'ไอซ์-รักชนก' เล่าเหตุการณ์วันฟังคำพิพากษาคดี 112 เรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดีเดียวกัน

22ธ.ค.2566 - น.ส. รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้

ผ่านไป 1สัปดาห์ หลังฟังคำพิพากษา อยากจะเขียนโพสต์
เพื่อเป็น time stamp เผื่อว่าประเทศไทยในอนาคต
จะต่างจากวันนี้
13 ธันวาคม 2566 คือวันฟังคำพิพากษาคดี 112
และ พ.ร.บ.คอม เช้านั้น พี่ทิม พี่ต๋อม พี่กล้า ยานาวา
เต้ ยุดยา เพื่อนสส. เพื่อนๆ และป้า ๆ อีกหลายคน
มารอที่ศาลอาญา รัชดาให้กำลังใจแต่เช้า
พี่ต๋อม หัวหน้าพรรคก้าวไกล รับเป็นนายประกันในคดีให้
เช้านั้นแกลืมเอาบัตรประชาชนมา เลยให้ผู้ช่วยนั่งแกร๊บ
กลับไปเอามาจากบ้าน ตอนควักเงินจะจ่าย ผู้ช่วยบอกว่า
ค่าแกร๊บ 112฿ ครับ ตอนนั้นไอซ์ พี่ต๋อม พี่กล้า มองหน้ากัน
แล้วขำอยู่3นาที แต่พี่ต๋อมขำนานกว่าคนอื่น
แกรีบยื่นเงินให้ผู้ช่วย แล้วบอกว่า เอาไปเลย 120฿
ไม่ต้องทอนนะ พร้อมกับส่ายหัวไปขำไป
ที่หน้าบัลลังก์ พี่ทิมหันมาพูดอะไรสักอย่างจำไม่ได้
ตอนนั้นหูอื้อสักพักผู้พิพากษาคนเดิมก็เดินออกมา
จำได้ว่าครั้งนึงวันสืบพยาน 24 มีนาคม 2566
ก่อนให้การในคอกทุกคนต้องสาบานตนในศาล
ไอซ์อ่านวรรคสุดท้ายไม่ครบ ศาลจึงเตือนว่า
ต้องพูดให้ครบ ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดประชด
ศาลพูดว่า แล้วคุณจะต่อด้วย ขอให้ได้เป็นสส.
อะไรก็ได้แล้วแต่คุณเลย ไอซ์เลยสาบานว่า
“หากข้าพเจ้ากล่าวความจริงต่อศาล ขอให้ข้าพเจ้า
จงประสบ แต่ความสุขความเจริญและได้เป็นสส
พรรคก้าวไกลรอบนี้ด้วย สาธุ”
2 เดือนต่อมา 14 พฤษภาคม 2566 ได้รับเลือก
ให้เป็น สส. เขตบางบอน จอมทอง หนองแขม
ด้วยคะแนน 47,592 คะแนน ห่างจากที่สอง
เกือบสองหมื่นคะแนน
อีก 1 เดือนต่อมา 12 มิถุนายน 2566 สืบพยาน
ปากสุดท้าย วันนั้นอยู่ในตำแหน่งผู้แทนราษฎร
ก่อนลาศาล จึงทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่
24 มีนาคม 2566 ให้ศาลฟังว่าศาลเคยให้สาบาน
ไว้ว่ายังไง มาวันนี้ ได้เป็น สส. แล้ว ศาลยิ้ม
แล้วบอกว่า ปั่นจักยานเก่งจังเลย พี่อานนท์ นำภา
(ที่ตอนนั้นยังไม่ถูกขัง โดยไม่ให้ประกัน)
บอกว่าท่าทีแบบนี้ส่วนใหญ่ลง 100% (ฮ่าๆ)
จริงดังคำทำนาย
13 ธันวาคม 25/66 ศาลตัดสินว่าผิดข้อหา
หมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์
ม.112 และ พ.ร.บ.คอม ระหว่างฟังคำพิพากษา
มีแต่คำถามในหัว เราพิสูจน์กับศาลไปแล้ว
ว่าเราไม่ได้เป็นคนโพสต์และทำให้ดูว่าการตัดต่อ
ภาพเพื่อการใส่ร้ายกันมันง่ายแค่ไหน
ผู้ฟ้องไม่ได้เห็นโพสต์เองด้วยซ้ำ เพียงแต่เอารูป
มาจากในกลุ่มไลน์ ซึ่งเราโดนตัดต่อรูปไปโจมตีทุกวัน
ศาลพิพากษา จำคุก 6ปี ไม่รอลงอาญา จากนั้น
เจ้าหน้าที่บอกให้เอาของมีค่าออกให้หมด
รองเท้าที่ใส่มาเป็นส้นสูง ซึ่งมันก็เริ่ดระดับนึง
ก็ถอดออกด้วย เหลือแค่เสื้อผ้า กับกุญแจมือ..
ทนายถามว่าต้องใส่กุญแจมือด้วยหรือซึ่งไอซ์ก็
เพิ่งทราบภายหลังว่าแม้แต่คดีหนักๆอย่างฆ่าคนตาย
หรือคอรัปชั่นโทษสูงๆ ก็ยังไม่ต้องใส่กุญแจมือเลย
เพื่อนเรา ผู้ช่วยเราร้องไห้ แต่เราไม่ร้อง ในใจไม่มีความกลัว
ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยกลัวอะไร นอกจากผี
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พร้อมอยู่แล้ว
เราเดินเท้าเปล่าไปที่ลิฟค์ ซึ่งเป็นลิฟต์ตัวเดียวกับที่
ใช้รับส่งนักโทษ ถูกพาตัวไปรวมกับนักโทษเด็ดขาด
อยู่ห้องเดียวกัน ใต้ถุนศาลก็มีอะไร น่าสนใจ
หลายอย่าง ส้วมในศาลค่อนข้างสกปรก
ฝาที่นั่งพังแหล่ไม่พังแหล่ ไม่มีกระดาษชำระ
ประตูห้องน้ำจะมีขนาดครึ่งนึงของประตูปกติ
แค่ยืนขึ้นก็สามารถสบตากับคนที่อยู่ด้านนอกได้
และเมื่อเหลือบมองห้องข้างๆ ก็จะเห็นเค้าทำธุระ
โดยตลอด
เพื่อนสส.และเพื่อนๆหลายคนมาเยี่ยมที่ใต้ถุนศาล
เกาะราวกั้น ส่วนเราเกาะลูกกรง ยืนคุยกันจนหมดเรื่องคุย
เลยเปลี่ยนมาชวนคนที่ อยู่ในห้องขังคุยแทน
ครึ่งนึงเป็นคดียาเสพติด มีทุกรูปแบบ แต่ทุกคน
เป็นเพียงรายย่อย ส่วนใหญ่ไม่กล้าซัดทอด
อีก1ใน3 เป็นคดีฉ้อโกง บัญชีม้า ลักทรัพย์
ไอซ์ว่าสัดส่วนคดีของผู้ต้องขังในเรือนจำ
ก็สะท้อนอะไรหลายๆอย่างในสังคมเราได้เหมือนกัน
ผู้เสพ ผู้ค้ารายย่อย ออกไปแล้วก็กลับเข้ามา
ไม่มีการบำบัดอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี
ไม่ได้รับการฝึกอาชีพที่จะขยายให้ขอบเขต
ความเป็นไปได้ของทางเลือกในอาชีพมากขึ้น
ไม่มีกระบวนการเพิ่มพูนความรู้ที่นำไปใช้ได้จริงๆ
โลกนอกห้องขังทั้งก่อนและหลังเข้าไปก็คือโลกเดิม
ยาเสพติดยังเข้าถึงง่าย ไร้มาตรการควบคุมทีาเคร่งครัด
สังคมก็ประณามคนเสพคนรายย่อย ส่วนตัวการใหญ่
“เจอ จ่าย จบ”
ญาติๆสามารถมาเยี่ยมนักโทษได้ แต่วันนั้นโทรศัพท์
ใต้ถุนศาลพังหลายคนที่ลางานมารอเยี่ยมญาติ
ผู้ต้องขัง ต้องรอนานขึ้นอีกสักประมาณสามโมงกว่าๆ
ทนายเดินมายกนิ้วโป้งให้ ก็รู้ว่าน่าจะได้ประกัน
พอได้ออกมา กอดเพื่อนๆ รีบขับรถไปสภา
เพื่อให้ทันโหวตร่างระเบียบการประชุมก้าวหน้า
ผ่านวันไปแบบรีบๆ มีทุกอารมณ์ แต่ก็งงๆไม่ตกผลึก
เป็นวันที่ทั้งน่าจดจำที่สุดและไม่น่าจดจำที่สุดในชีวิต
— — — —
เกี่ยวกับคำพิพากษา แน่นอนว่าไอซ์น้อมรับ
แม้จะตระหนักดีว่าทั้งตัวบทกฎหมาย การบังคับใช้
และกระบวนการวิธีพิจารณามีปัญหา
นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นแต่เป็นข้อเท็จจริง
ขออนุญาตยกคำสัมภาษณ์ของอาจารย์มุมินทร์ พงศปาน
อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์
ที่ได้พูดไว้ในรายการ The Politics ว่า
อาจารย์เป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยว่าประมุขของรัฐ
จำเป็นจะต้องมีกฎหมายคุ้มครองเป็นหลักการสากล
แต่ตามหลักการโทษก็ต้องได้สัดส่วนด้วยกับการกระทำ
ความผิดด้วย และในช่วงหนึ่งอาจารย์พูดเอาไว้
ได้น่าสนใจ ขอยกมาทั้งหมด
“คดีของคุณไอซ์ก็มีคำถามในทางกฎหมายเยอะแยะ
มากมาย วันนี้ช่วงค่ำเราก็เพิ่งเห็น press release
ของศาลอาญา เข้าใจว่าตัดตอนมาจากคพิพากษา
ของศาลอาญาบางส่วน ซึ่งมีข้อความที่แรงมาก
อย่างเช่น ในคำวินิจฉันของศาลเนี่ย บอกว่า
การที่จำเลยไม่ให้ความร่วมมือ แล้วก็ไม่พยายาม
ที่จะนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อแก้ตัว แสดงให้เห็น
ถึงเจตนาที่ไม่สุจริต ซึ่งคำอธิบายแบบนี้
เป็นคำอธิบายที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน
เพราะปกติแล้ว หลักในคดีอาญาที่ทุกคนทราบ
ทุกคนเรียน คนที่กล่าวหาซึ่งก็คือพนักงานอัยการ
มีหน้าที่ภาระการพิสูจน์ ก็คือต้องนำพยานหลักฐาน
มาทำให้ศาลเชื่อ ระดับที่ต้องพิสูจน์ ต้องพิสูจน์
จนเรียกว่าสิ้นสงสัย ว่าเค้ากระทำความผิดจริง
เพราะฉะนั้นมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายโจทก์
ก็คืออัยการต้องพิสูจน์ว่าเค้าเนี่ยเป็นคนแชร์โพสต์
เป็นคนกระทำความผิด แต่ไม่ใช่ว่ากลายเป็น
หน้าที่ของจำเลยที่ต้องบอกว่าตัวเองบริสุทธิ์ยังไง
กลายเป็นว่ากลับตาลปัตรพอมาอธิบายในเชิงเหตุผล
ซึ่งก็เป็นคำพิพากษาที่น่าสนใจมาก และผมคิดว่า
น่าจะเป็นคำพิพากษาตัวอย่างของการศึกษา
ในมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนกฎหมายไปอีก
ยาวนานเลยสำหรับคำพิพากษาคดีนี้
เพราะมันเป็นตัวอย่างที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เราเรียนกันมา
ตลอดในเรื่องของการพิสูจน์ความผิดในคดีอาญา”
ไอซ์ขอย้ำว่าสิ่งที่โจทก์นำมาฟ้อง เป็นรูปที่มีคน
ส่งมาในไลน์ ไม่มีประจักษ์พยานที่ได้เห็นข้อความ
จากทวิตของไอซ์มาเป็นพยานสักคนเดียว
ในรูปไม่มี URL ส่วนรูปที่อ้างว่ารีทวิต ไม่มีแม้กระทั่ง
username ด้วยซ้ำ!
ตำรวจไม่เคยขอหมายศาลเพื่อยึดมือถือมาตรวจสอบ
ทั้งๆที่เป็นคดี พ.ร.บ.คอม นักกฏหมายทั่วไป
ก็ทราบดี ถ้าพยานหลักฐานโจทก์ไม่ถึง เป็นคดีทั่วไป
คงต้องยกฟ้องแต่คำพิพากษากลับกลายเป็นว่า
เพราะจำเลยไม่พยายามจะหาพยานหลักฐานมาเพื่อ
อธิบายตัวเองเป็นสิ่งที่ขัดกันกับเนื้อหาที่สอนอยู่ใน
คณะนิติศาสตร์ทั่วประเทศเป็นการหลักภาระ
การพิสูจน์พยานหลักฐานคดี 112 ให้อยู่กับจำเลย
“คุณเมย์” จากศูนย์ทนายสิทธิฯ โพสต์ว่า
ถามทนายคนไหน ลงไม่ลง ทุกคนตอบว่า
ศาลลงโทษแน่นอน แต่ไม่มีใครสามารถให้เหตุผล
ในทางกฎหมายได้ นี่คือกระบวนการยุติธรรม
ที่นักโทษการเมืองต้องเจอ โทษในคดีฆาคนตาย
เช่น คดีตำรวจ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขับบิ๊กไบท์
ชนหมอกระต่าย กรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุก 1 ปี 15 วัน
กรณี นายเจนภพ วีรพร ขับรถเบนซ์ ชนรถ
2นักศึกษา ป.โท จนถูกไฟคลอกเสียชีวิตทันที
ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี
กรณี แพรวพราว 9 ศพ (บาดเจ็บสาหัส 5)
ศาลสั่งโทษจำคุก 3 ปี
คดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ จำคุกขั้นต่ำ 3ปี
และไอซ์ โดนโทษ จำคุก 6ปี ไม่รอลงอาญา ..
— — — —
ตอนนี้มีผู้ถูกกล่าวหาคดี 112 ที่อยู่ในห้องขัง
และยังไม่ได้สิทธิ์ในการประกันตัว อย่างน้อย 15 คน
มีผู้ถูกกล่าวหาคดีการเมืองอื่นๆ ที่อยู่ในห้องขัง
และยังไม่ได้สิทธิ์ในการประกันตัวอย่างน้อย 37 คน
และมีผู้ที่รอฟังคำพิพากษาอีก หลายสิบคน ในปีหน้า
สิทธิ์การประกันตัวเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ที่ถูกรับรอง
ไว้ตามรัฐธรรมนูญ ที่ผู้ถูกกล่าวหา ในคดี
ที่ยังไม่สิ้นสุดพึงจะได้รับ อย่างเช่นคดีปรากฏ
แก่สาธารณะชน คดีเจตนาฆ่า ลุงพล-น้องชมพู่
ที่โดนโทษสูงมากถึง 20ปี ศาลยังให้ประกันตัวออกมาเพื่ออุทธรณ์สู้คดีได้
ไอซ์ก็ขอเรียกร้องมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม
เดียวกัน ให้กับนักโทษทางการเมือง ทุกๆคดี
หรือกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้
กำลังจะสื่อสารกับสังคมว่าผู้ต้องหาคดีการเมือง
ที่เกิดการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
และเสรีภาพในการแสดงออก เป็นการกระทำผิด
ร้ายแรงมากกว่าคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา
ฝั่งอนุรักษ์นิยมจารีต อาจดีใจที่ศัตรูทางการเมือง
ของคุณถูกกฏหมายที่มีปัญหาและกระบวนการ
ที่อยุติธรรม กำจัด แต่อยากให้ลองฉุกคิดสักนิด
ความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมถึงเวลา
มันไม่เลือกหรอกว่าอยู่ฝั่งไหน มันทำร้ายเราทุกคน
เราจะส่งต่อสังคมที่บิดเบี้ยวแบบนี้ต่อให้คนรุ่นถัดไป
จริงๆหรอ
สุดท้ายแม้ไอซ์จะดีใจที่ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี
แต่ก็รู้สึกละอายใจที่สิทธิในการได้รับการประกันตัว
ในคดี 112 ซึ่งควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน กลายเป็น
“อภิสิทธิ์” หลายคนที่โดนคดี 112 ยังไม่ได้รับ
การประกันตัว เช่นคุณวารุณี ซึ่งถูกลงโทษ
เพียง 1 ปี 6 เดือนเท่านั้นเอง
รูปนี้เป็นรูปที่กินไก่ย่าง 5ไม้ ข้าวเหนียว 1ห่อ
ก่อนไปขึ้นศาล

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกรทสช. มั่นใจขั้วรัฐบาลมีเอกภาพ วอนทุกฝ่ายหนุนร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข

โฆษก รทสช. มั่นใจขั้วรัฐบาลมีเอกภาพ สะท้อนจากการลงมติรายงานนิรโทษกรรม วอนทุกฝ่ายหนุนกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาฯ นิรโทษผู้กระทำผิดทางการเมือง ยกเว้น ม.112 พาประเทศไทยออกจากวังวนของความขัดแย้งห้วง20ปี

'จตุพร' จวก 'เพื่อไทย' ตระบัดสัตย์ ตลบหลังนิรโทษฯตีตกสภา มุ่งดัน กม.กาสิโน

'จตุพร 'ซัด 'เพื่อไทย' ไม่ทิ้งตระบัดสัตย์ กลับลำหักดิบรายงานศึกษาร่าง กม.นิรโทษฯ กลางสภา อ้างไม่รับคดี 112 ลืมสัญญาหาเสียงจะแก้ไข จะประกันผู้ต้องหาคดีหมิ่นพ้นเรือนจำ ขณะที่ก้มหน้าดัน กม.บ่อนคาสิโน ตั้งเป้าเรียบร้อย เม.ย. 68 หวังกอบโกยร่ำรวยรายได้จากเว็บพนันออนไลน์ ปล่อยประเทศฉิบหายต้องทนทุกข์กับอบายมุขสังคมดาษดื่น

'ชัยธวัช' อ้างสังคมตกผลึกช้า! หากยื้อรายงาน กมธ.นิรโทษกรรม

'ชัยธวัช' หวังได้เสนอรายงาน 'กมธ.นิรโทษกรรม' วันนี้ ชี้หากชะลอไปอีก สังคมจะยิ่งตกผลึกช้า ย้ำยังมีข้อเสนอตรงกลาง 'รวมคดี ม.112 แบบมีเงื่อนไข' เข้าใจความเห็นทุกฝ่าย มองไม่มีเหตุผลให้สภาโหวตคว่ำ

'พริษฐ์' ขอถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเลิกมาตรา 272 เหตุสิ้นสภาพแล้ว

'พริษฐ์' ขอถอนแก้รธน.ยกเลิกม.272 เหตุมาตราดังกล่าวสิ้นสภาพไปแล้ว หวังอนาคตเลือกนายกฯตามหลักปชต. ไม่ดึงคนไม่ได้มาจากประชาชนร่วมโหวต

(ข้า)ไม่ตาย'ก้าวไกล'ไปต่อ ฝัน2570ชนะถล่มทลาย!

พลิกดูประวัติศาสตร์หน้าถัดไป ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์สั่งยุบพรรค 'ก้าวไกล' พร้อมเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 10 ปี จากนโยบายการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

'ชัยธวัช' บอกไม่แช่งคดีเศรษฐา 14 ส.ค.ชี้ทุกฝ่ายควรได้ความเป็นธรรมเหมือนกันหมด

'ชัยธวัช' ชี้ผิดฝาผิดตัว หากเทียบคดีก้าวไกล-เศรษฐา ย้ำทุกคนควรได้รับความยุติธรรมเท่ากัน แม้อยู่คนละฝ่ายการเมือง