23 ก.ย.2566 - เวลา 12.30 น. ที่อาคารไทยซัมมิท มีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนี้ 1. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค 2. นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค 3. น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค 4. นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5. นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร 6. นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหาร 7. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร 8. นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร (สัดส่วนปีกแรงงาน)
จากนั้นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้มีมติแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล 3 คน โดยมี นายพิธา เป็นประธาน ส่วนที่ปรึกษาอีก 2 คน ประกอบด้วย นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และ นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center)
นอกจากนี้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังได้ตั้ง นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, นายสุพิศาล ภักดีนฤนาถ และน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล เป็นรองหัวหน้าพรรค และตั้งนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นรองเลขาธิการพรรค นอกจากนี้ยังมีมติปรับกองโฆษกพรรค แต่งตั้ง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นโฆษกพรรคคนใหม่ โดยมีรองโฆษก 2 คน ได้แก่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์
นายชัยธวัช กล่าวหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่าในภาพรวม การปรับทัพครั้งนี้เป็นเพียงการปรับทัพชั่วคราว เนื่องจากเหตุจำเป็นทางกฎหมายที่ทำให้พิธา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ 'ผู้นำฝ่ายค้าน' ในสภาผู้แทนราษฎรได้ โดยตนและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยินดีที่จะลงจากตำแหน่งเมื่อพิธาสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ สส. ในสภา ได้อีกครั้ง ในการปรับทัพชั่วคราวครั้งนี้ พรรคได้ตัดสินใจ ดังนี้ 1. เน้นสลับบทบาทของแต่ละคนภายในกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมเป็นหลัก โดยมีการขยับ ชัยธวัช ตุลาธน จากเดิมเป็นเลขาธิการพรรค มาเป็นหัวหน้าพรรคที่จะรับบทผู้นำฝ้ายค้าน ในสภาฯ และขยับ อภิชาติ ศิริสุนทร จากเดิมที่เป็นกรรมการบริหารสัดส่วนอื่น มาเป็นเลขาธิการพรรค 2. แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อรับผิดชอบการทำงานเชิงรุกในการขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงและนโยบายร่วมกับประชาชนนอกสภาฯ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษา
นายพิธา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และโฆษกพรรคคนใหม่ ซึ่ฃตนยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานของแกนนำพรรคชุดใหม่อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาชั่วคราว ก็ขอให้ทุกท่านทำงานอย่างเต็มที่ ตนคิดว่าบริบทสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้มีความสำคัญ ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ตนก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นกัน โดยที่จะใช้เวลาลงพื้นที่นอกสภาให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทั่วประเทศไทย และต่างประเทศ หรือการพบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อรอเวลาที่จะกลับมาในสภาปฏิรูปหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรของประชาชนต่อไป ขอให้คนไทยยังเชื่อมั่นในตัวของตน และพรรคก้าวไกลเหมือนเดิม เราจะทำงานเป็นทีมแม้ว่าจะเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ก็ยังมีความเข้มข้นในเนื้อหาเหมือนเดิม ขอให้ทุกคนมั่นใจและเดินไปพร้อมกับพวกเรา
ด้านนายอภิชาติ กล่าวว่าในฐานะที่ตนได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสมาชิกพรรคในวันนี้ก็รู้สึกว่าต้องเร่งตัวเองให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นการปรับทัพชั่วคราว แต่ว่าทุกเวลา ทุกวัน ประชาชนรอคอยการทำงานของพรรคก้าวไกล ดังนั้นในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เราจำเป็นที่จะต้องจัดทัพให้เข้มแข็ง วางยุทธศาสตร์ให้เป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่ทำงานให้กับประชาชนอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของสมาชิก และสส.ของพรรคทุกคนก็มีการรับผิดชอบในประเด็นกระทรวง ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้นตนคิดว่าน่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ซึ่งตนจะทำงานอย่างดีที่สุด
เมื่อถามถึงภารกิจแรกของการเป็นผู้นำฝ่ายค้านของนายชัยธวัช จะเดินไปในทิศทางไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า ภารกิจแรกจะต้องเชิญพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมาดำเนินการ เพื่อมาหารือและวางแนวทางร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ รวมถึงภารกิจจำเป็นเฉพาะหน้าของผู้นำฝ่ายค้านคือการเสนอชื่อหัวหน้าวิปฝ่ายค้านเพื่อให้ประธานสภาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเพื่อทำให้การทำงานสภาผู้แทนราษฎรมีการประสานอย่างสมบูรณ์ เมื่อถามว่าประธานวิปฝ่ายค้านยังเป็นนายปกรณ์วุฒิ เหมือนเดิม นายชัยธวัช กล่าวว่า ที่ประชุมมีการเสนอชื่อนายปกรณ์วุฒิ อยู่แล้ว คิดว่าจะได้รับการยอมรับของพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค ตั้งแต่เปิดสภามานายปกรณ์วุฒิก็ได้ทำหน้าที่ประสานงานทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านอยู่แล้ว แต่ก็ต้องรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่าได้มีการวางแนวทางของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ว่าจะออกไปอยู่พรรคไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้เพิ่งมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คงจะใช้เวลาในสัปดาหน้าในการหารือร่วมกันว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร คาดว่าจะจบภายในสัปดาหน้า
เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ จะพูดคุยกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อย่างไร หลังออกมาระบุว่าจะเลิกวิจารณ์พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นสิทธิที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค อยากเชิญชวนอยากให้ทุกคนช่วยกันติชม ถ้าหากเห็นว่าพรรคก้าวไกลมีความบกพร่อง ขอให้ทุกคนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีความกังวล เพราะการติชมนำไปสู่การปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น ส่วนกรณีของนายปิยบุตร ที่ร่วมสร้างพรรคอนาคตใหม่มาด้วยกัน นายปิยบุตร มีความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยในอนาคต แม้ว่าจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งการเมืองใดๆได้อีก จนกว่าจะครบกำหนด 10 ปี ตนคิดว่าคงจะต้องมีความพยายามที่จะพูดคุย ยังอยากให้นายปิยบุตร ได้ใช้ศักยภาพร่วมกันเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แต่ไม่มีคนหน้าใหม่ มีเพียงคนเดียวที่มาแทนนายปดิพัทธ์ มีความเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคหรือไม่ นานชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ครับ อย่างที่ตนได้เรียนในที่ประชุมของพรรคเราควรที่จะปรับเล็กไปก่อนชั่วคราว เพราะว่าเป็นการปรับเล็กเฉพาะหน้า เพราะเหตุจำเป็นทางการกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหัวหน้าพรรคที่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทำให้ต้องมีการปรับเล็ก ต่อมาคือเราได้มีการทำความเข้าใจภายในพรรคอยู่แล้วว่ากรรมการบริหารพรรคชุดแรกของพรรคก้าวไกล เลือกมาโดยมีข้อจำกัด ในกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ก็ต้องรีบหากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มาทำหน้าที่กอบกู้พรรค เมื่อครบวาระ 4 ปี ได้มีการแจ้งสมาชิกว่าจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จึงให้สมาชิกเลือกได้อย่างเต็มที่กว่าชุดแรก ซึ่งจะครบ 4 ปี 2567 โดยเจตนาของชุดนี้คือการปรับเล็ก ถ้าเป็นการปรับใหญ่ก็จะเป็นในเดือนเม.ย. 2567 ซึ่งการได้มาของแต่ละตำแหน่งจะต้องมีส่วนร่วมของคนในแต่ละจังหวัดให้ได้มากที่สุด
เมื่อถามถึงตำแหน่งของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่เดิมเป็นกรรมการบริหารพรรคสัดส่วนพรรคกลาง ยังว่างอยู่จะมีคนขึ้นมาแทนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่มีแต่ยังกระชั้นชิดไป ซึ่งถือเป็นการเลือกเฉพาะหน้า การเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่จริงๆที่ผ่านการมีส่วนร่วมจริงๆจะเกิดขึ้นในปี 2567
เมื่อถามถึงกรณีการไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ของนายปดิพัทธ์ พรรคจะมีการดำเนินการอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า การไปศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์เป็นงานในส่วนของการทำงานของรองประธานสภา ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล และเจตนาที่ได้เดินไปมีการเชิญชวนสส.จากหลายพรรคไปร่วมด้วย แต่จากการแถลงข่าวของนายปดิพัทธ์ เข้าใจว่าได้มีการให้คำมั่นสัญญา เมื่อดูงานเสร็จแล้วก็จะมีการเปิดเผยค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะเอกสารที่ออกไปเป็นเพดานทั้งหมดตามระเบียบของกระทรวงการคลัง แต่ค่าใช้จ่ายจริงคงไม่ถึงตัวเลขที่เปิดเผยออกมา ซึ่งการเปิดเผยทั้งหมดถือเป็นบรรทัดฐานที่ดีที่เราจะใช้ในการศึกษาดูงานของภาครัฐที่จะต้องชี้แจงค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน รวมถึงจะนำผลในการศึกษาดูงานนำมายกระดับการทำงานของสภา เพื่อให้เห็นว่าคุ้มค่าต่องบประมาณที่ใช้ไป
จากนั้นนายพิธาได้โอบกอดนายชัยธวัชเพื่อเป็นสัญลักษณ์การส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยนายพิธาเลี่ยงที่จะทำมือประกบหัวใจกับนายชัยธวัช เพื่อไม่ซ้ำรอยกับที่ทำมือหัวใจกับนพ.ชลน่าน
นอกจากนี้ นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า จะควรเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างสร้างสรรค์มีส่วนร่วมผลักดันนโยบาย ในวาระสำคัญในการแก้ปัญหาประชาชนและผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเชิงโครงสร้าง ในเชิงระบบของสังคมไทย
ส่วนประชาชนจะวางความคาดหวังกับนายชัยธวัช ในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคก้าวไกลอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า การสร้างความเชื่อมั่นแซงจะชวนคือการทำงานที่เป็นจริงจึงได้พิสูจน์มาแล้วไม่เพียงรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้รักษาหลักการที่มั่นคง ที่เคยทำงานอย่างไรก็ทำอย่างนั้นแต่จะยกระดับทำงานไม่เพียงแต่ในสภาผู้แทนราษฎรแต่จะขยายงาน ทำงานนอกสภาด้วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงร่วมกับประชาชนมากขึ้นอาจมีงานหลักในสภา โดยทำงานควบคู่กับประธานที่ปรึกษานายพิธา ด้วย ซึ่งต้องรอดูการพิสูจน์ทำงานที่เป็นจริงต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พิธา’อ้อนให้รอ9ปี พร้อมเป็นนายกฯดีกว่าเดิม/‘พท.’มั่นใจ‘ทักษิณ’ยังขายได้
"แกนนำพรรคส้ม" เดินสายหาเสียงนายก อบจ.อุดรฯ ต่อเนื่อง "ชัยธวัช" ลั่นนโยบายที่ท้องถิ่นในอดีตไม่พร้อมทำ "ปชน." พร้อมทำให้ดู
โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้
นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า
'พิธา-ชัยธวัช' ตามหลังทักษิณ เขย่าหนักใครจะสู้เพื่อคนอุดรฯ มากกว่า
'พิธา-ชัยธวัช' เดินสายหาเสียงเลือกตั้ง 'นายก อบจ.อุดรฯ' ต่อเนื่อง ชี้ ความสำเร็จงานท้องถิ่น หากใครทำไม่ได้ 'ปชน.' พร้อมทำให้ดู ย้ำ ความต่าง 'คณิศร' พร้อมสู้เพื่อครอบครัวชาวอุดรฯ ทุกคน ไม่ใช่ครอบครัวคนอื่น
'พร้อมพงศ์' ย้อน 'ชัยธวัช' เปลี่ยนไป ปราศรัยชกใต้เข็มขัด 'แม้ว'
“พร้อมพงศ์”ย้อน “ชัยธวัช” เปลี่ยนไป ฝาก “พิธา” เลิกย้อนอดีตได้แล้ว
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน