“วิษณุ” ชี้ช่องแก้ไขมาตรา 256 ลดขั้นตอนทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง หวังลดงบประมาณ แก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมชงเลือกแก้มาตราเฉพาะหน้า เว้นเรื่องยุ่งยาก หมวดคุณสมบัติ-หน้าที่องค์กรอิสระ
24 ก.ย. 2566 – นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ กล่าวแสดงความเห็นแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ตนเองตอบไม่ถูก แต่ให้เขาคิดกันเองเอง เพราะว่ามันยุ่งยากซับซ้อน แต่ข้อสำคัญหากจะใช้วิธีไหนก็ตามก็ควรจะหลบหลีกการทำประชามติหลายครั้งและตนเองเห็นด้วยกับแก้ไขเป็นรายมาตรา ทีละหลายๆมาตรา ก็ได้เพราะรัฐธรรมนูญห้ามไว้แต่เพียงว่า ในกรณีที่เป็นการแก้ไขหมวด 1 ทั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ หมวด 15 เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการแก้ไขอำนาจและหน้าที่ขององค์กรอิสระ และการแก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามขององค์กรอิสระ โดยเรื่องเหล่านี้ เมื่อแก้เสร็จวาระ1 วาระ2 และ วาระ3 ก่อนที่จะนำขึ้นต้องทำประชามติ
นายวิษณุ กล่าวว่า การแก้ไข ที่ควรทำคือ ถ้าต้องการแก้เกี่ยวกับองค์กรอิสระ และไปกระทบกับเรื่องอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ ตรงนี้ต้องทำประชามติ เพราะฉะนั้นเก็บไว้ทำคราวหลังได้ไหม ตอนนี้ถ้าอยากแก้ไปก่อนคือหมวด 3 เรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งประชาชนต้องการและ หมวด 4 หน้าที่ของรัฐ หมวด 5 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย หมวด 6 แนวนโยบายแห่งรัฐ หมวด 7 รัฐสภาซึ่งแก้ได้ตามใจชอบไม่ต้องทำประชามติ หมวด 8 ครม. หมวด 9 ผลประโยชน์ขัดแย้งกันหมวด10 เรื่องศาล หมวด 11 องค์กรอิสระ ซึ่งเรื่องเหล่านี้แก้ได้หมด แต่พอไปถึงองค์กรอิสระอำนาจหน้าที่ และคุณสมบัติต้องห้ามมันจะไปเจอเรื่องทำประชามติคืออย่าพึ่งไปทำ
เมื่อถามว่าการทำประชามติควรทำครั้งเดียวตอนเสร็จแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ที่ต้องทำประชามติเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 256 กำหนดไว้ ถ้าคุณแก้มาตรา256 ว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ต้องทำประชามติ มันก็ไม่ต้องทำประชามติ แต่การจะแก้หนแรกในเรื่องมาตรา256 ต้องทำประชามติเสียทีหนึ่งก่อนและจะลบล้างเรื่องประชามติไปได้
เมื่อถามย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องทำประชามติ 3-4 ครั้งใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้ำว่าก็ต้องแก้ไขมาตรา 256 เสียก่อน พอเสร็จวาระ 1-3 ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไปจะไม่ได้เจอเรื่องทำประชามติ แต่ถ้าแก้ตามแนวทางของรัฐบาลก็ต้องทำประชามติ 1.คุณก็ต้องทำประชามติแก้ทั้งฉบับว่าเห็นด้วยหรือไม่ 2.ต้องตั้งสสร. และ 3. ถ้าสสร. ต้องไปทำประชามติทั้งประเทศอีก ซึ่งการทำประชามติครั้งหนึ่งประมาณ 3 พันล้านบาท ฉะนั้นก็แก้ที่มาตรา256 แต่การแก้มาตรา256 หากพูดกันไม่ดีเพราะอาจไม่ผ่าน เพราะต้องผ่านความเห็นของสว.หรือไม่เขาก็กลัวว่าจะไปแก้อะไรต่อมิอะไรกัน อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยการทำประชามติควรทำ 2 ครั้งก็ยังดี คือต้องเริ่มแก้ไข และตอนจบที่จะไปประกาศใช้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดิ้นสุดซอย! 'ชูศักดิ์' ชี้ช่องยื่นตีความ พรบ.ประชามติ เป็นกฎหมายการเงิน ไม่ต้องรอ 180 วัน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตีความร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ ว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่
สส.แพ้! กมธ.ประชามติ ฝั่ง สว. โหวตชนะ ใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น แก้รัฐธรรมนูญ
นายกฤช เอื้อวงศ์ สว. พร้อมด้วย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ แถลงผลการประชุมครั้งที่ 3 เพื่อหาข้อยุติในมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.
กมธ.ประชามติ เตรียมเชิญ 'ปณท-กกต.' ถกออกเสียงประชามติผ่านไปรษณีย์
นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ ให้สัมภาษ
'ทักษิณ' ยันพรรครัฐบาลไม่แตะ 112 เผยเคยเตือนสติ 'ธนาธร' มาแล้ว!
"ทักษิณ" เผยพรรคร่วมรัฐบาล ลงสัตยาบันไม่แตะ มาตรา 112 โอดตัวเองตกเป็นเหยื่อเพราะถูกหมั่นไส้ เคยคุย "ธนาธร" ขอให้ช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง หากจะแก้กฎหมายควรทำทีละขั้นตอน อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดโฆษณาอันตรายกว่าสิ่งที่ตั้งใจทำ
'ชูศักดิ์' ลั่นหาทางแก้รัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้น เสร็จในรัฐบาลนี้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ไปแล้วว่าจะใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ก็คงจะยืนตามนั้น