
‘ภูมิธรรม’ ป้อง ‘เศรษฐา’ ปัด ‘เพื่อไทย’ ฝาก ผกก. โทษฝ่ายค้านโยงการเมือง ทำเสียเวลาแก้ปัญหาประชาชน
24 พ.ย. 2566 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวแสดงความเห็นถึงเจตนาที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ถึงประเด็นการแต่งตั้งตำรวจในระดับผู้กำกับการ (ผกก.) ว่า สาระสำคัญไม่ใช่อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่พูดว่า กำลังจะเอาตำรวจและนายอำเภอ ทั้ง 2 หน่วยงานมารวมกัน ซึ่งเคยมีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย เพราะจะรู้ว่าในอำเภอพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร
“นายกฯ พูดถึง ผกก. ในแต่ละพื้นที่ รวมถึงในอำเภอจะต้องเป็นกำลังหลักในการดำเนินการ พร้อมย้ำว่าหัวใจสาระสำคัญอยู่ที่ประเด็นที่ต้องได้ ผกก. ที่สามารถทำงานได้ และได้นายอำเภอที่มีความมุ่งมั่นในการทำงาน แล้วปัญหาก็สามารถแก้ไขได้” นายภูมิธรรม ระบุ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการฝากตำรวจใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่มี เนื่องจากในอำนาจหน้าที่ไม่สามารถทำได้ รวมไปถึงกฎหมายมีการระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งนายกฯ ได้อธิบายว่าหากในพื้นที่ไม่สามารถหาคนที่ทำงานเข้าขากันได้ จึงจะต้องหานายอำเภอ และ ผกก. ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ และเป็นแกนนำสำคัญในการทำงาน โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ รัฐบาลจะมีการประกาศอย่างชัดเจนเรื่องการแก้หนี้นอกระบบ และติดตามผลว่า จะสามารถทำงานได้ประสบความสำเร็จแค่ไหนในการแก้ไขปัญหา
ส่วนที่ขณะนี้ฝ่ายค้านพยายามโยงประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องการเมือง โดยจะมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะอ้างว่าเป็นตั๋วเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่เป็นไร เนื่องจากอยู่ที่เจตนารมณ์และความตั้งใจจริงที่จะทำ เมื่อมีเจตนาแบบนี้และไม่ได้พูดแบบนี้ และไม่ได้มีความมุ่งหมายแบบนี้ ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร พร้อมกับมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายค้านจะต้องหาประเด็นมาผูกเพื่อให้เป็นประเด็นในการวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็รับฟังไว้ เพราะเป็นเรื่องที่ว่ากันตามกฎหมาย ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ต้องดูกันไปตามข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายค้านหยิบยกมาเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะสามารถชี้แจงได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ก่อนย้อนถามว่า มั่นใจหรือว่าประเด็นดังกล่าวมีข้อเท็จจริงที่สามารถทำตามนี้ได้ พร้อมระบุว่า อยากให้ฝ่ายค้านทำงานบนพื้นฐานที่เข้าใจกัน และแก้ไขปัญหาตามที่กฎหมายทั้งหมดมี อย่าให้เสียเวลาประชาชนในการแก้ไขปัญหา กลับมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อเอาชนะ สร้างคะแนนแบบนี้ อย่างนี้ไม่เป็นประโยชน์ ฉะนั้นอยากฝากให้พิจารณาและไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี
เมื่อถามว่า จะต้องเตือนเรื่องการพูดตรงของนายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องเตือน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น และเราฟังกันแล้วก็เข้าใจว่านายกฯ อยากให้กระชับ และช่วยติดตามดูว่าการไปทำงานในพื้นที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร รวมถึงผู้กำกับและนายอำเภอ จะช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบได้มากน้อยเพียงใด พร้อมย้ำว่า แม้จะได้ ผกก. ที่พอใจหรือไม่พอใจ หรือสมหวังหรือไม่สมหวัง ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาฝาก แต่หมายความว่าเมื่อเรามาอยู่แล้วเจอ ผกก. และผู้ว่าราชการจังหวัดที่สบายใจหรือไม่ แต่บางคนเจอ ผกก. และผู้ว่าฯ ที่ทำงานได้ดีเขาก็สบายใจ บางคนเจอผู้ว่าฯ หรือ ผกก. ที่ทำงานไม่สอดคล้องกัน ก็อาจจะไม่สมหวังซึ่งประเด็นสาระสำคัญอยู่ตรงนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
'พท.' แฉน่านจ่ายหัวละ 300 เก็บบัตรปชช. ผวาซื้อเสียงระบาดหนัก
'หมอชลน่าน' แฉ พบจ่ายหัวละ 300 บาท ที่น่าน เริ่มเก็บสำเนาบัตรประชาชนแล้ว วัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน หวั่นซื้อเสียงระบาดหนัก
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน'
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน' เหตุเป็นรัฐบาลรักษาการ หลังนายกฯยุบสภาฯ

