'รมว.กลาโหม' ตอบกระทู้ ปมน้ำมันหาย 2 แสนลิตร เครื่องยนต์เรือดำน้ำ

“ก้าวไกล” ตั้งกระทู้ฯจี้ถามน้ำมันทหารหาย 2 แสนลิตร พร้อมบี้ตอบผลเจรจาเรือดำน้ำ ด้าน “สุทิน” ลั่น ไม่ปล่อยแน่ พร้อมเอาคนผิดมาลงโทษ แจง สัญญาเรือดำน้ำหมดสัญญาธ.ค. ยกเลิกก่อนไม่ได้ รอฟังเหตุผลผบ.ทร. เชียร์เครื่องยนต์จากจีน

28 ก.ย.2566 - เวลา 10.35 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงของทหารหาย 2 แสนลิตร โดยมีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจง

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เรื่องน้ำมันดีเซลหายคิดเป็นมูลค่า 6 ล้านบาท โดยประมาณ เชื่อว่ากองทัพรู้ว่าใครเป็นคนกระทำผิด ไม่ใช่ทหารเกณฑ์แต่เป็นผู้บังคับบัญชาแน่นอน และมีน้ำมันหายทุกปี จึงอยากทราบว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร นอกจากนี้ ขอสอบถามกรณีผลการเจรจาเรื่องเรือดำน้ำที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ไปพูดคุยกับเยอรมันมาว่าเป็นอย่างไร และเห็นว่าเราควรจะยกเลิกสัญญาทวงเงินกับจีน เพราะเขาไม่สามารถทำตามสัญญาหาเครื่องยนต์เยอรมันมาใส่ในเรือดำน้ำให้เราได้ อีกทั้งยังพบว่าเครื่องยนต์ของจีนมีข้อบกพร่องหลายจุด ทั้งระบบสื่อสาร ไม่สามารถดำน้ำบริเวณอ่าวไทยที่ลึก 45 เมตรได้

นายสุทิน ชี้แจงว่า ตนเคยให้สัมภาษณ์ว่าทหารตรวจสอบภายในกันเองอยู่แล้ว ผลมาถึงตนอย่างไรก็ค่อยว่ากัน ซึ่งนี่คือคำขู่โดยมารยาท ยืนยันว่าในฐานะรมต.จะไม่ปล่อยละเลย โดยในสัปดาห์หน้าจะมีสรุปผลจากทางผบ.ทบ. เราจะนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัย ในไม่นานนี้แน่นอน ในยุคของตนจะมีมาตรป้องกันคือสอบสวนนำคนผิดมาลงโทษ และรื้อระบบตรวจสอบภายใน โดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบระดับหน่วย ตรวจสอบกำลังส่งบำรุง ส่งชุดตรวจจากจเรทหาร และไม่ชุดตำรวจพิเศษตรวจสอบอีกครั้ง

นายสุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องเรือดำน้ำ ตอนนี้ทางผบ.ทร.สรุปแล้วว่าจะเดินหน้าต่อ โดยตอนนี้ก็กำลังรอว่าเรื่องจะมาถึงตนเมื่อใด สัญญาเรือดำน้ำมีกรอบเวลาอยู่เข้าใจว่าจะหมดในเดือนธ.ค. ที่จะถึงนี้ ดังนั้น ตนจะไม่รีบด่วนสรุป แต่จะรอฟังการสรุปจากผบ.ทร.ก่อนว่าทำไมเขาถึงเชื่อมั่นเครื่องยนต์ของประเทศจีน เราจะดำเนินการช้าหรือเร็วก็ต้องอยู่ในกรอบระยะเวลาสัญญา จะยกเลิกสัญญาก่อนเวลาก็ไม่ใช่ ส่วนกรณีที่นายกฯ เจรจากับประเทศเยอรมันนั้น เป็นมาตรการเสริม ทางใดที่รักษาประโยชน์ของประเทศมากที่สุด ตนเข้าใจในภาวะปกติจะเจรจากับผู้ขายไม่ได้ แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะทราบว่าจะไม่เกิดตามสัญญาทำให้ไทยเสียประโยชน์ ดังนั้นทางใดที่เป็นประโยชน์จึงต้องดำเนินการ เพื่อไม่ให้กองทัพเสียประโยชน์ ส่วนรายละเอียดที่นายกฯ ไปเจรจาตนยังไม่ทราบรายละเอียด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา-ชัยธวัช' จวกรัฐมนตรีเล่นใหญ่แก้ 'ปลาหมอคางดำ' ด้วยวิธีรับซื้อ ชี้ยิ่งทำเพาะเลี้ยงมากขึ้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาปลาหมอคางดำระบาด ว่า ตนให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และนายแพทย์วาโย อัศว

ปริศนา'เรือดำน้ำ' เปิด5ประเด็นสะดุด'ตอ'

ทริปเร่งด่วน ที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม นำทีม พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสายตรงของ “นายกฯ" และ “ชินวัตร” บินไปจีนเมื่อช่วงวันที่ 24-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ S26T ที่ ทร.ไทยจ้างบริษัทของจีนสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา

'สุทิน' ยังไม่เซ็นเปลี่ยนสัญญาซื้อเรือดำน้ำ รอคุยกฤษฎีกา รับกังวลเสี่ยงถูกฟ้อง

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า ตนเองยังไม่ได้มีการเซ็นลงนามเปลี่ยนสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำและยังไม่ได้มีการส่งนายกรัฐมนตรี แต่ได้เซ็นยอมรับผลการศึกษา ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการเร่งรัด

'สุทิน' ยันไม่ล้วงลูก ทอ. เลือก 'กริพเพน' หรือ 'เอฟ-16' เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์ สองค่ายขั้วเดียวกัน

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ ภายหลังกองทัพอากาศ ได้สรุปข้อมูล 2 แบบ ได้แก่ F-16 Block 70 บริษัท Lockheed Martin สหรัฐ​อเมริกา และ Gripen E บริษัท SABB สวีเดน ผ่านมายัง รมว.กลาโหม

อย่าหนีสภา! ‘โรม’ ดักคอนายกฯ จะตั้งกระทู้ถาม แบก์ไทยถูกใช้หนุนสงครามในเมียนมา

'โรม' เตรียมตั้งกระทู้ถาม 'นายกฯ' ปมแบงก์ไทยถูกใช้หนุนสงครามในเมียนมา ขอให้มาตอบด้วยตัวเอง แสดงบทบาทนำแก้ปัญหา สร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ

'เศรษฐา' ลั่นพูดจากใจไม่ต้องตีความ 'แรงค้านไร้อนาคต' ตอบกระทู้สดก้าวไกล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎรที่ระบุว่า “แรงค้านที่ไร้อนาคต” มีความหมายหรือไม่ ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของตนก็วิ่งสู้เพื่ออนาคต และพรรคร่วมรัฐบาลที่มาทำงานกับรัฐบาลก็วิ่งเพื่อปัจจุบัน