'ชัยธวัช' กระตุก 'รัฐบาล' ควรแจงให้ชัด ก่อน 'ทักษิณ' จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นำไปสู่วิกฤตศรัทธา มอง นโยบายเรือธง ยังไม่เห็นทางสำเร็จ-สะเปะสะปะ-ไร้ทิศทาง เหตุสิ่งที่พูดไว้ไม่เป็นรูปธรรม
29 ธ.ค. 2566 - นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงทิศทางการเมืองในปีหน้า ว่า ตนคิดว่าการเมืองปีหน้า ประชาชนกำลังเฝ้ารอการทำงานของรัฐบาลว่าจะมีความชัดเจน มีทิศทางที่ประชาชนจับต้องได้เป็นรูปธรรมอย่างไร ต้องยอมรับว่า 3 เดือนที่ผ่านมา การทำงานของรัฐบาลยังดูค่อนข้างที่จะสะเปะสะปะ ไร้ทิศไร้ทาง หลายสิ่งที่พูดไว้ยังไม่เห็นแผนงาน และเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม สำหรับฝ่ายบริหาร ประชาชนก็ต้องคาดหวังรูปธรรมในการทำงานมากกว่านี้
"ดังนั้น ถ้ารัฐบาลไม่สามารถที่จะผลักดันผลงานของตัวเอง ทำให้ประชาชนพอใจ ก็จะส่งผลกระทบต่อความนิยมของรัฐบาลด้วย ยังไม่ต้องนับว่านโยบายเรือธงที่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ในอนาคตจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่ อย่างนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจนถึงวันนี้ความชัดเจนก็ไม่มี ล่าสุดก็บอกว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะให้ความชัดเจนในปีหน้า ก็เป็นความท้าทายของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความนิยมของประชาชนอย่างแน่นอน"
นายชัยธวัช กล่าวว่า นอกจากนี้ ประชาชนก็ยังจับตาดูอยู่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาลหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเดือน พ.ค. 2567 ซึ่งวุฒิสภา (สว.) จะหมดอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็คงเป็นประเด็นที่ต้องจับตาว่าเงื่อนไขของ สว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหมดไปแล้ว จะส่งผลต่อเสถียรภาพหรือองค์ประกอบภายในรัฐบาลหรือไม่
นายชัยธวัช ยังระบุว่า ประเด็นที่มีนัยสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้คือกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตำรวจ นำไปสู่คำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ตามหลักเกณฑ์ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ถือว่าเป็นการได้รับการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานที่เหนือกว่ากรณีทั่วไปหรือไม่ รวมถึงความไม่ชัดเจนว่าระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ที่อนุญาตให้มีการควบคุมตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำได้ ซึ่งหลักการใหญ่เป็นเรื่องที่ดี ควรจะสนับสนุน แต่เรื่องนี้ เท่าที่เราเห็นระเบียบที่ออกมา มีการให้อำนาจของเจ้าหน้าที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในการพินิจว่าใครจะได้รับสิทธิบ้าง พอไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนก็เลยกลายเป็นใช้อำนาจโดยดุลยพินิจ ทำให้คนตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อประโยชน์ให้คนที่มีเส้นสาย คนที่มีอิทธิพลทางการเมือง หรือคนที่มีฐานะหรือไม่ รวมถึงตัวนายทักษิณก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในต้นปีด้วยว่าถ้าเกิดกรณีที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเกิดกระบวนการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชนขึ้นมา ก็น่าจะส่งผลต่อรัฐบาลเช่นกัน
“อย่าปล่อยให้เกิดเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่วิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลได้ จะเห็นว่าตอนนี้รัฐบาลถูกถามทุกวันในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ดีที่สุด รัฐบาลควรจะให้คำตอบ ควรชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนให้สิ้นสงสัยให้หมด ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ทำถูกทุกอย่างและบอกได้ว่าไม่เป็นการใช้อภิสิทธิ์ทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และกรณีที่จะมีการพิจารณาผู้ต้องขังที่จะไปคุมตัวนอกเรือนจำ จะไม่เอื้อประโยชน์ต่อคนใดคนหนึ่ง ถ้ารัฐบาลยังตอบเรื่องนี้ไม่ชัดเจน มันก็จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้” นายชัยธวัช กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' สดุดี 'ทักษิณ' ครองใจคนอุดรฯ พา พท. ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.
'ภูมิธรรม' ฟุ้งอุดรธานีหัวใจคนเพื่อไทยโดยแท้ ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ยํ้า ปชช. ยังรัก 'ทักษิณ' ชอบผลงานที่ทำมา อุบ 'อิ๊งค์' ลงพื้นที่ขอบคุณ
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49