21 ต.ค.2566 - ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท จ.ภูเก็ตนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ในฐานะประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนาสส.พรรคพปชร.ว่า ภารกิจของเราคือการทำงานร่วมกัน โดยความสำเร็จของการเลือกตั้งคือเป้าหมายของเรา ความนิยมของพรรคเป็นไปตามกระแสการเมืองซึ่งมีความสำคัญ และมีผลต่อการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ และตนหวังว่าในครั้งหน้า สส.ทั้ง 39 บวก 1 คนจะได้กลับมาอีก วันนี้เราต้องปรับภาพลักษณ์ของพรรค ซึ่งไม่ใช่ว่ามีปัญหา แต่เมื่อบริบทการเมืองเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราต้องปรับภาพลักษณ์ของพรรคให้สอดคล้องกับบริบทการเมืองสอดรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะต้องช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ของพรรคให้เป็นที่นิยม
“จาก 3-4 เดือนที่มีการประเมินในหลายพื้นที่ ภาพลักษณ์ของพรรคเรากำลังพลิกกลับมา เนื่องจากการเมืองภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองจะพลิกกันไปพลิกกันมา พรรคนี้อาจจะมาแล้วแต่อาจจะแผ่ว บางพรรคอาจไปสะดุดขาตัวเองบางเรื่อง อีกสิ่งหนึ่งคือเราต้อง ตอบตัวเองให้ได้ว่าใครคือโหวตเตอร์ที่สนับสนุนพรรค ทุกท่านที่ผ่านการเลือกตั้งเรารู้อยู่แล้วว่าเสียงของเราอยู่ที่ไหน ดังนั้นเราจะต้องปรับตัวเองให้สอดรับกับฐานเสียงของพรรคและตรงไหนที่ฐานเสียงเรายังไปไม่ถึงเราจะปรับตัวอย่างไร”นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการทำงานของพรรค เราต้องสร้างการยอมรับกับพรรค ทั้งนโยบายการทำงาน ภาพบุคลากรของพรรคต้องโดดเด่น จึงต้องร่วมกันทำงานทุกฝ่าย ยุคนี้พรรคต้องปรับบทบาทในสภาให้โดดเด่น เพราะประชาชนมองบทบาทของสส.ในสภา ซึ่งจากที่ตนและคณะได้ติดตาม การทำงาน สส.ในสภาก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ เราเก็บทุกคลิปที่สส.พรรคอภิปรายมาสื่อสารในพรรค รวมถึงผลงานของพรรคต้องจับต้องได้ และในมิติของการบริหารในกระทรวงที่พรรครับผิดชอบ ผลงานของกระทรวงคือผลงานของพรรค และขยายลงพื้นที่
“เป้าหมายของพรรคพปชร.ต้องยืนหยัดเป็นสถาบันทางการเมือง พรรคพปชร. จะต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และจะต้องเป็นพรรคที่จะเข้าไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างสง่าภาคภูมิ และเป้าหมายคือทุกท่านต้องกลับมา และการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะต้องได้สส.มากกว่าเดิม แต่วันนี้เร็วเกินไปที่จะบอกว่าได้สส.เท่าไหร่ ซึ่งทุกคนจะต้องช่วยกันในจังหวัดของท่านจะต้องขยายเขตเลือกตั้ง และเตรียมสรรหา ผู้สมัครที่มีความแข็งแกร่งรองรับเอาไว้ สส. แต่ละจังหวัดนอกจากจะมีหน้าที่รักษารักษาพื้นที่แล้ว ยังจะต้องมองพื้นที่ที่มีโอกาสที่เรามีบุคลากรมีผู้สมัครในอนาคตมาทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่เชื่อมโยงกับกระทรวง เชื่อมโยงกับรองนายกฯ ซึ่งตนได้เรียนกับพล.ต.อ. พัชราวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร.ก็พร้อมทำงานร่วมกับเรา และจะมาร่วมประชุมพรรคให้บ่อยขึ้น ภารกิจที่พรรครับผิดชอบจะต้องเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรค แต่ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของหัวหน้าพรรค ที่ต้องการให้เราทำงานร่วมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ลุงป้อม' ร่วมลอยกระทง อวยพรคนไทย สุขสมหวัง สิ่งใดไม่ดีขอให้หลุดพ้น
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ พล.ต.ท ปิยะ
'บิ๊กป้อม' สั่งลูกพรรคให้ทำทุกวิถีทางเพื่อยกเลิก MOU 44
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางกลับจากพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคประจำสัปดาห์
'บิ๊กป้อม' ประกาศสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งศูนย์ประสานงานข้อมูลเขต 77 จังหวัด
นายภัทรธรณ์ เทียนไชย รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานว่า
โฆษก พปชร. แจง 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ไม่ได้ร่วมงานพรรคนานแล้ว
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม อดีตทีมโฆษกพรรค พปชร. ที่ล่าสุดมีความเกี่ยวข้องคดีรีดทรัพย์ 20 ล้าน จากบอสบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป
'ธีระชัย' เผย MOU44 จุดแข็งคือจุดอ่อน มาถึงบัดนี้ไทยย่อมจะไม่ใช้สิทธิที่จะทักท้วงอีกแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังปร
‘บิ๊กป้อม’ นำลูกพรรค พปชร. ทอดกฐินสามัคคี วันเดียว 3 วัด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางไปเป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคีในช่วงเทศกาลออกพรรษา วันเดียว 3 วัด