยกระดับราคาสินค้าเกษตร การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน การดูแลสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงการยกระดับสุขอนามัยขั้นพื้นฐานให้ประชาชนเข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ พปชร. ได้เข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานผ่านทางกระทรวงหลักทั้ง 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการผลักดันนโยบายตามที่พรรคพลังประชารัฐได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชนในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จนมาถึงการทำงานร่วมรัฐบาล สามารถดำเนินการประสบความสำเร็จในหลายเรื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลในด้านต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในมาตราการสำคัญๆ อาทิการเดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้ลดลง ได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ในการนำเสนอ พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีสาระสำคัญกำหนดกลไกในการบริหารจัดการและควบคุมกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลให้สามารถลดมลพิษทางอากาศในทุกมิติ โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก่อนส่งกลับมาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา และนำเข้าสู่ขั้นตอนของรัฐสภาต่อไป
ขณะเดียวกันมีการทำงานในด้านการป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหา ร่วมกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงมหาดไทย ที่ต้องดำเนินมาตรการลดฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิด ทั้ง ยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรมรวมถึงการควบคุมการเผาป่า การเผา วัสดุทางการเกษตร เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนระบบการผลิตของภาค การเกษตร และการจัดการพื้นที่ป่าไม้อย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างมาตรการ ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจัง เพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน เพื่อ สุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนคนไทย
นอกจากนี้ยังมีแผนรับมือกับปัญหาภัยแล้ง ขับเคลื่อนผ่านกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล บริหารจัดการแหล่งน้ำต้นทุนให้ เพียงพอต่อความต้องการการใช้น้ำของประชาชน มีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำใน แม่น้ำสายหลัก สร้างความเข้าใจกับประชาชนในการวางแผนการใช้น้ำที่มีอยู่อย่างเหมาะสม และแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่วิกฤต พร้อมมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือผู้ประสบภัยของกระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งเร่งรัดการดำเนินโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัย แล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กว่า 47 โครงการ 48 แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหา ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่วิกฤตภัยแล้งรุนแรงได้มีน้ำกินน้ำใช้อย่าง มั่นคงและยั่งยืน
การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ผลักดันนโยบายสำคัญ การสานต่อนโยบายเปลี่ยนพื้นที่เอกสารสิทธิ์ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ทำให้ประชาชนได้มีหลักประกัน ในการประกอบอาชีพที่มั่นคง ได้เริ่มดำเนินการเปิดให้เกษตรกร ใช้สิทธิ์ยื่นลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ ขอออกโฉนดเพื่อการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ขณะนี้มีเกษตรกร ได้ยื่นเจตจำนงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีเกษตรกรถือครองที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จำนวน 1.6 ล้านราย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพรรค ที่ต้องการให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสิทธิ์ และแหล่งเงินทุนมากขึ้นเพื่อให้มีรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการผลักดันการช่วยเหลือเยียวให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 เพื่อการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และคุณภาพผลผลิต โดยให้เงินอุดหนุน 1,000 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ซึ่งมีเกษตรกรกว่า 4.68 ล้านครัวเรือนที่ได้รับการเยียวยา ในมาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้มีมาตรการ ปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน เข้าไปตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศ โดยเป็นห้องเย็นด้านปศุสัตว์ 2,437 แห่ง ด้านประมง 2,062 แห่ง มีการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมปราบปรามยางพาราผิดกฎหมาย โดยเฉพาะที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก พร้อมป้องปรามการกระทำผิดในอนาคต โดยจะขยายผลให้ครอบคลุมสินค้าเกษตรอื่นๆ ทั้งพืชและประมงเพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นการแก้ปัญหากลไกตลาดทั้งระบบอย่างยั่งยืน ให้เกษตรกรได้ลืมตาอ้าปาก มีรายได้ที่มั่นคง รวมทั้งประชาชนได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยอีกด้วย
การดำเนินงานด้านสาธารณสุข ได้ผลักดันด้านการส่งเสริมสุขภาพ การบริการเข้าถึงระบบสาธารณสุขระดับชุมชนทั่วประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาใช้บริการในเมือง เพื่อลดความแออัดในการรักษาของโรงพยาบาลภาครัฐได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีเป้าหมาย ยกระดับมาตรฐานของ รพ.สต. ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพเทียบเท่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ หากเจ็บป่วย เข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้ที่ รพ.สต. ใกล้บ้านทุกแห่ง มีเทคโนโลยีช่วยเชื่อมต่อการรักษา จาก รพ.สต. ถึงโรงพยาบาลใหญ่ ให้มีบทบาทมากขึ้น ทั้งการคัดกรองโรคและส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก พร้อมจัดสรรงบประมาณลงสู่ชุมชนเพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างครบวงจร พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลาน อสม. หรือเด็กในชุมชน ให้ได้เรียนแพทย์ เรียนพยาบาล เพื่อกลับมาดูแลพ่อแม่พี่น้องในบ้านเกิดตามมาตรการเชิงรุกป้องกันก่อนป่วย และขยายหมอชุมชน หรือ อสม. ให้เพียงพอกับประชาชนในพื้นที่
สถานการณ์ปัจจุบันผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล แต่การทำให้ผู้สูงอายุยืนอยู่ในสังคมปัจจุบันอย่างภาคภูมิใจ เป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อนำประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ โดยพรรค ได้ผลักดันให้เกิดการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง มีอายุยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้ และสามารถรับบริการด้านสาธารณสุขถึงที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งวาระแห่งชาติส่งเสริมสตรีมีบุตร เพื่อเพิ่มประชากรให้ทันต่อการพัฒนาประเทศ
ส่วนการดำเนินงานด้านนิติบัญญัติ ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ผ่านกลไกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้ง 39 คนของพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนการทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยความมุ่งมั่นทำหน้าที่แทนประชาชนอย่างเต็มที่ โดย สส.ของพรรค ได้ร่วมเสนอกฎหมายเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ รวมถึงการทำหน้าที่กรรมาธิการในคณะต่าง เพื่อนำปัญหาของประชาชนในพื้นที่เข้าสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดย พปชร.ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ มีวุฒิภาวะ เน้นใช้ข้อมูล สติปัญญามากกว่าวาทกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วิชิต' เดือด! ฟ้องอาญา-แพ่ง 'ธนดล' ปมไร่ภูนับดาว
'วิชิต' ฉุนด่าเนรคุณ เปรียบเหมือนสุนัขเลี้ยงไม่เชื่อง จ่อฟ้องอาญา-แพ่ง 'ธนดล' หมิ่นประมาทใส่ร้าย ยันเสี่ย 'ไร่ภูนับดาว' เป็นเกษตรกรจริง
รัฐบาลขีดเส้น 30 วัน เร่งเยียวยาเกษตรกรใต้ 9.4 หมื่นราย
'อนุกูล' เผยรัฐบาลเร่งเยียวยาเกษตรกรชาวใต้หลังน้ำท่วม ตีกรอบสำรวจความเสียหาย 30 วัน รับเงินช่วยเหลือภายใน 10 วัน หลัง ธกส. อนุมัติ
รัฐบาลตีปี๊บ 10 เดือนส่งออกสินค้าเกษตร 2.1 ล้านล้าน
'อนุกูล' เผยตัวเลขส่งออกสินค้าเกษตรช่วง 10 เดือนปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 2.1 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.49 'ข้าว' ครองแชมป์สินค้าเกษตรส่งออก มูลค่า 168,685 ล้านบาท ขยายตัว 39.24%
'บิ๊กป้อม' เมินร่วมวง 'ดินเนอร์ฝ่ายค้าน' แค่ส่งตัวแทน พปชร.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็น ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้
กษ.ระดมสรรพกำลังเร่งช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ เกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชม.
นายเอกภาพ พลชื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งกรมชลประทาน ติ
'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย
'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.