'ภูมิธรรม' รีบปัดเลี้ยงดินเนอร์กลบกระแส 'อิ๊งค์' เด่นกว่า 'เสี่ยนิด'

'ภูมิธรรม' เผยนายกฯ เลี้ยงดินเนอร์แกนนำพรรคร่วมบรรยากาศชื่นมื่น เชื่อจะทำให้การทำงานต่อไปราบรื่น - ปัด ไม่ใช่หวังกลบกระแส 'อุ๊งอิ๊ง' เด่นกว่า 'เศรษฐา' เผยนัดต่อไป 'อนุทิน' เป็นเจ้าภาพ

09 พ.ย.2566- นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการร่วมรับประทานอาหารค่ำ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ว่าบรรยากาศการพูดคุยกันระหว่างหัวหน้าพรรคทุกพรรค นายกรัฐมนตรี รวมถึงเลขาธิการนายกฯ ขณะที่ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ไม่ได้เดินทางมา แต่ส่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ พปชร. มาแทน ซึ่งไม่มีอะไรเพราะเป็นการทานข้าวร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาในการทำงานตลอดระยะเวลา 2 เดือนมีแต่พูดคุยกันเรื่องงาน ดังนั้นเมื่อคืนนายกฯ จึงถือโอกาสมาพูดคุย โดยบรรยากาศทุกคนก็รู้สึกดี ขณะที่นายกฯ ก็พยายามสอบถามสารทุกข์สุกดิบว่าแต่ละคนทำอะไรกันมาบ้าง ซึ่งทุกคนก็รู้สึกดีที่ได้รับประทานอาหารที่นายกฯเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจึงมีการตกลงกันว่า จากนี้จะมีการหมุนเวียนสลับกันเป็นเจ้าภาพเดือนละหนึ่งครั้ง ครั้งต่อไปจะเป็นพรรคภูมิใจไทย แต่ในวงขออย่าเป็นพื้นที่ที่การคมนาคมติดขัด เพราะเมื่อคืนฝนตกหนักจึงทำให้แต่ละคนกว่าจะมาถึงก็ใช้เวลานาน

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า การพูดคุยกันไม่มีปัญหาข้อติดขัดในการทำงานระหว่างพรรคแต่มีการพูดคุยกันว่าจะประสานการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเราพูดคุยกันว่าจะประสานงานกันได้อย่างไร ซึ่งการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นไปด้วยดี และจากนี้ก็จะช่วยกันทำงานและช่วยกันแก้วิกฤติของประเทศ เพราะทุกคนเต็มที่ทั้งนี้บรรยากาศการพูดคุยก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน พร้อมยกตัวอย่างกระแสข่าวความขัดแย้งของตนเองกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งหากประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กันวันไหน ก็จะนัดกันจูงมือกันเข้าประชุมเลย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความร่วมมือแบบนี้น่าจะทำให้รัฐบาลสามารถทำงานได้เต็มที่บางครั้งมีอะไรที่ไม่เข้าใจหรืออะไรกันบ้าง ก็จะให้คุยกันเลยจึงไม่น่าที่จะมีปัญหา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกฯ นัดรับประทานอาหารกับพรรคร่วม เป็นเพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีบทบาทเด่นกว่านายกฯ หรือไม่นายภูมิธรรม ปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะ น.ส.แพทองธาร กับนายกฯ พูดคุยกันโดยตลอดและเราก็รู้ว่าช่วยกันทำงานในแต่ละหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่นตนเองเมื่อมาเป็นรัฐมนตรีก็มีความห่างจากพรรค เพราะต้องมาทำงานบริหาร ฉะนั้นเรื่องพรรคบางครั้งก็ไม่สามารถตอบในรายละเอียดได้

“ขณะนี้ในเรื่องของพรรคเพื่อไทย เป็นหน้าที่ของ น.ส.แพทองธาร ที่จะทำพรรคเพื่อไทยให้เข้มแข็ง ขณะที่นายกฯก็ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน โดยจะต้องประสานกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ เพื่อทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย”

นายภูมิธรรม ย้ำว่า เป็นการแยกทำหน้าที่อย่างชัดเจน แต่มีการพูดคุยกันตลอด ส่วนเรื่องการประชุมพรรคที่สำคัญตนเองกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ก็เข้าร่วมประชุม เพราะนายกฯกำชับรัฐมนตรีทุกคนประชุมขอให้เข้าประชุม และถ้านายกฯไม่ติดภารกิจก็จะเข้าร่วมประชุมพรรคด้วย เพื่อจะได้มีความสัมพันธ์กับ สส. ในการสานต่อเรื่องการทำงาน เพราะ สส.ได้ลงพื้นที่พบประชาชนก็จะได้สะท้อนความรู้สึกกลับมาเพื่อมาปรับการทำงาน และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็จะได้ชี้แจง และหากติดขัดอะไรก็บอกมาเพื่อจะได้หาทางแก้ปัญหาหรือพูดคุยกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยศชนัน’ สงวนท่าทีกากบาทป้าย iLaw หวั่น กกต.เอาผิด ปมแก้ รธน.

“ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ร่วมกิจกรรม iLaw แสดงความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ รับส่วนตัวเห็นควรแก้ไข แต่ขอรอฟังเสียงประชาชน พร้อมย้ำเงื่อนไขงดแตะหมวด 1-2 และขอไม่กากบาทบนแผ่นป้าย เหตุไม่สบายใจทางการเมือง

‘ขิง-ศุภมาศ’ นำทีม ภท. สมัคร สส.กทม. 33 เขต ลั่นพร้อมแบกรับภาระคนกรุง

“เอกนัฏ-ศุภมาศ” นำทัพผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย ยื่นใบสมัครเป็นพรรคแรก มั่นใจตัวผู้สมัครและนโยบายช่วยแบ่งเบาภาระคนกรุงเทพฯ ด้านศุภมาศย้ำมีเป้า สส. แต่ขอเวลาให้ผู้สมัครลงพื้นที่ก่อน พร้อมยืนยันจะได้เห็น “เอกนิติ-ศุภจี” ช่วยหาเสียงแน่

'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน

"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้

'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง

โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว

"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ