“ภูมิธรรม” บอก ‘ทักษิณ” รักษาตัวรพ.ตำรวจ ครบ 120 วัน ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของแพทย์ ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง วอน ให้ใจกว้าง อย่าดึงสู่ความขัดแย้ง ระบุ คนวัยนี้ป่วยกันทั้งนั้น
21 ธ.ค.2566 - ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีครบ 120 วัน การรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจว่า หลังจากนี้แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ที่คุมขังนักโทษที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจะลงความเห็นว่าจะสามารถรักษาตัวต่อได้หรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะมีแนวทางการรักษามาตรการอย่างไร แต่ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการ และระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเรื่องการที่จะให้นักโทษที่ไม่มีความรุนแรง หรือเวลาที่ออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ซึ่งระเบียบนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น เพราะในเรือนจำมีความแออัดเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 60 ซึ่งอยากให้นักโทษได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่แออัด แต่ต้องมีระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ และเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ เพราะนายทักษิณเข้ามาตามกระบวนการ และคำพิพากษาเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม การเจ็บป่วยมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็มีหน้าที่ดูแลอยู่ ขอยืนยันว่าไม่มีใครไปเกี่ยวข้อง หรือแทรกแซง เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของแพทย์
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การรักษานักโทษสามารถรักษาได้กี่วัน หากจะดำเนินการรักษาต่อก็ต้องเป็นไปตามความเห็นของแพทย์ ขอย้ำว่าไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง อยากให้เป็นเรื่องปกติ เพราะนายทักษิณก็เข้ามาตาม กระบวนการยุติธรรม ด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น ซึ่งนายทักษิณอายุ 70 กว่าปีแล้ว ขนาดตนยังเพิ่งไปรักษาตัว เพราะคนวัยนี้ต่างเจ็บป่วย จะมากจะน้อยก็แตกต่างกันไป อยากให้นำเรื่องนี้ออกจากทางการเมืองบ้าง เพราะหากนำทุกเรื่องไปยุ่งการเมือง ประเทศนี้จะเดินไปไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวสังคมเกิดข้อกังขาว่าเป็นสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของสองมาตรฐาน วันนี้นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการเหมือนกับประชาชนทั่วไป ที่เป็นนักโทษชาย หรือนักโทษหญิง ยืนยันอีกครั้งว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้ออกมาเพื่อนายทักษิณ แต่ออกมาเพื่อประชาชนและการจัดระเบียบ ในเรือนจำที่มีความแออัด อยากให้เข้าไปดูว่า ตอนนี้จะสร้างมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ดังนั้น กระบวนการของกรมราชทัณฑ์มีระเบียบพิจารณาให้กับนักโทษที่อยู่นาน และมีความประพฤติดี และเหลืออายุการต้องโทษอีกไม่มาก อยากให้มาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ซึ่งเป็นหลักสากล ที่ต่างประเทศก็มีความคิดเช่นนี้ ประเทศไทยควรมีความคิดเหมือนกัน วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและระเบียบ ไม่อยากให้นำไปเป็นปัญหาทางการเมือง
“หากคิดว่าทุกอย่างการเมือง ประเทศไม่สงบสุขหรอกครับ เราหลุดพ้นจากความขัดแย้งมาเยอะแล้ว ก็อยากให้ใจกว้าง อยากให้เชื่อมั่นในกระบวนการของแพทย์ ที่จะต้องวินิจฉัยอย่างดีที่สุด อยากให้หลีกห่างจากความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าได้“นายภูมิธรรม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'คปท.' ชุมนุมหน้าทำเนียบฯ จ่อปักหลักยาว หาก 'ภูมิธรรม' ได้นั่งประธาน 'JTC'
ที่สะพานชมัยมรุเชฐ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมรถเครื่อ
'ทวี' การันตีไม่มีสักนาทีที่ 'ทักษิณ' ออกจากชั้น14 ยินดีให้ข้อมูล ป.ป.ช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรีย
'ภูมิธรรม' ลั่นไม่ยอมเสียเกาะกูด รักษาเท่าชีวิต!
ที่ทำเนียบรัฐบาลนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะดูแลหน่วยงานด้าน
'สหายอ้วน' โยนถาม 'ป.ป.ช.- ตร' ปมขอเวชระเบียน 'ทักษิณ' ชั้น 14 รพ.ตรวจ
ที่ทำเนียบรัฐบาลนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแล คณะกรรมการนโยบายตำรว
'ภูมิธรรม' เมินเสียงต้าน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ด ธปท. ไม่ขาดคุณสมบัติก็เป็นได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสต้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเกรงว่าการเมืองจะเข้ามาแทรกการทำงานของธปท
'ภูมิธรรม' แจง MOU ปี 44 ไม่เกี่ยวเกาะกูด เป็นของไทย 100% เอาให้ชัดจะให้ยกเลิกอะไร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่าในที่ประชุมจะมีการหยิบยกประเด็นการยกเลิกเอ็มโอยู 44 ที่เคยทำในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีพิจารณาหรือไม่