'วัชระ' ให้กำลังใจ 'เฉลิมชัย' เดินหน้าฟื้นฟู ปชป. ลั่นลบคำสบประมาทสมัยหน้าสูญพันธุ์

11 ธ.ค.2566 - นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องขอบคุณเสียงสะท้อนของประชาชนทุกคน เพราะนี่คือสิทธิเสรีภาพ ไม่มีใครมาปิดปากประชาชนได้

พรรคไม่ได้เป็นมรดกของตระกูลใด มีกฎหมายบังคับให้ปฏิบัติ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคผ่านไปแล้ว สมาชิกก็ต้องปฏิบัติตามมติพรรค ตนไม่อาจพูดสิ่งใดให้องค์กรเสียหายได้ เพราะนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคได้สอนไว้อย่างนี้ การที่สังคมวิจารณ์ถึงคำพูดของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคที่เคยพูดเรื่องเลิกเล่นการเมือง ถ้าได้สส.ต่ำกว่าเดิม 52 คนในขณะเป็นเลขาธิการพรรคนั้น คนเป็นแม่ทัพก็ต้องปลุกระดมสมาชิกให้ฮึกเหิมสู้ศึกท่ามกลางสงครามการเมือง และการช่วงชิงการดูดสส.จากพรรคที่มีทุนและมีอำนาจรัฐ เมื่อผิดพลาดก็มิอาจปฏิเสธและน้อมรับคำวิจารณ์

นายวัชระ กล่าวต่อว่า การที่สส.พรรคประชาธิปัตย์ 21 คนมีมติเอกฉันท์ขอให้นายเฉลิมชัยกลับมานำพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค ถ้ามีองค์ประชุมไม่ล่มเมื่อ2ครั้งก่อน นายนราพัฒน์ แก้วทอง เพื่อนตนอาจได้เป็นหัวหน้าพรรคไปแล้ว และเมื่อมีการประชุมครั้งที่ 3 สมาชิกเลือกตั้งให้นายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคตามข้อบังคับ บางท่านไม่ชอบใจ แล้วจะให้ทำอย่างไร

“การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคทุกครั้งที่ผ่านมา ย่อมมีทั้งคนดีใจเสียใจ ผิดหวังสมหวังเป็นธรรมดา บางท่านหาเสียงไม่ว่าแพ้ชนะก็จะไม่มีวันลาออกจากพรรคเด็ดขาด เป็นสส.ได้เพราะพรรค เกิดจากพรรค ขอตายที่ประชาธิปัตย์ ผมได้ยินเป็นประจำและเข้าใจดีว่า ทุกท่านที่ต่างมีเข็มทิศทางการเมืองของตนเอง แต่เมื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคผ่านไปแล้วก็ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค บางสมัยมีสส.ลงชื่อเพื่อให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัยก็ระงับไว้ อดีตหัวหน้าบางท่านก็บอกให้เป็นไปตามหลักการ เมื่อนายเฉลิมชัยได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค บางท่านกลับไม่ยอมรับ หลายท่านลาออกจากสมาชิก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายและเข้าใจเหตุผลในวันนี้ของแต่ละคน” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ยิ่งยามที่พรรคตกต่ำอย่างหนักในขณะนี้ บางคนก็สบประมาทว่าสมัยหน้าจะสูญพันธุ์ ตนเป็นสมาชิกพรรครู้หน้าที่ว่าต้องช่วยกันฟื้นฟูพรรค ลบคำสบประมาทให้เดินไปข้างหน้าอย่างไร เพื่อให้เป็นที่พึ่งพาของประชาชนเท่าที่จะทำได้ การลาออกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ประชุมไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น ทุกคนเสียใจ แต่ท่านก็พูดทิ้งท้ายที่สำคัญว่าพร้อมจะกลับมาช่วยพรรคในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าท่านหัวหน้าพรรคก็ต้องไปขอให้ท่านอาจารย์อภิสิทธิ์และอดีตสมาชิกทุกท่านให้กลับมาช่วยพรรคไม่ช้าก็เร็ว ผู้ชนะต้องยื่นมือโอบอุ้มทุกฝ่ายให้สามัคคีกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าให้วาจาโวหารเชือดเฉือนกัน อย่าทะนงตน ซึ่งตนก็จะรอเพื่อนๆที่ลาออกไปอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหน ไม่ให้พรรคอื่นมาดูถูกได้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคท่านก็รู้ว่าย่อมมีเสียงครหาวิจารณ์อย่างหนัก การที่ยอมกลับมานำพรรคตามข้อเสนอของสส. ย่อมตัองมีเหตุผลที่ยอมแม้แต่ละลายตัวเอง เพื่อฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ กาลเวลาและการกระทำของหัวหน้าพรรค เพื่อให้พรรคประสพความสำเร็จตามอุดมการณ์ของพรรคเท่านั้นที่จะพิสูจน์ในทุกคำครหา สังคมและประชาชนจะตัดสินหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ในที่สุด นายเฉลิมชัยเป็นบัณฑิตลูกพ่อขุนรามคำแหงได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ตนเป็นลูกพ่อขุนคนหนึ่งขอให้กำลังใจในการนำพรรคให้เดินหน้าต่อไป และขอให้กำลังใจมาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค ผู้นำการเมืองหญิงรุ่นใหม่ ให้เข้มแข็งและเป็นผู้นำพรรคในอนาคต ส่วนการที่ผู้ใหญ่ของพรรคออกเตือนว่าอย่าเอาพรรคไปหากิน นั้นแสดงว่าในอดีตอาจเคยมีเรื่องเช่นนี้มาก่อนแล้วก็ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อภิสิทธิ์’ ขอคะแนน กทม. ชี้ 2 เดือน กระแส ปชป. ดีขึ้น ย้ำการเมืองสุจริต

หัวหน้าประชาธิปัตย์ระบุ กระแสตอบรับช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นบวก ย้ำไม่มีใครเป็นเจ้าของประชาชน ตั้งคำถามเลือกตั้ง กทม. สองรอ

'อภิสิทธิ์' นำทัพ ปชป. พา 33 ผู้สมัคร สส.กทม. ไหว้พระแม่ธรณีก่อนสมัครเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคฯ และนางการดี เลียวไพโรจน์ รองหัวหน้าพรรคฯ และแคนดิเดตนายกรัฐมนต

'ต๊ะ นารากร' หวังเป็นม้ามืด ปชป. ปักธงเขต 1 เชียงใหม่ แม้สู้กันดุเดือด

น.ส.นารากร ติยายน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่เขต 1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนพึ่งตัดสินใจในการลงสมัคร สส. หลังจากที่มีการยุบสภา คิดมาเป็นปีที่จะมีการลงเล่นการเมือง เพราะที่ผ่านมาเคยไปสมัคร สว. มาแล้วแต่ตกรอบ

เอาฤกษ์เอาชัย! 'อภิสิทธิ์' นำทีมผู้สมัคร กทม. ไหว้ศาลหลักเมือง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช ดร.การดี เลียวไพโรจน์ นายสกลธี ภัททิยกุล และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นำผู้สมัคร สส. กทม. ทั้ง 33 เขต