'ภูมิธรรม' ย้ำไม่แตะหมวด 1 และ 2 เพราะจะเป็นชนวนขัดแย้งใหม่!

ภูมิธรรมลั่นไม่แตะหมวดหนึ่งสองเพราะจะเป็นชนวนปัญหาใหม่ ย้ำก้าวไกลไม่ร่วมไร้ปัญหา มีเวทีอื่นรับฟัง

04 ต.ค.2566 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยังไม่เสนอชื่อบุคคลมาเป็นคณะกรรมการฯ จะมีผลกระทบกับการทำงานหรือไม่ว่า ไม่มีผลกระทบ พราะเรามีความจริงใจในการเชิญทุกฝ่ายมาคุยเพื่อให้ได้ข้อสรุปเบื่องต้น แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เพราะแนวทางของเราไม่สามารถนำคนเข้ามาได้ครบอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่ไม่ได้เข้าร่วมเราก็จะจัดเวทีเพื่อรับฟังความเห็น เหมือนพีมูฟที่อยากคุยก็จัดเวทีคุย

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนว่าจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจึงไม่เข้าร่วม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราชัดเจนว่าแก้ทั้งฉบับแต่ไม่แตะหมวด หนึ่ง หมวดสอง และพระราชอำนาจที่อยู่ในมาตราต่างๆ นอกนั้นก็แก้ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ถ้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็ไม่เป็นไรถือเป็นเรื่องเห็นต่าง แต่เราเห็นว่าการแก้ไขในเรื่องที่กล่าวไว้ไม่ควรจะมี เพราะเป็นเรื่องที่เห็นต่างในสังคม

“เรื่องนี้ผมขอจริงๆ เพราะจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งใหม่ขึ้น แต่อะไรที่ทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยขึ้นก็ให้เสนอเข้ามาเพราะทำได้หมด”

เมื่อถามว่าจะเสนอส่วนไหนเข้ามาแทนพรรคก้าวไกล นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงต้องมีการดึงเข้ามาปรับกันนิดหน่อย แต่อย่างไรจะไม่เกิน 35 คน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เสี่ยหนู' เชียร์ 'พรรคโอกาสใหม่' ชี้มาทำงานให้บ้านเมืองอย่าไปแช่ง

'อนุทิน' เชียร์ 'พรรคโอกาสใหม่' บอกจะได้ชอบธรรมหากได้รับเลือกจากประชาชนทั้งประเทศ ขออย่าแช่งคนเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง

'อนุทิน' ยันภูมิใจไทยโหวตเสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติ

'อนุทิน​' ยืนยัน​ ภท.​โหวต​เสียงข้างมาก 2 ชั้น หากนำมติ กมธ.ร่วมประชามติ​เข้าโหวตในสภา​ ย้ำเพื่อให้ ​ปชช.​ตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่างแท้จริง​ ชี้ทุกอย่างมีเงื่อนเวลาถ้า​แก้ไม่ทันก็รอสภาชุดหน้า​ ​

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท