ทะแม่ง! บิ๊กรัฐบาลสั่งรองโฆษกต้องเวียนเข้าห้องประชุม ครม.เพราะสถานที่คับแคบ

'คารม' รับเป็นนโยบายผู้บริหาร เวียน รองโฆษกรัฐบาลเข้าประชุม ครม.ระบุไม่ติดใจเรื่องไม่ได้เข้า แต่หวั่นกระทบการชี้แจง ไม่ทราบใครบงการ

11 ต.ค.2566 - นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุญาตให้รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผลัดเวียนกันเข้าห้องประชุม ครม. โดยให้เหตุผลว่าห้องประชุมแคบ และคนที่ไม่ได้เข้าไปให้สอบถามผู้เกี่ยวข้องก่อนการแถลงข่าว ว่าเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ไม่ได้เข้าห้องประชุม ครม. โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ได้ไปพบนางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ จึงได้รับข้อความจากนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ว่าผู้บริหารได้ให้รองโฆษกฯ เวียนเข้าห้องประชุม ครม. ขณะที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ สามารถเข้าได้ทุกครั้ง จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้เข้าห้องประชุม ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เนื่องจากมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืน ที่กระทรวงมหาดไทยรายงานต่อ ครม.ให้รับทราบ ซึ่งทราบจากมติ แม้ไม่มีข้อขัดข้องในการเข้าประชุม แต่จะเป็นเรื่องยากที่จะต้องต่อประเด็นว่าจะชี้แจงอย่างไรหากมีสื่อมวลชนมาถาม ดังนั้นเมื่อวันที่ 10 ต.ค.หลังประชุม ครม.จึงหลีกเลี่ยงไม่พูดอะไรเลย

นายคารม กล่าวว่า ส่วนเหตุผลอื่นที่ไม่ให้รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เข้าประชุม ครม.นั้น ไม่ทราบ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า สถานที่คับแคบจึงไม่ให้เข้า เรื่องนั้นไม่ทราบ และไม่ได้เป็นคนให้ข่าว แต่ที่ทราบคือเป็นนโยบายของฝ่ายบริหาร และไม่ใช่โฆษกรัฐบาล แต่อาจสูงกว่าโฆษกรัฐบาล อย่างไรก็ตามไม่แน่ใจว่ามีระเบียบการเข้าประชุม ครม.อย่างไร เพราะเพิ่งเข้ามารับหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามยํ้าว่า ผู้บริหารคนไหนเป็นผู้สั่งการเรื่องนี้ นายคารม กล่าวว่า ไม่แน่ใจเพราะโฆษกรัฐบาลบอกว่าเป็นนโยบายของผู้บริหาร

เมื่อถามว่า ในฐานะรองโฆษกรัฐบาล ติดใจหรือไม่ที่ไม่ได้เข้าห้องประชุม ครม. เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ นายคารม กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ผู้บริหารว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เป็นเรื่องของผู้บริหาร

เมื่อถามว่า ในอนาคตมีเรื่องจากพรรคภูมิใจไทยที่นำเสนอต่อที่ประชุม ครม. และรองโฆษกฯ โควตาของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าประชุม จะกระทบต่อการชี้แจงหรือไม่ นายคารม กล่าวว่า อาจไม่ได้ยินประเด็นด้วยตัวเอง ก็ต้องมาตามประเด็นหลังจาก ครม.มีมติแล้วด้วยการอ่านเอกสาร อย่างเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ก็มาอ่านเรื่องการควบคุมอาวุธปืนผ่านเอกสารการประชุม ครม.ในภายหลัง

"ถ้าพรรคภูมิใจไทยเสนอเรื่องเข้ามาแล้วผมไม่ได้เข้าประชุม ครม. ก็ยอมรับว่ากังวลในการชี้แจง เพราะการเป็นรองโฆษกประจําสํานักนายกฯ ก็เปรียบเสมือนเป็นโฆษกของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะต้องชี้แจง 4 กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบสื่อสารให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ดังนั้นอาจมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร แต่ไม่ได้ติดใจเรื่องไม่ได้เข้าประชุม"

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่ไว้ใจรองโฆษกฯ จากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะกลัวข้อมูลรั่วไหลหรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ไม่น่ามีประเด็นนี้

เมื่อถามว่า จะมีการเสนอให้ทบทวนนโยบายการเวียนเข้าประชุมของรองโฆษกฯ หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้ แล้วแต่ผู้บริหาร เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อยู่ที่ผู้บริหารจะมีแนวทางอย่างไร

“รัฐบาลผสมเหมือนรุ้งกินน้ำ หลายสี ถ้าเรามองไปที่รุ้ง ลายสีก็สวยงาม แต่เมื่อมองลงไปให้ลึกมันก็มีหลายสี ถือไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” นายคารม กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยมีเสียงเป็นอันดับ 2 ในรัฐบาล จะไม่มีการท้วงติงเลยหรือนายคารม กล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่มาก แต่ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นหรือไม่ และคิดว่าต่อไปอาจจะเกิดปัญหาหากรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ทั้งหมด 3 คนจาก 3 พรรค ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ก็จะทำให้รองโฆษกฯ เมื่อทำหน้าที่แล้วจะเว้นช่วงไปอีก 3 สัปดาห์ ถึงจะได้เข้าประชุม ครม.อีกครั้ง ก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร หากในสัปดาห์ที่ไม่ได้เข้า แต่ปรากฏว่ามีการสอบถามเรื่องใน ครม. ก็จะตอบคำถามยาก เพราะสุ่มเสี่ยง และในบางครั้งเมื่อเราไม่ได้เข้าประชุม ครม. ก็จะไม่ได้ยินเรื่องต่างๆ ในที่ประชุมเอง ก็ต้องระมัดระวัง เพราะหากสื่อสารไม่ตรงก็จะกลายเป็นเรื่องอันตราย

เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับทราบเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายคารมกล่าวว่า ได้เรียนไปแล้วก่อนการประชุม ครม. ว่าไม่ได้เข้าประชุม ซึ่งนายอนุทินก็รับทราบ พร้อมถามความเห็น ก็เรียนว่าให้เป็นไปตามนโยบายของผู้บริหาร