8 ต.ค. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา 5 ต.ค. นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือก คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ(ก.พ.ค.ตร) ได้ลงนาม ประกาศรายชื่อ ก.พ.ค.ตร.ชุดแรก ที่ผ่านการสัมภาษณ์และได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ จำนวน 7 คน จากผู้สมัคร 18 คนแต่สละสิทธิ์ไม่เข้าสัมภาษณ์หนึ่งคน
โดยก.พ.ค.ตร.ชุดแรก ตามพรบ.ตำรวจแห่งชาติฯ มีรายชื่อดังนี้ 1.นายธวัชชัย ไทยเขียว อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม 2.พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน อดีต ผบช.กมค.3.พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงค์ อดีต ผบช.สง.ก.ตร.4.นายวันชาติ สันติกุญชร อดีตอธิบดีคณะกรรมการ กอ.5.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร.6.พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตน์งาม อดีตที่ปรึกษา สตช.7.นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด
และหลังจากนี้ ทั้ง 7 คนจะต้องประชุมเลือกกันเองเป็นประธานก.พ.ค.ตร.คนแรก จากนั้น เสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามประกาศแต่งตั้งต่อไป ทำให้คาดว่า ภายในตุลาคมนี้ คณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร.ก็สามารถเริ่มปฎิบัติหน้าที่ได้
ส่วนตัวเต็งบุคคลที่จะมาเป็นประธานก.พ.ค.ตร.อยู่ที่การตกลงกันของกรรมการทั้ง 7 คน ซึ่งกรรมการจะมีวาระการทำงานหกปีแต่เมื่อดูจากรายชื่อทั้ง 7 คนจะพบว่า มาจากสายอดีตข้าราชการตำรวจ 4 คน ทำให้ถือเป็นเสียงข้างมาก จึงต้องดูว่า เสียงส่วนใหญ่จะสนับสนุนใครแม้จะพบว่าในสี่คนดังกล่าว จะมีชื่อ พล.ต.อ.วิเชียร อดีตผบ.ตร. ที่ถือว่ามีตำแหน่งสูงสุดเทียบเท่า ซี 11 ในกรรมการก็ตาม เพราะอาจเป็นชื่ออื่นก็ได้ โดยหากไม่ได้มาจากสายตำรวจ ก็คาดหมายกันว่า ไม่แน่ นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด ที่มาจากสายศาล ที่ถือว่าเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์งานด้านคดีปกครอง อาจจะได้รับเลือกเป็นประธานก.พ.ค.ตร.ก็เป็นได้
โดยพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรองผบ.ตร.ในฐานะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Aek Angsananont (พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์)ให้ข้อมูลอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.)ว่ามีหน้าที่และอำนาจหลายประการ อทิ พิจารณาวินิจฉัยร้องทุกข์ อุทธรณ์ ฯลฯ โดยเฉพาะการรับเรื่องร้องทุกข์กรณีตำรวจไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งหรือการเรียงลำดับอาวุโส ฯลฯ
คำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร.ให้เป็นที่สุด หากผู้ร้องทุกข์ไม่พอใจ ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดกรณี ก.พ.ค.ตร.หรือศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยหรือพิพากษา ผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเรียงอาวุโส หรือการแต่งตั้ง ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจพิจารณาลงโทษได้ โดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีก แล้วรายงาน ก.ตร.
ในกรณี ก.ตร.มีมติว่าการไม่ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ จงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้นกระทำผิดวินัยร้ายแรง (โทษไล่ออกหรือปลดออก)ให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจดำเนินการลงโทษโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวน
ก.พ.ค.ตร.เป็นคณะกรรมการคณะสุดท้ายที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 ซึ่งมีเจตนารมณ์สำคัญในการที่จะทำให้การบริหารงานบุคคลตำรวจเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตราการป้องกันมิให้ผู้ใดมาใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ ซึ่งจะเป็นที่พึ่งให้ข้าราชการตำรวจสามารถใช้สิทธิร้องทุกข์ในการแต่งตั้งโยกย้ายได้ตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุ้นระทึก!ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดถก ปมคดี 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกให้ออกจากราชการ
ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'ประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ' เป็นประธานศาลปกครองสูงสุด
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานศาลปกครองสูงสุด
'วุฒิสภา' ไฟเขียว 'ประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ' ประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่
ที่ประชุมวุฒิสภาลงคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด (ตามมาตรา 15/1 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
นายกฯ พร้อมทูลเกล้าฯ ปม 'บิ๊กโจ๊ก' พ้นเก้าอี้
นายกฯ รอสลน.ส่งมติ ก.พ.ค.ตร.ปม 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ชี้เป็นสิทธิ์ 'สุรเชชษฐ์' หากร้องศาลปกครองคัดค้านคำวินิจฉัย
'บิ๊กต่าย' เชื่อองค์กรตำรวจรอลุ้น ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัย 'โจ๊ก' อุทธรณ์คำสั่งให้ออก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีการประชุมคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)
'บิ๊กต่าย' ย้ำให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ ทำด้วยความสุจริตใจ เพื่อรักษาประโยชน์องค์กร
'บิ๊กต่าย' เผยแจง ก.พ.ค.ตร. เรียบร้อย ไม่หนักใจปมเซ็นคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ ยันทำไปด้วยความสุจริตใจไม่หวังผลประโยชน์เพื่อตนเอง เพื่อรักษาประโยชน์ขององค์กร และความถูกต้องชอบธรรม