'ภูมิธรรม'​ รับ​อยากคุย 'วิษณุ​' ร่วมกก.ประชามติ​ร่างรธน.ใหม่​ ทำ​ 3-4 ครั้ง พุ่งหมื่นกว่าล้าน​

'ภูมิธรรม'​ รับ​ อยากคุย 'วิษณุ​' ร่วมคกก.ประชามติ​ ร่างรธน.ใหม่​ มอง​เชี่ยวชาญกฎหมาย​ บอกอยากลดงบทำประชามติ​ ทำ​ 3-4 ครั้ง พุ่ง​หมื่นกว่าล้าน​ เล็งดูมาตรฐานจริธรรมประหารชีวิตทางการเมือง​ 'ช่อ' เที่ยงตรงหรือไม่

22 ก.ย. 2566 - ที่ทำเนียบ​รัฐบาล​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการฯ ว่า​ จากการให้สัมภาษ​ณ์ครั้งก่อนได้เรียนไปแล้วว่า จะมีการพูดคุยกันภายใน 1 -​2 สัปดาห์ เพื่อให้การตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวเรียบร้อย​ ส่วนไทม์ไลน์การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ขอให้มีการนัดประชุมในครั้งแรกก่อน โดยในการประชุมวันแรกจะเห็นไทม์ไลน์​ วัตถุประสงค์​ ขอบเขต เป้าหมาย​ รวมถึงการร่างกฎหมายลูกต่างๆ​

" ผมหวังว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น สมมุติว่ารัฐบาลครบ 4 ปี ซึ่งผมอยากเห็นการเลือกตั้งครั้งหน้า มีกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ และมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญใหม่ให้สำเร็จ​ เพื่อใช้ในการเลือกตั้ง"

นายภูมิธรรม​ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้มีการทาบทาม ผู้ที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการชุดดังกล่าวโดย ทาบทามและพูดคุยกับทั้ง นายเอกชัย ไชยนุวัฒน์​ รองคนบดี​คณะนิติศาสตร์​ มหาวิทยาลัยสยาม นางสาวสิริวรรณ นกสวน​ สวัสดี​ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิกร​ จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา​ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ให้ความสนใจ แต่ก็ต้องพูดคุยในรายละเอียดเพราะอยากให้ทุกคนที่เข้ามาร่วมเกิดความสบายใจ เพราะอยากให้มีการพูดคุยที่มีบทบาท และทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย​ ส่วนนายพงษ์เทพ​ เทพกาญจนา อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค​เพื่อไทย​ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทาม

เมื่อถามว่าจะมีการทาบทามนายวิษณุ​ เครืองาม​ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายหรือไม่ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า นายวิษณุ​ ยังไม่มีโอกาสได้คุย แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะคุยเพราะท่านเป็นผู้รู้ เป็นคนที่เชี่ยวชาญในกฎหมาย รวมถึงทั้งหลายท่านที่เคยมีบทบาทเราจะได้เอาความคิดเห็น หรือหากยังไม่มีโอกาสคุยเวลาที่มีประชุมก็สามารถปรึกษาหารือกันได้

เมื่อถามว่าจะมีการเชิญคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 60 มาร่วมด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนยินดีต้อนรับทุกคน แต่ต้องคุยกันในรายละเอียดและกรอบแนวทางว่าเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าได้มีการทาบทามตัวแทนพรรคก้าวไกลเข้าร่วมคณะกรรมการชุดดังกล่าวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคการเมืองตนพยายามเชิญมาร่วมให้มากที่สุด แต่เรามีข้อจำกัดเรื่องปริมาณจำนวนคน เมื่อลิสต์รายชื่อ ก็เกิน 30 คน ใหญ่มากเกินไปก็ทำงานลำบาก แต่ถ้าไม่ได้เป็นคณะกรรมการ ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วม พบปะพูดคุยแสดงความคิดเห็น

เมื่อถามถึงงบประมาณในการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และประชามติ รวมแล้วประมาณเท่าใดนายภูมิธรรม​ กล่าวว่า ในส่วนของการทำประชามติ ตีความตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประมาณ 3-4 ครั้ง โดยจะใช้งบประมาณครั้งละ ประมาณ 3-4 พันล้านบาท แต่ตนคิดว่าอยู่ในแนวทางที่พูดคุยกันให้ชัดเจน ต้องอาศัยความคิดเห็นจากคณะกรรมการชุดดังกล่าว เราพยายามจะทำให้การทำประชามติน้อยครั้งที่สุด อันไหนสามารถควบรวมได้ก็จะทำ โดยยึดแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยไว้ และหากเราสามารถประหยัดงบประมาณได้มากที่สุดก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะหากทำครบ 3-4 ครั้งตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะใช้งบประมาณสูงถึงหมื่นล้าน

เมื่อถามว่ามองเรื่องมาตรฐานจริยธรรม ที่ลงโทษ นางสาวพรรณิการ์​ วานิช​ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตอย่างไรนั้น และพรรคก้าวไกลก็ออกมาระบุว่า​ ปัญหาอยู่ที่รัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ อะไรที่เป็นประชาธิปไตยเราทำได้หมด เว้นการแก้ไขในหมวด 1 และ 2 ในแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นเราต้องดูว่า เจตจำนงที่จะควบคุมดูแลนักการเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องไปดูว่าไปละเมิด และมีความเที่ยงตรง ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งก็ต้องไปดูในรายละเอียด

เมื่อถามว่าที่มีการวิจารณ์ว่ามาตรฐานจริยธรรม ที่ออกโดยศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ มาบังคับใช้กับส.ส. อาจจะไม่ถูกหลัก หรือกรณีที่ศาลตัดสินว่าไม่ผิดแต่กลับผิดหลักจริยธรรมไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น​ นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า ต้องดูเป็นรายกรณี แต่การอิงศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้นก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่อะไรที่เป็นปัญหามากเกินไป คนในกลุ่มวิชาชีพที่เราเชิญมา หรือรับฟังมา ก็จะเป็นคนให้ความเห็นเองว่า เรื่องไหนโอเค หรือเรื่องไหนต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรตนคิดว่า หากระดมความคิดเห็นได้กว้างขึ้น​ รัฐธรรมนูญก็จะไม่มีปัญหา เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และทุกฝ่ายต้องยอมรับ และผ่านให้ได้ และตนคิดว่าถ้ารัฐธรรมนูญผ่านได้ ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยในลำดับใด มันก็จะทำให้โอกาสและบรรยากาศของประเทศพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' รับลูก 'เศรษฐา' ดึงเจ้าสัวช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่าย

“ภูมิธรรม”รับลูก “เศรษฐา” ดึงเจ้าสัว ปตท. ซีพี ไทยเบฟ ห้าง ปั๊มน้ำมัน ช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายหรือนำไปทำตลาด เพื่อดูแลเกษตรกร 

รัฐบาลฝันประชุม JTC ครั้งที่ 3 ดันมูลค่าการค้ากระฉูด

นายกฯ ผลักดันต่อยอดความร่วมมือไทย-มาเลเซียทุกมิติต่อเนื่อง เชื่อมั่นการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 จะส่งเสริมตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นในทุกมิติ