'นิกร' แจง กรรมการฯออกคำถามประชามติส่ง ครม. กว้างขวางรอบคอบ ยึดคำมั่นสัญญาให้ได้ฉบับประชาธิปไตยของประชาชน ป้องกันวิกฤตรัฐธรรมนูญ
27 ธ.ค.2566 - นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กล่าวถึงกรณีที่เกิดข้อโต้แย้งจากคำถามในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่ถามว่า "ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์“ ที่วิจารณ์ว่าเป็นการมัดมือชก และยัดไส้ ว่าคำถามนี้เป็นมติของคณะกรรมการชุดใหญ่ที่ได้มาจากชุดคำถามตามข้อเสนอแนะของคณะอนุรับฟังความเห็นประชาชน แบบที่ 2 คำถามที่ 1 ที่ได้รับมาจากความเห็นส่วนใหญ่จากกลุ่มประชาชน ทั้งยังเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ได้แถลงต่อรัฐสภาและประชาชนอย่างชัดเจน จากข้อตกลงร่วมกันของพรรคการเมืองก่อนเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งถือเป็นคำมั่นสัญญาที่จะต้องดำเนินการเช่นเดียวกันกับการที่จะไม่แก้ไขกฏหมายอาญา มาตรา 112 ที่ได้ให้ไว้ต่อประชาชน
นายนิกรกล่าวว่า เป็นการประกันความร่วมมือสนับสนุนการร่วมจัดทำรัฐธรรมนูญของประชาชนฉบับใหม่จากประชาชน ที่ได้ตอบแบบสอบถามเบื้องต้นมาตามนี้ วุฒิสภา พรรคร่วมรัฐบาล ที่สำคัญหากไม่กำหนดให้ชัดเจนไปว่าจะไม่แก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 เอาไว้นั้นอาจนำไปสู่ความขัดแย้งขึ้นต่อประเด็นดังกล่าวให้เกิดในหมู่ประชาชนขึ้นได้อีก ทั้งในระหว่างการทำประชามติและในการนำไปสอดไส้กล่าวอ้างขอแก้ไขหมวดดังกล่าวในอนาคต เมื่อมีประชามติออกมาให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่
นายนิกร กล่าวว่า ที่วิจารณ์เป็นการมัดมือชก และเป็นการสอดไส้นั้น มิได้เป็นการมัดมือชก หากแต่เป็นการกระทำตามภาระกิจสำคัญให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาและต้องไม่สร้างปัญหาความขัดแย้งใหม่ขึ้นมาจากการนี้อีก จึงอยากสอบถามกลับไปว่าการเปิดให้กว้างในประเด็นที่เห็นแล้วว่าอ่อนไหวมากเช่นนั้นจะไม่เป็นการเปิดมือยุยงให้ประชาชนชกกันเองหรือ เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ต้องช่วยกันป้องกันสถานะการณ์เช่นนั้นมิใช่ช่วยกันสุมไฟ และอยากจะถามกลับไปอีกว่าตกลงแล้วอยากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดต่างๆเพื่อประชาชนหรืออยากแก้ไขรัฐธรรมนูญเฉพาะในหมวด1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกับมาตรา 112 เช่นนั้นหรือ
นายนิกร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นักวิชาการกังวลว่าทำไมถึงไม่มีคำถามล่วงหน้าเกี่ยวกับการมี ส.ส.ร. มาร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขอเรียนว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะถามในขณะนี้ เพราะคณะกรรมการพิจารณาแล้วเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้อง ว่าการออกเสียงประชามตินั้นเป็นกรณีที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 166 เพราะในขณะที่ตั้งคำถามนั้น ยังไม่มีสภาร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในมาตรา 256 แต่อย่างใด รอไว้ให้ประชาชนมีมติ ให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ก่อน แล้วเสนอร่างแก้ไขมาตรา 256 ในรายละเอียด แล้วจึงถามประชามติในตอนที่จำเป็นต้องถามอยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ อันจะเป็นการป้องกันการถูกตีตกไปตั้งแต่ต้น
นายนิกร กล่าวว่า การตัดสินใจในการออกคำถามดังกล่าวของคณะกรรมการเพื่อเสนอให้ ครม.ตัดสินใจในครั้งนั้น ได้พิจารณาอย่างกว้างขวาง อย่างรอบคอบ อย่างรักษาคำมั่นสัญญาว่าเพื่อให้คนไทยได้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ที่ได้ให้ไว้ต่อประชาชนให้สำเร็จลงให้ได้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาเป็นวิกฤตรัฐธรรมนูญ สร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชนขึ้นมาอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กมธ.นิรโทษฯ ลั่นมีเวลาอีก 1 เดือน 27 มิ.ย.ถก 4 ประเด็น
กมธ.นิรโทษกรรม นัดประชุม 27 มิ.ย.ถก 4 ประเด็น บอกยังมีเวลาทำงาน อีก 1 เดือน
กมธ.เคาะนิรโทษ112ปลายมิ.ย.
"คปท." ยกทีมบุกสภา ค้านรวม ม.112-ทุจริตคอร์รัปชัน
'คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม' บุกสภาหนุนนิรโทษฯ แต่ห้ามรวม ม.112-คดีโกง
'คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม' บุกสภา ยื่นหนังสือค้านรวม ม.112-ทุจริตคอร์รัปชัน ย้ำจุดยืนเห็นด้วยนิรโทษกรรมทุกฝ่าย
ลุ้น! กมธ.นิรโทษฯเตรียมนิยาม 'แรงจูงใจทางการเมือง'
'กมธ.นิรโทษ' เตรียมสรุป นิยามคำว่า 'แรงจูงใจทางการเมือง' ส่วนล้างผิด ม.112 ยังไร้ข้อสรุป ตั้งเป้าเสนอรายงานต่อสภากลาง ก.ค.นี้
'นิกร' ฝันหวานปีนี้คนไทยได้ทำประชามติแน่!
'นิกร' เผยร่างกฎหมายประชามติเข้าวิป รบ. 6 มิ.ย. จ่อเข้าสภา 18 มิ.ย. เชื่อไม่มีปัญหา คาด 'นายกฯ' ประกาศวันทำประชามติได้ไม่เกินปลายปีนี้
ชงแก้ประชามติเข้าครม.
"นิกร" เผย "พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ" ของรัฐบาลเสร็จแล้ว