กัดไม่ปล่อย! 'ก้าวไกล' ดัน พ.ร.บ.ฉุกเฉิน แทน พ.ร.ก. วัดใจรัฐบาลเพื่อไทย

“ก้าวไกล” ชง “ร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน” เข้าสภาใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนนายกฯประกาศใช้ต้องขอครม.-สภา ลดการขยายเวลาเหลือ 30 วัน

21 ก.ย.2566 - ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสส.ของพรรคก้าวไกล แถลงการยื่นร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.บ.ฉุกเฉิน) สืบเนื่องจากการที่นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้เคยยื่นไปในสภาสมัยที่แล้ว และเราก็เกือบที่จะผ่านในวาระที่ 1 โดยได้รับความร่วมมือจากพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เช่น พรรคเพื่อไทย อีกทั้งการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ถูกประกาศใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างยาวนาน และยังถูกในสถานการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง ซึ่งเราพบว่าการประกาศใช้ดังกล่าว เป็นการใช้โดยปราศจากการถ่วงดุล และตรวจสอบจากสภา เช่น การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ที่ถูกนำไปใช้ในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่มีความเห็นต่างทางการเมือง จนมีเสียงสะท้อนกลับมาว่า การออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในขณะนั้น มีจุดประสงค์อะไร ต้องการแก้ปัญหาโควิดหรือต้องการใช้ปกป้องผู้มีอำนาจ แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้รับการตอบรับอะไรจากรัฐบาล ด้วยปัญหาทั้งหมดที่มี เราจึงเสนอ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน เพื่อให้มีกฎหมายที่สภามีอำนาจในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร

โดยมีรายะละเอียดดังนี้ 1.การประกาศใช้พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ยังคงอำนาจให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศใช้ได้ แต่มีเงื่อนไขว่า การประกาศนั้น จะต้องมีการขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 3 วัน และจะต้องขออนุมัติจากสภาภายใน 7 วัน เพื่อให้ตัวแทนของประชาชนสามารถอนุญาตให้รัฐบาลใช้กฎหมายที่สามารถจำกัดสิทธิเสรีภาพต่อตัวพวกเขาได้ ตามหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย

2.ในการขออนุมัติจากสภา รัฐบาลมีหน้าที่ในการทำแผนว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว จะแก้วิกฤติด้วยวิธีการใด วันนี้เราเจอปัญหาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างที่นายรอมฎอน ได้ถามในสภาจะพบว่ารัฐบาลขาดความชัดเจน จะประกาศไปทำไม มีแผนอะไร และแผนดังกล่าวจะแก้วิกฤตินั้น ได้เมื่อไหร่ เพราะเราไม่เคยได้รับทราบ รับรู้เลย สภาจึงมีสิทธิที่จะรู้ว่าการที่รัฐบาลจะใช้อำนาจพิเศษตรงนี้ มีแผนการในการจัดการวิกฤตอย่างไร

3.พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ศาลปกครองไม่มีอำนาจในการเข้ามาตรวจสอบ แต่พ.ร.บ.ฉุกเฉินที่พรรคก้าวไกลเสนอเข้าไป เราให้อำนาจกับประธานสภา ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในการร้องไปยังศาลปกครอง หากการประกาศใช้นั้นมีเหตุให้ต้องประกาศหรือไม่

4.สุดท้ายการใช้อำนาจพิเศษนี้ เจ้าหน้าที่แทบจะไม่ต้องรับผิดอะไรเลย แต่ในพ.ร.บ.ฉุกเฉิน หากการใช้อำนาจทำให้เกิดความเสียหาย การดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่หรือผู้มีอำนาจนั้นๆ สามารถดำเนินการได้

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า หลักการที่เราเสนอในพ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับนี้ คือหลักการสากลที่ประเทศไทยของเราควรจะมี และจะนำไปสู่การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพควบคู่ไปกับการใช้อำนาจพิเศษ ซึ่งเราเข้าใจว่าบางครั้งก็จำเป็นต้องมีในสถานการณ์ที่เราอาจจะไม่สามารถคำนวณหรือคาดคะเนได้ตลอดเวลา และคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนสส. โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้เคยให้การสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ไปแล้ว และหวังว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลในวันนี้ จะไม่ทำให้จุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่เคยมีต่อกฎหมายฉบับนี้เปลี่ยนไป

นายรอมฎอน กล่าวเสริมว่า ความสำคัญของพ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับนี้ ที่ตนและคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ติดตาม ความเคยชินกับการอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้เราจินตนาการไม่ออกว่ากฎหมายไทยจะสามารถบริหารปกครองได้อย่างชอบธรรม สมเหตุสมผลมากกว่านี้หรือไม่ เพราะฉะนั้น เมื่อคนที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบพิเศษนั้น นึกไม่ออกว่าความชอบทำในหลักปกครองหรือหลักนิติธรรมหน้าตาเป็นอย่างไร นี่จึงเป็นโอกาสที่รัฐสภาไทยจะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่น ไว้วางใจต่ออำนาจรัฐไทย ต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมไทยได้ และทำให้คนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รูัสึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่ง ได้รับการปฏิบัติ เคารพยอมรับในความเป็นตัวตน และสิทธิเสรีภาพที่ตัวเองมี ไม่ใช่อยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษอยู่เสมอ ตนคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นฉันทามติร่วมกัน โดยเฉพาะสส.ที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ตนเห็นใจนายสมศักดิ์พอสมควรที่เพิ่งเข้ามารับคำแหน่งได้ 3 วัน แต่จำเป็นจะต้องทวงถาม เพราะแบบแผนในการขยายอายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่างไป จากเดิมที่ต่อเวลา 3 เดือน กลายมาเหลือแค่ 1 เดือน

“ตกลงแล้วรัฐบาลจะเอาอย่างไร หากมีความจำเป็นจะต้องต่อมีความจำเป็นอย่างไร ถ้าจะลดลงหรือจะยกเลิกก็ขอความชัดเจน แต่สิ่งที่เราชัดเจนที่สุดจากคำตอบที่ได้รับจากรองนายกรัฐมนตรีคือ ท่านชัดเจนว่ายังไม่ชัดเจน และขอเวลาในการศึกษา ทั้งที่ผมก็ทักท้วงไปแล้ว คาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะเปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศ และการบริหารราชการ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามเส้นทางการเดินของกฎหมายฉบับนี้” นายรอมฎอน กล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อแก้ไขเป็นพ.ร.บ.ฉุกเฉิน จะตรงตามเจตนารมณ์ในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า หรือบังคับใช้ไปตลอด นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปกติเรามีพ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ซึ่งคล้ายกับกฎหมายฉบับนี้ แต่จุดเริ่มต้นเป็นการอาศัยเครื่องมือของรัฐบาล ซึ่งสภาเห็นชอบและคงบังคับใช้ต่อ แต่ความแตกต่างของกฎหมายฉบับนี้คือเนื้อหาของพ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับนี้ จะให้อำนาจสภาในการรีวิวว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลมีความจำเป็นจริงๆ หรือไม่ แต่หากประการศโดยที่ไม่มีแผนอะไร ก็ต้องบอกวิธีการให้กับสภา ว่าจะแก้อย่างไร ด้วยเวลาเท่าไหร่ แม้พ.ร.บ.ฉุกเฉินจะอนุญาตให้ต่อการใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ก็สามารถต่ออีกได้ เพียงแต่ต้องขออนุญาตสภา ไม่มีทางที่เราจะให้อำนาจพิเศษไปอยู่กับรัฐบาลโดยปราศจากการตรวจสอบ ดังนั้น ตนจึงคิดว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ส่งเสริมให้รัฐบาลมีความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับ ตรวจสอบได้ และเป็นผลดีต่อรัฐบาลเอง

ถามว่ากรอบการขยายเวลาที่ลดจาก 60 วัน เหลือเพียง 30 วัน จะทำให้การบริหารราชการติดขัดหรือไม่ กล่าวว่า ต้องบอกว่าเวลาไม่สั้น เพราะในกระบวนการนั้น ตนเชื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง รัฐบาลมีความชอบธรรม อย่างไรสภาก็คงต้องยอมรับไม่ขัดขวาง เพราะประชาชนจะลงโทษเอง ตนคิดว่า 30 วันเป็นเวลาที่เหมาะสม อนึ่งรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้ว เราคงไม่สามารถประวิงเวลาได้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรัฐบาลใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ชอบ ไม่มีแผนงานที่ชัดเจน ที่อาจะเกิดการท้วงติงได้ แต่หากคิดในแง่ของประชาชนที่ต้องการความชัดเจน และรู้ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หลายครั้งที่เราเจอวิกฤตแล้วรัฐบาลไม่มีคำตอบที่ชัดเจน สุดท้ายประชาชนก็ต้องสวดมนต์ให้กับตัวเองเพื่อหาทางออก ส่วนหากมีเหตุฉุกเฉินจริง ก็สามารถประกาศได้ทัน เพราะนายกรัฐมนตรีสามารถประกาศได้ทันที ภายใน 3 วัน เมื่อผ่านครม. แล้ว

ถามอีกว่า ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยในเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยเป็นทางการ แต่ตนคิดว่าเราได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจน ว่าเรามีจุดยืนอย่างไร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ประกาศให้ชัดจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไหม

'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ชี้แจงให้ชัด จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังประกาศไม่ร่วม 'กล้าธรรม' ชี้ FC ประชาธิปัตย์สับสน

เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2

สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง

ข้ามขั้ว! เพื่อไทยเปิดตัว 'นิติศักดิ์ ธรรมเพชร' บ้านใหญ่พัทลุง อดีตรวมไทยสร้างชาติ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดูแลพื้นที่ภาคใต้

รัฐบาลขออภัย 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ได้ไปต่อ ซัดเพื่อไทยล้มเหลว 'แจกเงินหมื่น' แต่ไม่ยอมรับผิด

รัฐบาลกราบขออภัย "คนละครึ่งพลัส" ไม่ได้ไปต่อ โต้ พท.กล่าวหารัฐบาลเสียงข้างน้อยตีตกเงินหมื่น จวก เป็นความล้มเหลวปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลในอดีต