'โรม' ลั่น ถ้า นายกฯ ตอบปม 'ตั๋วตำรวจ' ไม่ได้ คือการประหารชีวิตทางการเมือง

'โรม' ลั่น อาจไม่ใช่แค่หลุด นายกฯ แต่คือการประหารชีวิตทางการเมือง ถ้า ‘เศรษฐา’ ตอบข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน-แจงปชช.ปม 'ตั๋วตำรวจ' ไม่ได้ เผย อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล-หาช่องดําเนินการทางกฎหมาย

22 ธ.ค.2566 - นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ไปประชุมร่วมกับ สส.ของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้พูดถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและในระบบ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างนายอำเภอกับนายตํารวจระดับผู้กำกับการ ก่อนจะกล่าวว่า “ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวัง มากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง” จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์

โดยนายรังสิมันต์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีดังกล่าว ว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูล ยอมรับว่ารอบนี้ทำงานยากขึ้น เพราะตนอภิปรายเรื่องตั๋วมาหลายครั้ง บางครั้งคนที่กระทำความผิดก็มีการปรับตัวจนทำให้การตรวจสอบยากขึ้น แต่จากหลักฐานที่นายกรัฐมนตรีพูด มั่นใจว่าดิ้นไม่หลุด เรื่องนี้ผิดกฎหมายแน่นอน และต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณา คำพูดดังกล่าวมัดตัวนายกรัฐมนตรีไปแล้ว

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการของพรรคที่ต้องคุยกันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ส่วนจะดำเนินการเมื่อไหร่นั้นยังไม่สรุป แต่ไม่ช้าแน่นอน เพราะเราให้เวลากับนายกรัฐมนตรีด้วยการตั้งกระทู้ถามในสภาฯ จนถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่มาชี้แจง หรือให้เหตุผลอะไร ก็ต้องพิจารณาในส่วนกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนําประเด็นดังกล่าวไปใช้ในการอภิปรายไม่ใว้วางใจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอให้รอดู เพราะฝ่ายที่ต้องอภิปรายต้องเตรียมข้อมูลไว้ก่อน คงไม่สามารถระบุได้ว่า จะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ใช่หยิบเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมองภาพรวม และดูว่ามีพยานหลักฐานในเรื่องอื่นมากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้นายเศรษฐา หลุดจากตําแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ที่การโหวตในสภาฯ แต่ยอมรับว่าการใช้เรื่องนี้ เพื่อให้สภาฯ ลงมติถอดถอนนายเศรษฐา ออกจากตําแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะตนไม่แน่ใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนําไปสู่จุดนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ใครที่รู้ตัวก็อาจจะชิงลาออก หรือทําให้ตัวเองพ้นจากตําแหน่งไปก่อน ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างน้อยมันคือการฟ้องประชาชนให้เห็นว่า ประเทศนี้เกิดอะไรขึ้น ทําให้ประชาชนได้รู้ว่า คนที่มาเป็นผู้นำรัฐบาลเป็นอย่างไร

“สุดท้ายแล้ว ถ้านายกฯ ไม่สามารถตอบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน หรือชี้แจงต่อประชาชนได้ ก็ไม่ใช่แค่การพ้นจากตำแหน่ง แต่คือการประหารชีวิตทางการเมือง” นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์-มาริษ'โต้เดือดปมธนาคารไทยมีเอี่ยวช่วยซื้ออาวุธให้รัฐบาลเมียนมา!

'โรม' จี้ถามจุดยืนประเทศ หลังมีแฉธนาคารในไทย เอี่ยวใช้ธุรกรรมการเงินฆ่าชาวเมียนมา ซัด รบ.ต้องชัดเจน ด้าน 'รมว.กต.'โต้ไม่พบหลักฐานธนาคาร-รัฐบาลไทยเข้าไปเอี่ยว รับการคว่ำบาตรเป็นเรื่องยาก

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา

'เศรษฐา' ฟุ้งเตรียมถกมะกันตัดตอนยาเสพติด

นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ย้ำให้ความสำคัญถือเป็นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ กำชับดูแลการจ่ายรางวัลนำจับเหมาะสม ไม่ใช่รอนานจนเกษียณถึงได้ เตรียมคุย 'ทูตมะกัน' ตัดตอนยาบ้า

ทั่นโรมเตือนสติตำรวจอย่างรีบปิดคดี 6 ศพชาวเวียดนาม

'โรม' หวัง ผลสอบ 'พบศพชาวต่างชาติ' โปร่งใส เตือน 'ตำรวจ' พึงสังวรณ์หากรีบปิดคดีให้เรื่องเงียบ จะสูญเสียศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม-ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้