“รองอ๋อง” แจง ปมตรวจรับมอบสภาไม่ทันตามกำหนดการเดิม เหตุยังมีข้อขัดแย้งในคกก. ชี้ ไม่ต้องรอคดีที่อยู่ใน “ป.ป.ช.” จบ เตรียมถกทุกภาคส่วนหลังกลับจากสิงคโปร์
21 ก.ย.2566 - เมื่อเวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงการตรวจรับมอบอาคารรัฐสภา ว่า จากกรอบเวลาเดิมที่ควรจะเป็น จะต้องส่งมอบตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ายังมีความเห็นแย้งในตัวกรรมการอยู่ จึงทำให้ต้องได้ข้อมูลชี้แจงความขัดแย้งก่อน ซึ่งจะมีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้ โดยเรื่องที่พี่น้องประชาชนสนใจมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.อาคารรัฐสภาสมบูรณ์พอที่จะตรวจรับหรือยัง เงื่อนไขเป็นไปตามแบบสัญญาหรือไม่ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกรรมการตรวจงานจ้าง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายเลขาธิการสภา เพราะฉะนั้น หากใครยังเห็นว่าอาคารรัฐสภาแห่งนึ้มีจุดที่ต้องสงสัย หรือเป็นจุดที่คาดว่าอาจจะไม่เป็นเหตุให้ตรวจรับได้ ก็สามารถส่งเรื่องเข้ามาที่รองประธานสภาได้ เราจะได้ช่วยกันตรวจสอบอาคารที่เป็นบ้านของพวกเรา และเป็นอาคารสำคัญของประเทศไทย
นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า 2.เรื่องค่าปรับ ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงมาตราการที่เกี่ยวข้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีการเปลี่ยนครม. จากช่วงที่มีการก่อสร้าง เราจะมีการรวบรวม และเปิดเผยสู่สาธารณะ เพราะเรื่องนี้เป็นความโปร่งใส ที่เราต้องการให้สังคมรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเงินภาษีของพวกเราที่ทำให้สภาแห่งนี้ไม่สามารถตรวจรับได้ตามเวลา และมีใครได้ หรือมีใครเสีย และมีใครต้องรับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งถ้าเราสามารถดำเนินการทุกอย่าง และตรวจรับได้ภายในเดือนก.ย.นี้ เราก็จะมีการเปิดใช้อาคารรัฐสภาอย่างเป็นทางการ
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนของเรื่องการฟ้องร้อง และข้อร้องเรียนต่างๆ ที่อยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น สามารถแยกออกจากการตรวจรับได้ เนื่องจากเมื่อเราตรวจรับเรียบร้อย อยู่ในระยะเวลาประกัน 2 ปี คดีของป.ป.ช. ก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเราก็พร้อมให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบการทุจริตที่เกิดขึ้น
“ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้จ้าง และผู้รับจ้าง แต่ผมจะเป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบเรื่องนี้ให้มีความโปร่งใสมากที่สุด” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายปดิพัทธ์ กล่าวยอมรับด้วยว่า คงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการรับฟัง ชี้แจงข้อสงสัย และข้อขัดแย้งในหลายๆ ส่วนศึกษาสำนวนคดีและคำร้อง รวมถึงยังเชื่อมโยงกับหลายองค์กร ทั้งกรมศิลปากร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยตนจะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าประชุม และชี้แจงทั้งหมดภายหลังที่กลับจากประเทศสิงคโปร์แล้ว และสำหรับการสรรหาเลขาธิการสภาคนใหม่ จะมีการเลือกสรรหาในช่วงเดือนต.ค. เพื่อให้ไม่มีปัญหาในการส่งมอบงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมออ๋อง' พริ้ว! ไม่เคยพูดประชาชนเป็นไอโอ โหวตคว่ำนิรโทษคดี 112 อ้างเว็บไซต์ไม่สมบูรณ์
กลุ่มภาคีราชภักดี เดินทางมายื่นหนังสือ ต่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่หนึ่ง เพื่อยืนยันตนเองว่า ในการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ.
'อ๋องหมูทะ' ไม่ติดขัด ท้าล่าชื่อถอดพ้นรองประธานสภาฯ เชื่อไอโอโหวตคว่ำนิรโทษคดี 112
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ IP Address กรณีการแสดงความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม
ปลุกตะเพิด 'หมูกระทะ' พ้นรองประธานสภาฯ
จากกรณีเว็บไซต์รัฐสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. ฉบับประชาชนเสนอโดยทนาย
'อ๋องหมูกระทะ' สั่งสอบเว็บสภาฯ อ้างผลโหวตผิดปกติ 64% ไม่เอานิรโทษคดี 112
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 โพสต์ข้อความในแพลตฟอร์ม X ว่า ผมได้สั่งการให้มีการตรวจสอบ IP address และความผิดปกติต่าง
โยนเลขาธิการสภาตัดสินใจปมรับมอบอาคารรัฐสภา
'รองอ๋อง' เผยคืบหน้าตรวจรับอาคารรัฐสภา หลังส่งความเห็นให้ อสส.พิจารณาแก้ไขสัญญารอบสุดท้ายได้ มั่นใจ คดีในมือ ป.ป.ช. ไม่มีผลอะไร ส่วนกรณี 'สส.ปชป.' พบพิรุธโยนให้ คกก. เป็นคนตรวจสอบ
นัดถกวิป 3 ฝ่าย 8 โมงเช้า 3 เม.ย. หาทางออกกรอบเวลาซักฟอกไม่ลงมติใหม่
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยว่า วันที่ 3 เม.ย.เวลา 08.00 น.ตนได้นัดวิป3 ฝ่าย ซึ่งป