"เรืองไกร" จ่อร้อง กกต. สอบคุณสมบัติ รมต.เพิ่มอีก1 คน ระบุถือหุ้นเกิน5% หรือไม่ จี้ส่งศาลรธน. เพื่อสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แบบ"ศักดิ์สยาม"
4 พ.ย. 2566 - นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แจ้งว่า ตามที่ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวที่ 35/2566 วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เรื่องพิจารณาที่ 5 ที่ลงไว้ ดังนี้
“(5) ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบ มาตรา 187 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 8/2566)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรม นูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา วินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมี คำวินิจฉัย
โดยผลการพิจารณา คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวน พิจารณาและรวบรวมพยานหลักฐานมาแล้ว จำนวน 48 ครั้ง เห็นควรไต่สวนพยานบุคคลต่อไป จึงกำหนดวันนัดไต่สวนพยานบุคคล จำนวน 4 ปาก ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ยื่นต่อส่วนราชการต่างๆ ของรัฐมนตรีหลายรายใน"รัฐบาลเศรษฐา" พบว่า ตอนนี้มีรัฐมนตรีรายหนึ่ง ที่มีหลักฐานเพียงพออันควรไปร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบในลักษณะที่คล้ายกันกับของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดังนั้น ตนเตรียมจะไปยื่นหนังสือด้วยตนเองเพื่อขอให้ กกต. รีบดำเนินการตรวจสอบรัฐมนตรีรายนี้ ว่ายังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นจำกัด เกินร้อยละ 5 หรือไม่ หากยังคงไว้ จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ รวมทั้งขอให้ กกต. รีบส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพร้อมทั้งมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้รัฐมนตรีรายนี้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว
'ดิเรกฤทธิ์' พ้อ! ไร้องค์กรตรวจสอบ กกต. ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ 'เลือก สว.'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ประชาธิปไตยต้องไม่มีอำนาจใดไม่ถูกตรวจสอบ"
อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ
'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว
7ส.ค.ชี้ชะตาก้าวไกล
"ก้าวไกล" คอพาดเขียง 7 ส.ค. "ชัยธวัช" โอดเสียดายศาลไม่เปิดไต่สวนคดียุบพรรค
เลขาฯกกต. โต้ก้าวไกล ปมยื่นยุบพรรค
นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต และนายทะเบียนพรรคการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงอำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. เลขาฯกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองต่อกรณีการยื่นยุบพรรคการเมือง
'ชัยธวัช' ลั่นทุกคนในพรรคนิ่ง ถ้ายุบจริงเราตกผลึกหมดแล้ว ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่มีการไต่สวน