'ทนายแดง' อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ชุมพร พรรคพลังประชารัฐสุดทนบิ๊กป้อม บอกปิดทางเลือกชาวบ้านอยากให้อยู่สังคมแบบเดิมๆ ยื่นใบลาออกจาก พปชร.
22 ธ.ค.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมติพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สงขลา เขต 6 แต่ไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 ชุมพร แทนนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมีนั้น
ก่อนหน้านี้ 3 วัน เพจเฟซบุ๊กของนายชลิต อาจหาญ -ทนายแดง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรค พปชร.ที่ได้คะแนนอันดับ 2 จำนวนกว่า 3 หมื่นคะแนน และได้แสดงความจำนงจะลงเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ได้โพสต์ภาพเปิดศูนย์ประสานงานพรรค พปชร.ในพื้นที่ตำบลครน อำเภอสวี และโครงไม้จำนวนมาก และมีการติดป้ายรูปตนเองเป็นสมัครสมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 และเว้นช่องใส่หมายเลขผู้สมัครไว้
แต่ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของนายชลิตได้โพสต์ หนังสือลงวันที่ 22 ธ.ค.2564 เรื่องขอลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มีเนื้อาหาว่า เรียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ข้าพเจ้า นายชวลิต อาจหาญ สมาชิกเลขที่ 00000464 ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ลงชื่อ นายชวลิต อาจหาญ
นายชลิตได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า “วาระสุดท้าย !!! กับ พรรคพลังประชารัฐ ว่าไม่อาจยอมรับได้กับการไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมชุมพร เขต 1 โดยไม่ปรากฏเหตุผลอันสมควร ทั้ง ๆที่พรรคมีมติไปแล้วก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน หรืออาจจะเกี่ยวกับชุมพร”ไม่ใช่”พื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรคตามที่กล่าวอ้าง
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 แทบจะหาตัวผู้สมัครไม่ได้ “ผมอาสา” ลงสมัครและพรรคได้ส่งมาแล้ว ได้ลำดับที่ 2 ด้วยคะแนน 32,219 คะแนน นอกจากนี้พรรคได้ส่งทุก ๆการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา
ผมทำเต็มที่กับการเลือกตั้งทั่วไปและทำต่อเนื่องจนถึงวันนี้ในนาม “พรรค” โดยใช้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวทุกบาททุกสตางค์ เป็นผู้สมัครคนเดียวและคนสุดท้ายในจังหวัดชุมพรที่ทำงานให้พรรคในขณะนี้
ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาพี่น้องชาวชุมพร ไม่ได้เลือกผู้สมัครให้พรรคเพื่อทำหน้าที่ในสภาอย่างเดียว หรือเลือก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ได้เลือกเพราะต้องการความเปลี่ยนแปลงสังคม “อบาย” ที่เป็นอยู่แบบเดิม ๆ และจะเกิดขึ้นต่อเนื่องใน “จังหวัดชุมพร” พรรคคงจะมองไม่เห็นประเด็นสุดท้ายที่สำคัญ
การไม่ส่งเท่ากับ “ปิด” ทางเลือกและโอกาสที่ดีที่สุดของพี่น้องประชาชนชาวชุมพรในการสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิมเพื่อลูกหลานในอนาคต
ในทางกลับกันผมมองว่าพรรคกลับส่งเสริมสังคมแบบเดิม ๆที่ชาวชุมพรไม่ต้องการ และกำลังฝังรากลึกทุกหย่อมหญ้ายากต่อการเปลี่ยนแปลง ในสายตาของ”ผม”เมื่อพรรคเป็นเช่นนี้ พรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นที่พึ่งของชาวชุมพรไม่ได้อีกต่อไป พรรคไม่เหมือนที่ผมคิดและหวังตั้งแต่แรก ผมจึงไม่อาจอยู่ร่วมกันกับพรรคการเมืองนี้ได้ อีกต่อไป จึงขอลาออกนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอขอบคุณผู้ใหญ่ในพรรคที่สนับสนุน
ขอกราบขอโทษพี่น้องชาวชุมพร ผมได้ทำเต็มที่และดีที่สุดแล้ว ความตั้งใจของพี่น้องชาวชุมพรจะต้องไม่เสียเปล่า “ผมขอสัญญา”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่
'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้
จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา
"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก
พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่
'ก๊วนธรรมนัส' เปิดตัวเข้าคอก 'กล้าธรรม' ลั่นทำการเมืองสร้างสรรค์ ไล่พรรคร่วมฯค้านบ่อยๆก็ออกไป
พรรคกล้าธรรม นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และสส.จำนวน 20 คนที่ถูกพรรคพลังประชารัฐขับออก
20 สส. ก๊วนธรรมนัส ย้ายเข้าพรรคกล้าธรรมแล้ว เพิ่มจำนวน สส.เป็น 24 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม สส. 20 คนที่ถูกขับพ้นพรรคพลังประชารัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา 2.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 3.นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ 4.นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา 5.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว
พปชร. จี้รัฐบาลเปิดเผยความจริง ปมลูกเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมาหรือไม่
นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกรณี 4 ลูกเรือประมงไทยที่ถูกทหารเมียนมาจับกุมตัวไป และมีคำพิพากษาจำคุกว่า เมื่อตอนที่ 4 ลูกเรือประมงถูกจับใหม่ๆ ทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม