ปธ.อนุฯรับฟังความคิดเห็น เผยข้อสรุปแก้รธน. ทำประชามติ 3 ครั้ง ที่มา สสร. เลือกตั้ง 77 คน ผ่านสภา 23 คน

“นิกร” เผย อนุกรรมฯ ชงกรรมการชุด “ภูมิธรรม” 25 ธ.ค. นี้ ทำประชามติ 3 ครั้ง เผยแนวคำถาม 2 รูปแบบ ขณะที่ สสร.100 คน เลือกตรง 77 จังหวัด และทางอ้อม 23 คนภาคประชาชน และ ผู้เชี่ยวชาญ

22 ธ.ค.2566 - เมื่อเวลา 15.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสรุปของอนุกรรมการฯ ที่เตรียมเสนอ คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์เป็นประธาน ในวันที่ 25 ธ.ค.

โดยข้อสรุปที่เราจะเสนอคือ คณะอนุกรรมการเสนอให้มีการทำประชามติทั้งสิ้น 3 ครั้ง ประกอบด้วยครั้งที่ 1 ก่อนเริ่มกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 2 ภายหลังแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่เปิดช่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งกฎหมายบังคับให้ทำประชามติ และครั้งที่ 3 หลังมีการยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ก่อนนำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯก็จะทำประชามติ โดยการทำแต่ละครั้งจะมีค่าใช่จ่ายประมาณ 3,200 ล้านบาท แต่ต้องไปดูว่าจะมีวิธีการที่ประหยัดได้หรือไม่เช่นทำพร้อมกับการเลือกตั้งอื่นๆอาทิการเลือกตั้นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งการทำประชามติ 3 ครั้งนี้สอดรับกับคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ที่นายวุฒิสาร ตันไชย เป็นประธานอีกด้วย นอกจากนี้ทางอนุกรรมาธิการยังจะเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขพ.ร.บ.ประชามติ เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิตามหลักเกณฑ์สะดวกขึ้น

นายนิกร กล่าวอีกว่าคณะอนุกรรมาธิการ ยังมีความเห็นเกี่ยวกับคำถามที่จะใช้ในการทำประชามติครั้งแรก แบ่งเป็น2 แนวทาง คือแนวทางที่1 จะเป็นคำถามเดียวโดยมีการเสนอ 2 คำถาม ให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา ประกอบด้วยคำถามที่ 1 คือ จะตั้งคำถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสสร. โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหมวด 1 บททั่วไป และหมาด 2 พระมหากษัตริย์” คำถามที่ 2 “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร.”

นายนิกร กล่าวอีกว่า แนวทางที่ 2 ในการตั้งคำถามประชามติคือ จะถามเป็น 2 คำถาม โดยแนวคำถามที่ 1 จะถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหมวด 1 และ หมวด 2” และอีกคำถามคือ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้ สสร. เป็นผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” แนวคำถามที่ 2 ประกอบด้วยคำถามที่ 1 “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร.” และคำถามที่ 2 คือ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้สสร.เป็นผู้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่”​

นายนิกร กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นจำนวนที่มาของ สสร. จากการรับฟังความคิดเห็นจะให้มีสสร. 100 คน เลือกตั้งจากประชาชนโดยตรงจากประชาชนจังหวัดละ 1 คน ร่วม 77 คน ส่วนที่เหลือจะมาจากการเลือกตั้งทางอ้อมผ่านรัฐสภา 23 คน แบ่งเป็น องค์กรด้านเด็กและเยาวชน ด้านสตรี ด้านผู้สูงอายุ ด้านผู้พิการ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ด้านละ 2 คน รวม 10 คน ที่เหลืออีก 13 คน จะมาจากผู้เชี่ยวชาญสาขากฎหมายมหาชน 5 คน ผู้เชี่ยวชาญสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ หรือเศรษฐศาสตร์ จำนวน 4 คน และผู้มีประสบการณ์ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดินหรือการร่างรัฐธรรมนูญจำนวนอีก 4 คน พร้อมกันนี้คณะอนุกรรมการยังเสนอให้นำความคิดเห็นของประชาชนที่แตกต่างและหลากหลายโดยรวบรวมเพื่อจัดส่งให้องค์กรที่มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นำไปประกอบการยกร่างรัฐธรรมนูญต่อไป อย่างไรก็ตามข้อสรุปที่กล่าวมานี้จะต้องเสนอต่อคณะกรรมการชุดพิจารณาจากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาขั้นสุดท้ายว่าแนวทางการทำประชามติจะเป็นอย่างไร

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปิยบุตร' ดักคอพรรคจ้องดูด สส.งูเห่า เอาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเสถียรภาพรัฐบาล

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สัดส่วนพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมนัดแรก

โฆษกก้าวไกล ชี้บทพิสูจน์ผลงาน สว.ชุดใหม่ ออกแบบ ส.ส.ร. ต้องมาจากเลือกตั้ง 100%

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ทุกอย่างเป็นผลลัพธ์กระบวนการเลือก สว.ในรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องสำคัญเฉพาะหน้าคือ ทำอย่างไรให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)

'นิกร' ชี้เดินหน้าดีกว่าล้มกระดาน สว.ชุดใหม่ แนะรอ ส.ส.ร. แก้ไขกติกาให้ดีขึ้น

นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่าย อาทิ บุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านการเมือง และผู้สมัครที่ไม่ผ่านการคัดเลือกสว.มีความพยายายามดำเนินการ ให้มีการระงับยับยั้ง

'ภูมิธรรม' อุ้ม 'ชาญ' หยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องรอศาลสั่ง ความเห็นกฤษฎีกาไม่ต้องทำตามทุกเรื่อง

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัม

‘ภูมิธรรม’ รีบออกตัว ‘ชาญ’ ชนะ เหตุ พท.ปรับการทำงาน ไม่เกี่ยวมนต์ขลังทักษิณ

‘ภูมิธรรม’ ชี้ ‘ชาญ’ ชนะนายกอบจ.ปทุมธานี เหตุ พท.ปรับกระบวนการทำงาน แต่ขออย่าหลงระเริง บอกไม่เกี่ยวมนต์ขลัง ‘ทักษิณ’ แซะ ‘นิด้าโพล’ ให้คะแนนนิยมก้าวไกลนำ เหมือนฟันธงให้ ‘บิ๊กแจ๊ส’ เข้าวิน ลั่น ถ้าทำตามโพล ประเทศล่มสลายแน่