ติดหล่มลากไส้! 'ชัยธวัช' ยัน 'เบญจา' ไม่ได้มีส่วนได้เสียตบทรัพย์บ่อขยะ

7 พ.ย.2566 - ที่โรงแรมอักษร อ.แกลง จ.ระยอง นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวชี้แจงในกรณีที่นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลไปก่อนหน้านี้ ในกรณีคุกคามทางเพศ ซึ่งให้ข้อมูลที่สร้างความกระทบเสียหายต่อพรรค โดยได้ให้เหตุผลทึ่ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า มีทีมงานในจังหวัดปราจีนบุรี หรือผู้ช่วย ส. ที่ทำงานใกล้ชิดของกรรมการบริหารพรรค รับผลประโยชน์จากบริษัทบ่อขยะ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหานี้แต่อย่างใด เนื่องจาก 1.กรรมการบริหารพรรคได้รับทราบข้อมูลที่นายวุฒิพงศ์ถูกร้องเรียนในช่วงระหว่างที่กำลังแก้ข้อกล่าวหากรณีคุกคามทางเพศ ซึ่งนายวุฒิพงศ์ได้มีการพยายามนำประเด็นนี้มาโต้แย้ง และนำข้อมูลมาให้ว่า การร้องเรียนมีแรงจูงใจจากผลประโยชน์ทางการเมือง

นายชัยธวัช กล่าวยืนยันว่า พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ และต้องมีพิจารณาแยกจากกัน เนื่องจากข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาคุกคามทางเพศ ต่อให้การเรียกรับผลประโยชน์เป็นเรื่องจริง ก็ไม่เกี่ยวกัน ไม่มีผลต่อการพิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศ

2.ผมและผู้บริหารพรรคได้แจ้งกับกรรมการวินัยไปหลายสัปดาห์แล้วว่า เมื่อพิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศเสร็จ จะต้องมีการพิจารณาในข้อกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของพรรคเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อขยะต่อเลย โดยพรรคได้มีการดำเนินการอยู่ในขณะนี้ แต่เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาบวชอยู่ จึงต้องรอให้สึกออกมาก่อน แล้วจึงค่อยเข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริง

3.ผมขอยืนยันว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาว่าทุจริต เป็นผู้ช่วยใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรค ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะน.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรค ที่ถูกกล่าวถึง ไม่ได้มีส่วนโหวตในขั้นตอนของกรรมการวินัย

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า เมื่อผลสอบของกรรมการวินัยส่งมาถึงกรรมการบริหารพรรค น.ส.เบญจา ของดออกเสียง เพราะรู้ว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาร่วมในกรณีด้วย อย่างไรก็ตาม กรรมบริหารที่เหลือลงเสียงเป็นเอกฉันท์ และเห็นว่านายวุฒิพงศ์มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า แม้น.ส.เบญจา ไม่ได้มีโหวต แต่อาจจะมีการล็อบบี้ให้โหวตขับนายวุฒิพงศ์ ออกจากพรรค นายชัยธวัช กล่าวว่า น.ส.เบญจาไม่ได้มีส่วนในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว การแต่งตั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ารับผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วย สส.ของน.ส.เบญจานั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เนื่องจากน.ส.เบญจาตั้งผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวขึ้น เพราะพรรคเสนอชื่อ โดยเห็นว่าเป็นคณะทำงานในจังหวัดปราจีนบุรี แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน น.ส.เบญจาได้นำรายชื่อออกจากการเป็นผู้ช่วย สส.แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการอคติในการตรวจสอบ เกี่ยวกับการรับผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ ในการพิจารณาสอบสวนเรื่องนี้

ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกลับกับนายวุฒิพงศ์หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ในส่วนที่พรรคต้องทำ คือการสอบสวนว่า มีการรับผลประโยชน์จริงหรือไม่ หากมีข้อเท็จจริงที่เชื่อมโยงกับน.ส.เบญจา แน่นอนว่าต้องมีการตรวจสอบ

"ต้องเรียนอย่างนี้นะครับ ข้อเท็จจริงที่ สส. ปราจีนบุรี นำมากล่าวหา ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเบญจาเลย เป็นเพียงการกล่าวหาว่าบุคคลที่เป็นทีมงานของพรรคในจังหวัดปราจีนบุรี มีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่ารับผลประโยชน์จากบ่อขยะ ซึ่งในข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเบญจาเลย เพียงแต่มีการกล่าวหาเพราะบุคคลท่านนี้เป็นผู้ช่วย สส. ของคุณเบญจา ก็เลยเป็นเหตุที่มีแรงจูงใจในการขับเขาออกจากพรรค" นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 กรณี จะต้องพิจารณาแยกกัน เรื่องคุกคามทางเพศก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องทุจริตบ่อขยะก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากบุคคลที่ถูกกล่าวหารับผลประโยชน์จากบ่อขยะจริง ก็ไม่สามารถลบข้อครหาเรื่องคุกคามทางเพศหายไป

เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญนายวุฒิพงศ์ เข้าไปให้ข้อมูล นายชัยธวัช กล่าวตอบทันทีว่า "ก็ดีเลยครับ" พร้อมกล่าวต่อว่า ตนก็อยากให้จริงจัง เพราะเครือข่ายผลประโยชน์ในการหากินกับบ่อขยะ รวมถึงขยะในอุตสาหกรรม มลพิษต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองบ้านใหญ่เต็มไปหมด ตนยินดีด้วยซ้ำ หากทาง กมธ. มาช่วยสอบสวน ถ้าคนของพรรคก้าวไกลผิดจริง ตนยิ่งขอบคุณ และอย่าหยุดแค่นั้น ต้องสอบไปดูว่านักการเมืองบ้านใหญ่ มีใครที่เกี่ยวข้องกับบริษัทพวกนี้ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ชาวปราจีนบุรี เขต 2 เลือกคนของพรรคก้าวไกล

"ผมต้องยอมรับว่าคุณแจ้ เป็น สส.คนหนึ่ง ที่ทำงานเรื่องมลพิษอย่างแข็งขัน แต่เราต้องแยกออกจากกัน แม้คุณแจ้จะต่อสู้อย่างเต็มที่เรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับชาวบ้าน มันไม่ได้ไปลบล้างอีกเรื่องหนึ่ง แม้กระทำผิดจะต้องไม่ได้รับโทษ ผมมองว่าต้องแยกออกจากกัน" นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวุฒิพงศ์ กล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลใช้วิธีพวกลากมากไป จะเกิดเหตุการณ์พวกลากมากไปหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า ไม่มีอย่างแน่นอน กรณีของนายวุฒิพงศ์ สส. และกรรมการบริหารพรรค พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เป็นข้อยุติ ซึ่งในการประชุมก่อนหน้านี้ แม้ว่า สส.ในพรรค เห็นว่าทั้ง 2 กรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และผิดวินัยขั้นร้ายแรงของพรรคจริง เพียงแต่มีการพิจารณาว่าทั้ง 2 เรื่องมีข้อเท็จจริงต่างกันว่า กรณีที่ 1 ชัดเจนว่าเขาใช้สถานะว่าที่ สส. รวมถึง สส. ในเวลาต่อมาในการกระทำผิด จึงเป็นเหตุให้ สส.เห็นว่า ควรจะลงโทษตามสัดส่วนของการกระทำผิด เลยทำให้จำนวน สส.ที่เห็นว่าควรจะขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ผู้ถูกกล่าวหาในกรณีคุกคามทางเพศ น้อยกว่ากรณีของนายวุฒิพงศ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' ทวงบุญคุณเอ็มโอยูยกเก้าอี้ประธานสภาให้จี้เร่งทำ 3 เรื่อง

'พิธา' ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภายกเอ็มโอยูตั้ง รบ.ไม่สำเร็จ แต่ขอให้ผลักดัน 3 ข้อ รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ

'ไอติม' ยันก้าวไกลไม่ได้หนุน 'บิ๊กแจ๊ส' ชิงนายก อบจ.ปทุมธานี

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี สส.ของพรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความยินดีกับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ที่ชนะการเลือกตั้ง

เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค

'พิธา' อัด กกต. อย่าสองมาตรฐานคดียุบพรรค เชื่อ ก้าวไกล มีสิทธิรอด

'พิธา' บอก ยังไกลไปเยอะ หาก 'ก้าวไกล' รอดถูกยุบ แล้วฟ้องกลับ 'กกต.' มอง ตีความแยกมาตรา 92-93 ทำให้เกิดสองมาตรฐาน มั่นใจ คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 อธิบายได้ ย้ำ ต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ เหตุคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด

ก๊วนหมิ่นสถาบัน โผล่สภาฯ ชงล้างผิดคดี 112 อ้างเฉยมีเหตุจูงใจการเมือง เห็นต่างคณะรัฐประหาร

"แก๊งหมิ่นสถาบัน" ยื่น "ชัยธวัช" ขอนิรโทษกรรมรวม 112 เพื่อฉลองวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ มองเป็นประโยชน์เดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้านเจ้าตัว ชี้กำลังพิจารณาในเรื่องของอำนาจหน้าที่