มท. สั่งด่วน ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดลงพื้นที่เตือนครอบครัวแรงงานไทยอิสราเอลให้เดินทางกลับเร็วที่สุด

ปลัด มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดระดมสรรพกำลังประชาสัมพันธ์ในวงกว้างต่อสาธารณชนและลงพื้นที่ไปพบครอบครัวคนไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล วิงวอนให้แรงงานไทยเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของชีวิต

29 ต.ค. 2566 -นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีแถลงการณ์เรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอล เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล – กาซา ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 และ กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซา ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบรุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อกระบวนการอพยพอย่างมีนัยสำคัญ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้เครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยเร่งประชาสัมพันธ์กับครอบครัวและญาติของผู้ไปทำงานในอิสราเอล โดยขอวิงวอนให้พี่น้องแรงงานไทยได้ตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของชีวิต ซึ่งรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับพร้อมทั้งเร่งออกมาตรการเยียวยาหาทางลดภาระต่าง ๆ อย่างเต็มที่ โดยหากครอบครัวต้องการให้ช่วยติดต่อประสานเรื่องการเดินทางกลับ ก็ให้ญาติได้ทำการแจ้งมายังอำเภอหรือจังหวัดได้ เพื่อจะได้ประสานงานอำนวยความสะดวกให้ต่อไป

“ตนได้ลงนามในโทรสารด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้แจ้งไปยังข้าราชการทุกกระทรวง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา อาสาสมัคร และภาคีเครือข่าย ในพื้นที่จังหวัด อำเภอ ช่วยประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจและชี้แจงต่อครอบครัวและญาติของผู้ไปทำงานในอิสราเอลด้วยตนเอง และใช้ช่องทางหอกระจายข่าว หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ ทุกรูปแบบ ขอให้ผู้ไปทำงานในอิสราเอลได้ตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของชีวิต โดยรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับ พร้อมทั้งเร่งออกมาตรการเยียวยาหาทางลดภาระต่าง ๆ ให้กับคนไทยที่ไปทำงานในอิสราเอลอย่างเต็มที่ โดยครอบครัวและญาติของผู้ไปทำงานในอิสราเอลสามารถใช้ช่องทางศูนย์ดำรงธรรม หมายเลขโทรศัพท์ 1567 เพื่อประสานงานให้กับญาติของตนเอง และผู้ไปทำงานในอิสราเอลสามารถแจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันที ที่โรงแรม David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501 หมายเลขโทรศัพท์ศูนย์พักพิง 050-443 8094, 053-557-4115 หมายเลยโทรศัพท์สถานทูตฯ 055-271 2201, 053-254 2826, 054-636 8150 เพื่อประสานงานในการกลับประเทศได้ ทั้งนี้ สำหรับจังหวัดที่ไม่มีผู้ไปทำงานในอิสราเอลให้ประชาสัมพันธ์ผ่านข่าว วิทยุ หรือสื่อสาธารณะของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยให้รายงานผลการดำเนินงานทุกวัน ตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! แรงงานไทยตาย 1 ราย สถานทูตไทยในอิสราเอล เผย 11 พื้นที่ห้ามทำงาน-พักอาศัย

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 ต.ค. 67) ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'o

ปฏิญญาเขาใหญ่ ขลังจริง! สิงห์ดำยังแรงต่อเนื่อง 'อรรษิษฐ์' จ่อนั่งปลัด มท. ยาว 7 ปี

กระแสข่าวการจัดทัพทำโผแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีของกระทรวงมหาดไทยในปีนี้ ที่มีข่าวว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตัดสินใจจะเสนอชื่อนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ที่เหลืออายุราชการอีกยาวนานถึง 7 ปี เพราะจะเกษียณราชการในปี 2574 นั่งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย คนใหม่แทนนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ หรือปลัดเก่งฯ ที่จะเกษียณ 30 ก.ย.นี้

ตราดระทม! จมบาดาล 1 เมตร เดือดร้อน 3 พันคน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนรักษ์คลองบางพระ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ ถนนเทศบาล 3, 5 ถนนพัฒนาการปลายคลอง ถนนกิตติพัฒนา ซอยสืบแสวงทรัพย์ ซอยร่มไทร ซอยสุเหล่าแขกปลายคลอง ซอยสมจริง ซอยศาลเจ้าแม่ตาเหล ยังคงทรงตัว

'พิพัฒน์' รุดเยี่ยมครอบครัวแรงงาน เสียชีวิตจากอิสราเอล กำชับแรงงานจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ทายาทให้ครบถ้วน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายนิพล อัครศรี และนางอมร อัครศรี บิดาและมารดาของนายสนธยา อัครศรี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการไปทำงานที่รัฐอิสราเอล

'อนุทิน' นำ รมช.-ขรก. จัดงาน 132 ปี วันสถาปนากระทรวงมหาดไทย

'อนุทิน' นำข้าราชการ จัดงานครบรอบ 132 ปี วันสถาปนากระทรวงมหาดไทย น้อมรำลึกและสืบสานปณิธานแห่งองค์ปฐมเสนาบดี บำบัดทุกข์บำรุงสุข