เปิดบทสนทนาลับ! 'แกนนำก้าวไกล' บุกเจรจา 'พุทธะอิสระ' ขอช่วยหนุนร่างพรบ.นิรโทษ

ก้าวไกล-ชัยธวัช บุกถ้ำเสือ ลุยเปิดโต๊ะเจรจา "พุทธะอิสระ-อดีตแนวร่วมกปปส." ถึงวัดอ้อน้อย ขอเสียงหนุน ร่างพรบ.นิรโทษกรรม ฯ เปิดลับ บทสนทนาเดือด เห็นไม่ตรงกันเรื่องให้พ่วงทำผิด 112 พ้นผิด

20 พ.ย.2566 - นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม อดีตแนวร่วมกปปส. เปิดเผยว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมผู้ติตตามส่วนหนึ่ง ได้เดินทางมาพบและพูดคุยกับตนเองที่วัดอ้อน้อย เป็นเวลาร่วม หนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เพื่อขอหารือและสอบถามความเห็นรวมถึงขอเสียงสนับสนุนในการที่พรรคก้าวไกล ได้เสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมฯ ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างที่สภาฯกำลังรับฟังความคิดเห็นประชาชน

พุทธะอิสระ เปิดเผยรายละเอียดการพูดคุยกันดังกล่าวว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีการนัดหมายขอพบตนก่อนหน้านี้สองรอบ แต่เวลาไม่ตรงกัน จนสุดท้าย มาคุยกันเมื่อ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่วัดอ้อน้อย โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เริ่มต้นด้วยการเล่าให้ฟังว่า ขณะนี้ส.ส.พรรคก้าวไกลได้ร่วมกันเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯแล้ว ซึ่งในร่างดังกล่าวมีการให้นิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ด้วย

ระหว่างพูดคุยกัน นายชัยธวัช กล่าวว่า คนที่โดนคดี 112 ตอนนี้ที่อยู่ฝ่ายเขา มีเยอะมาก ก็เลยอยากปลดเปลื้องคดีให้คนเหล่านั้น โดยมีการยกเคส นายอานนท์ นำภา อดีตแกนนำม็อบราษฎร อดีตทนายความที่ตอนนี้โดนศาลตัดสินและไม่ได้รับการประกันตัว พอฟังแบบนี้ เราก็เลยบอกเขาไปว่าการนิรโทษกรรมคดี 112 เป็นพระราชวินิจฉัยของพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ได้เป็นอำนาจของครม.หรือรัฐสภา และยิ่งหากจะไปแก้ไขหรือไปขอยกเลิกมาตรา 112 ก็คือเข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ซึ่งตอนนี้ก็มีคดีอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญที่พรรคก้าวไกลโดนยื่นคำร้องไป ก็บอกเขาว่า ถ้าเป็นไปได้ อย่าไปแตะเรื่อง 112 ในการนิรโทษกรรมได้ไหม

แต่หัวหน้าพรรคก้าวไกลค้านว่า ถ้าไม่นิรโทษพวกโดนคดี 112 ด้วย ก็เหมือนกับไม่ได้ทำกฎหมายปรองดอง เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่โดนคดี 112 เราก็บอกไปว่า ก็เห็นมีแต่พวกคุณ ที่มีกิริยาก้าวร้าว ห่ามๆ โดยหากเทียบกับคดีการเมืองต่างๆ เช่นของพันธมิตรฯ กปปส. นปช. ที่ยังมีคดีค้างตอนนี้ กลุ่มนี้มีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็บอกว่า หากไม่แตะ 112 ก็เกรงว่าต่อไปคนโดนดำเนินคดี 112 จะมากขึ้น

"เขาพูดเหมือนประมาณข่มขู่ว่าหากไม่แก้ไขมาตรา 112 ไม่นิรโทษกรรมคนโดนคดี 112 ต่อจากนี้ไปจะมีคนโดนดำเนินคดี 112 มากขึ้น ผมก็สวนกลับไปว่า แล้วคุณมีอะไรยืนยันว่า หากนิรโทษกรรมพวก 112 รอบนี้ แล้วต่อไป จะไม่เกิดคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง จาบจ้วงสถาบัน แบบที่เป็นมาอีก เขาก็ตอบกลับว่า ถ้าแบบนั้น ก็ต้องมาคุยกัน ผมก็เลยบอกกลับไปอีก ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปคุยกันในกลุ่มพวกคุณให้จบก่อน และทำให้ชัดเจน จนคนในประเทศที่เขาเคารพศรัทธาต่อสถาบันฯ เขามั่นใจได้ว่า หากมีการนิรโทษคดี 112 แล้ว ในอนาคตจะมีมาตราการรองรับที่ชัดเจน

ที่สำคัญต้องมีหลักประกันว่า คนที่ได้รับการนิรโทษกรรมคดี 112 ต้องไม่ทำผิดซ้ำซากอีก หลังได้รับการนิรโทษกรรม และหากทำซ้ำอีก จะมีกระบวนการอย่างไร ที่ทำให้ได้รับโทษแรงขึ้น เขาก็บอกว่า ก็จะเอาที่เสนอไปคุยกับพวกเขาอีกที"นายสุวิทย์กล่าว

อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ที่เป็นอดีตแนวร่วมกปปส. เล่าอีกว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกล พยายามพูดว่าการนิรโทษกรรมจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้บอกเขาไปว่า ตนเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แม้หากมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสำเร็จ จะได้ประโยชน์ด้วย แต่ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไร แต่พวกคุณต่างหากที่ดูจะเร่งรัดเร้าร้อนในการจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะอย่างอดีตพันธมิตรฯ อดีตกปปส. เขาไม่ได้จะอะไร เพราะทั้งหมดล้วนยอมรับกฎหมาย เมื่อกล้าออกมาสู้ ก็พร้อมยอมรับความจริงที่จะตามมา ดังนั้นไม่ว่าจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ออก เราก็เฉยๆ เพราะที่ผ่านมา เราสู้เพื่อความถูกต้อง

"เขาคงคิดว่าเราจะมีส่วนได้ส่วนเสีย หากออกกฎหมายนิรโทษกรรมสำเร็จ เลยคิดจะมาเจรจาพูดคุยด้วย เพราะหวังให้เราออกมาให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของเขา ซึ่งจริงๆ เรื่องปรองดอง เราก็เห็นด้วย เพราะหากไม่เห็นด้วย คงไม่อยู่เฉยๆ ปล่อยให้ทักษิณ นอนอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ แต่ต้องปรองดองแบบเท่าเทียม ไม่ใช่ปรองดองแค่กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเราก็ถามถึงพวกด้อมส้ม เด็กๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคก้าวไกลก็อ้างว่า เขาไม่สามารถไปควบคุมพฤติกรรมอะไรได้ เราก็แย้งไปว่า ใช่หรือ มันจริงหรือ และบอกไปว่า คุณต้องไปคุยกับแกนนำพวกคุณโดยเฉพาะนายธนาธรว่าจะมีความคิดล้มเลิกยุติการเคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบันได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ก่อนจะมาคุยเรื่องปรองดอง นิรโทษกรรม เขาก็บอกว่าแล้วจะกลับไปคุย"อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยระบุ

พุทธะอิสระกล่าวอีกว่า ในช่วงการพูดคุยกันดังกล่าว เรายังบอกเขาก่อนกลับเลยว่า ก็เห็นด้วยและชอบใจในความกล้าของพวกคุณนะ ถ้าใช้ความกล้าให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ โดยไม่แตะต้องสองสิ่งคือ สถาบันฯ และความมั่นคง เพราะความมั่นคง พวกคุณไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางจริงๆ เพราะหากไปแตะต้องจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ทำให้เกิดเหตุเภทภัยต่อบ้านเมือง ที่ไม่ควรทำ ก็ย้ำเขาไปว่าอย่าไปแตะต้องสองเรื่องนี้

"ที่เขามาเจรจากับเรา ก็คือ เพื่อขอให้เราช่วยสนับสนุนร่างพรบ.นิรโทษกรรม ลักษณะเป็นการโยนหินถามทางเรา เขาก็บอกว่าจะนำสิ่งที่คุยกันไปพูดคุยกันในกลุ่มเขาอีกทีหนึ่ง แต่ตอนท้าย เราก็ถามเขาว่าที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญมาผลักดันเรื่องนี้เพราะคนก่อตั้งพรรคกับผู้ร่วมอุดมการณ์ของพวกคุณโดนคดีมาตรา 112 กับ 116 ใช่ไหม เขาก็ตอบกลับมาว่า ถึงตอนนั้น พวกนั้นคงไม่รับสิทธิ์ในการนิรโทษกรรม ผมยังถามกลับไปว่า กล้าขนาดนั้นเลยหรือ ก็จะขอรอดูคำยืนยันที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่รับสิทธิ์จริงหรือไม่"

อนึ่ง ปัจจุบัน นักการเมืองในปีกพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าที่โดนดำเนินคดี 112 อาทิเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ในคดีไลฟ์สด วัคซีนพระราชทาน-นายปิยบุตร แสงกนกกุล -นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล น.ส.รัชนก ศรีนอก หรือไอซ์ รัชนก ส.ส.กทม.เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทย ลงมติชงร่างนิรโทษกรรมประกบ 4 ฉบับในสภาฯ ไม่รวมคดี 112 ชี้ใครเสนอก็เดือดร้อน

พท. มีมติเห็นพ้องเสนอร่าง กม.นิรโทษกรรมประกบ หวังสร้างสมานฉันท์ มอบ ”ชูศักดิ์“ ยกร่าง ”วิสุทธิ์“ ย้ำชัดไม่นิรโทษคดีมาตรา 110-112 ชี้ใครเสนอก็เดือดร้อน โดนตีตกหมด 

'แพทองธาร' รอเคาะ 12 ธ.ค. เพื่อไทยเสนอร่างนิรโทษกรรมประกบหรือไม่

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม 4 ฉบับจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในสมัยประชุมหน้า

'โรม' ทุบโต๊ะต้องนิรโทษกรรมเหมาเข่ง! เหน็บถ้าได้เป็น 'คุณอ้วน ภูมิธรรม' วันนี้ คงรับตัวเองไม่ได้

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรั

'วิสุทธิ์' รอมติ สส.เพื่อไทย ชงร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ย้ำไม่แตะคดี 112

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส. พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม สส.พรรค พท.ในวันที่ 29 ตุลาคมว่า เป็นเรื่องปกติ ที่มีประชุมทุกสัปดาห์