‘บิ๊กทิน’ เร่งอพยพคนไทยในอิสราเอล เตรียมแผนส่งเรือไปจอดรับอีกทาง

‘บิ๊กทิน’ เผยรัฐบาลเร่งอพยพคนไทย ยันไม่ทอดทิ้ง แต่ห่วงความปลอดภัยเพราะมีการยิงจรวดสู้รบกันอยู่ ยังสำรองแผนใช้ c-130 ไปรับประเทศใกล้เคียง ระบุมีแนวคิดใช้เรือรบจากทร.ไปจอดรับ แต่คงไม่ถึงขั้นนั้น

16 ต.ค.2566-ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 ดอนเมือง(บน.6) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเครื่องบิน A340-500 ของกองทัพอากาศ เที่ยวบินแรกที่เดินทางไปอพยพคนไทยในอิสราเอล เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 โดยได้กล่าวกับนักบิน และทางเจ้าหน้าที่ ที่ไปอพยพคนไทยจากประเทศอิสราเอลว่า สิ่งแรกที่อยากจะพูดคือพวกเราทุกคนที่มาวันนี้ดีใจ และชื่นใจที่ได้เห็นทุกท่านกลับมาโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับมีภารกิจที่สำเร็จ อย่างสมบูรณ์นั่นก็คือทุกท่านกลับมาด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ประการที่สอง คือภารกิจของเราได้ไปนำเอาพี่น้องเรากลับมา ซึ่งเมื่อสักครู่ก็ได้เห็นพี่น้องเราได้กลับมา เห็นหน้าตาที่ทุกคนได้เหมือนกับว่าได้รอดพ้นจากอันตรายและทุกคนเหมือนมีความรู้สึกว่า จะได้กลับมาสู่ความอบอุ่นของแผ่นดินของครอบครัว เพราะฉะนั้นต้องชื่นชมความเสียสละของทุกท่านและความตั้งใจในการปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งด้วยจิตใจที่มีความอบอ้อมอารีต่อพี่น้องคนไทยด้วยกัน

“ในฐานะกองทัพ และกลาโหมและคนไทยทุกคนขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ขอขอบคุณและขอให้ทุกท่านได้พักผ่อนเพื่อเอาพลังไปปฏิบัติหน้าที่ในรอบต่อไป ผมขอให้ สื่อ และ ผู้มา ต้อนรับ ร่วมปรบมือ ให้กำลังใจ คณะกองทัพอากาศด้วย”

จากนั้นนายสุทิน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่ออีกว่า ขณะนี้ยังมีคนไทย ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยอีก จำนวนมาก สำหรับอุปสรรคที่สำคัญคือยังมีการสู้รบโดยเมื่อวานได้รับรายงานว่ายังมีการยิงจรวดโจมตีกันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีการยิงจรวดโจมตี ทำให้การเดินทางจากที่ต่างๆมายังสนามบิน มีความลำบาก จึงต้องวางแผนทำงานให้รัดกุม เพราะการเดินทางต้องมาด้วยความปลอดภัยส่วนเรื่องอื่นๆเช่นเรื่องหนังสือเดินทางก็เล็กน้อย เพราะทางสถานทูตเราพร้อมที่จะออกทดแทน และแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าถึงสิ้นเดือนจะมีคนไทยอพยพออกมาได้ประมาณกี่คน สุทินกล่าวว่า น่าจะประมาณ 6,000 คน แต่ตอนนี้กำลังคิดวิธีการอื่นๆ ซึ่งหากมีวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมก็อาจจะได้มากกว่า 6,000 คน

รมว.กลาโหม กล่าวกับประชาชนที่อพยพมาจากประเทศอิสราเอลว่า ทางรัฐบาลก็ได้เร่งดำเนินการในการอพยพ โดยได้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันแรก พร้อมที่จะบินไปรับทันที แต่ปัญหาคือทางประเทศอิสราเอล ไม่อนุญาตเพราะต้องรอการอนุญาต จากประเทศอิสราเอล จึงจะบินได้เพราะตอนนี้เค้ากำลังรบ ถ้าเครื่องบินเราบินไปเกะกะทางยุทธการเขา เขาเลยไม่ให้บินเข้าไป จึงทำให้เสียเวลาอยู่หลายวัน พวกเราแจ้งความประสงค์จะกลับ แต่ ยังบินไม่ได้เพราะต้องรอการอนุญาตจากประเทศอิสราเอล ก่อนก็ได้แต่ห่วงใยจนกระทั้งเราได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอิสราเอลได้ จึงได้บินไปรับทันที ซึ่งวันนี้ก็มีบินอยู่หลายไฟล์

“ส่วนเครื่องบิน C130 มีข้อจำกัดคือต้องเติมน้ำมันหลายที่ และเป็นเครื่องบินทหาร เมื่อบินผ่านหลายประเทศสเราก็ต้องขออนุญาต บินผ่านนานฟ้าหลายประเทศ จึงทำให้ยากขึ้นดังนั้นรัฐบาลจึงใช้เครื่องพาณิชย์ ข้ามาช่วยวันนี้การอพยพ พวกเราจึงเป็นสองระบบคู่กันอยู่คือใช้ทางกองทัพ ขณะทางเครื่องบินพาณิชย์เราก็เช่าเหมาลำ บางคน มาเองเพราะใจร้อนซึ่ง แต่มาถึงเมืองไทยเราก็คืนตังค์ ให้อันนี้ก็คือการช่วยเหลือ บนเครื่องเราก็จัดพยาบาลจากแพทย์ จากหน่วยดูแลพวก อันนี้ให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งกองทัพทำเต็มที่แล้ว“

นายสุทิน กล่าวว่า จากนี้เราก็ดูแลในเรื่องการตรวจสุขภาพวันนี้ก็มีกระทรวงแรงงานมาด้วย ก็พร้อมที่จะจ่ายเบื้องต้นเ 15,000 บาท ทางกระทรวงพัฒนาสังคม ก็มาดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ารถกลับบ้านก็จะมีกระบวนการในการติดตามดู ทราบจากรัฐมนตรีว่าพอกลับมาแล้วกระทรวงแรงงานก็จะสำรวจว่าใครประสงค์จะกลับไปอีก ก็แจ้งไว้ได้ถ้าเหตุการณ์สงบสัญญายังเหลือจะกลับไปก็คุยกับกระทรวงแรงงาน ถ้าไม่อยากไป จะไปประเทศอื่น ก็ให้แจ้งถึงปัญหาให้กระทรวงแรงงานทราบ

“รัฐบาลกำลังคิดแผนใหม่อยู่ว่า จะเอาเครื่องบิน C130 เพื่อไปช่วยลำเลียงคนไทยจากประเทศอิสราเอล โดยให้รออยู่ประเทศที่สาม เช่นจอร์แดน ซาอุดิอารเบีย ดูไบ ไซปรัส กลับมาประเทศไทย เราคิดไปถึงขนาดว่าถ้ามันจำเป็นอาจจะต้องเสริมด้วยทางเรือ กองทัพเรือ เอาเรือไปจอดรับแต่ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้นก็ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าดีใจและขอให้ทุกคนเค้ากลับบ้านด้วยความปลอดภัย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา'เรือดำน้ำ' เปิด5ประเด็นสะดุด'ตอ'

ทริปเร่งด่วน ที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม นำทีม พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสายตรงของ “นายกฯ" และ “ชินวัตร” บินไปจีนเมื่อช่วงวันที่ 24-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ S26T ที่ ทร.ไทยจ้างบริษัทของจีนสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา

'สุทิน' ยังไม่เซ็นเปลี่ยนสัญญาซื้อเรือดำน้ำ รอคุยกฤษฎีกา รับกังวลเสี่ยงถูกฟ้อง

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า ตนเองยังไม่ได้มีการเซ็นลงนามเปลี่ยนสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำและยังไม่ได้มีการส่งนายกรัฐมนตรี แต่ได้เซ็นยอมรับผลการศึกษา ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการเร่งรัด

'สุทิน' ยันไม่ล้วงลูก ทอ. เลือก 'กริพเพน' หรือ 'เอฟ-16' เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์ สองค่ายขั้วเดียวกัน

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ ภายหลังกองทัพอากาศ ได้สรุปข้อมูล 2 แบบ ได้แก่ F-16 Block 70 บริษัท Lockheed Martin สหรัฐ​อเมริกา และ Gripen E บริษัท SABB สวีเดน ผ่านมายัง รมว.กลาโหม

เอ๊ะยังไง! ’สุทิน’ ยังไม่เซ็นแก้สัญญาเรือดำน้ำจีน รับซื้อแบบจีทูจีห้ามฟ้องร้อง

‘รมว.กลาโหม’ ระบุยังไม่ลงนามแก้สัญญาเรือดำน้ำจีนยังติดข้อกฎหมาย รับซื้อแบบจีทูจี ห้ามฟ้องร้อง ขณะนายกฯ สั่งละเอียด รอบคอบ และอธิบายสังคมได้ บอกไม่ได้ทัน’ยุคบิ๊กดุง’หรือไม่ มั่นใจเหล่าทัพพร้อมแจง กมธ.งบ 68 จัดซื้อเครื่องบินรบ-เรือดำน้ำ ไม่มีอะไรซับซ้อน

'บิ๊กทิน' ชง ครม. แก้ไขสัญญาจัดหา 'เรือดำน้ำ' แล้ว

พลเรือเอกชลธิศ นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดหาเรือดำน้ำ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีนของกองทัพเรือ

'สุทิน' เผยทูตสหรัฐ เสนอขายเครื่องบินรบ เอฟ-16 พร้อมปล่อยกู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยี

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังทูตสหรัฐฯ เข้าพบ เพื่อสนับสนุนเครื่องบินเอฟ 16 พร้อมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ว่า เขามาเสนอขายธรรมดา อยากให้เราช่วยพิจารณา