สว.ประเมิน'แจกเงินดิจิทัล-แก้รัฐธรรมนูญ' อภิปรายเข้มแน่!

'สว.'รอวิป 3 ฝ่ายเคาะกรอบเวลาอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ ด้าน 'คำนูณ' แนะอย่ายืดเยื้อจนตกดึก คาดประเด็นแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น-แก้ รธน.ฉบับใหม่ถกเข้มข้น

06 ก.ย.2566 - นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวภายหลังการประชุมวิปวุฒิ ว่าได้หารือกันในเรื่องหลัก คือการเตรียมการเพื่อประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 11 และ 12 ก.ย.นี้ โดยมีวาระสำคัญคือการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เบื้องต้นที่ประชุมให้ยึดถือแนวปฏิบัติ ซึ่งทางประธานวุฒิสภา ได้ตกลงกับประธานรัฐสภาแล้วว่า ในวันที่จันทร์ที่ 11 ก.ย. จะไม่มีการประชุมวุฒิสภา เพื่อเปิดทางให้มีการประชุมรัฐสภา ขณะที่กรอบระยะเวลาในการอภิปรายของฝ่ายต่างๆ จะมีการหารือในการประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 7 ก.ย. เวลา 10.00 น. ผลจะออกมาเป็นอย่างไรทางวุฒิสภารับได้ทั้งสิ้น

“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า แน่นอนว่าเป็นการประชุม 2 วัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการแถลงนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปี 2562 ใช้เวลาทั้งสิ้น 2 วัน 30 ชั่วโมง ทำให้การประชุมเลิกถึงตี 2 ตี3 ผมคิดว่าการใช้เวลาถึงขนาดนั้นมันเกินไป ถ้าเป็นไปได้อยากให้เวลาในการประชุมแต่ละวันสิ้นสุดที่เวลา 3 ทุ่มบวกลบ แต่ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการหารือในวิป 3 ฝ่ายพรุ่งนี้”นายคำนูณกล่าว

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า หากสรุปกรอบเวลาได้แล้ว ทาง สว.จะมาจัดสรรเวลาอภิปราย เบื้องต้นได้มอบหมายพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่1 ดำเนินการในเรื่องนี้ โดยจะมีการแจ้งให้สมาชิกสามารถแจ้งความจำนงค์ขออภิปรายเข้ามาได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 8 ก.ย. ส่วนที่จะได้เวลาคนละกี่นาทีขึ้นอยู่กับภาพรวมการจัดสรรเวลา และจำนวนผู้อภิปราย เบื้องต้นอยากได้คนละไม่ต่ำกว่า 10 นาทีในการอภิปราย

เมื่อถามว่ามีประเด็นใดที่ สว.จะเน้นเป็นพิเศษในการอภิปราย อย่างเช่นประเด็นเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท โฆษกวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ แต่ขณะนี้เราได้รับคำแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว เบื้องต้นได้จัดส่งสำเนาเอกสารให้สมาชิกทุกคนตามช่องทางต่างๆ จากคำแถลงนโยบายฯดังกล่าวพบว่า เนื้อหามีจำนวนประมาณ 14 หน้า ถือว่าไม่หนามากนัก มีความกระชับ มีประเด็นสำคัญต่างๆ ที่จะสามารถมองภาพรวมได้ง่ายพอสมควร แต่จะเน้นไปที่ประเด็นใด ส่วนตัวตนในนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่ขึ้นต้นมา คือการแจกเงิน10,000บาทผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นส่วนพิเศษที่นโยบายของ ครม.ขึ้นต้นไว้แบบนี้ แล้วตามด้วยนโยบายเร่งด่วน 4 ประการ

“เป็นที่คาดหมายได้ว่าทิศทางการอภิปรายเริ่มจากเงิน 10,000 บาท เป็นนโยบายที่แปลกใหม่ ไม่เคยทำมาก่อน ยังมีข้อสงสัยในหลายแง่มุม คงจะมีการอภิปรายตั้งข้อสังเกตค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับนโยบายเร่งด่วนในประการที่ 4 คือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถือว่าเขียนไว้ได้ดีพอสมควร ตรงหมวด 2 ที่หลายคนเป็นห่วงก็ชัดเจนว่าไม่มีการแก้ไข รวมถึงการจัดทำประชามติ ก็เขียนว่าจะมีการปรึกษาหารือให้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย แต่ก็คงจะมีการอภิปรายซักถามในเรื่องนี้มากเช่นกัน”นายคำนูณกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'

“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง

'สว.ชิบ' เค้นรัฐบาล! ใครสั่งโยกคดี 'ดิไอคอน' ให้ดีเอสไอ หวั่นบอสรอดคุก

'สว.ชิบ' ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ข้องใจคำสั่งจากใคร ทำให้รัฐบาลโยกคดี 'ดิ ไอคอน' ใส่มือดีเอสไอ หวั่นสรุปคดีไม่ทันเวลา เปิดโอกาสบรรดา 'บอส' รอดคุก

ชวน 'นายกฯอิ๊งค์' ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปาก 'เหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต'

'อังคณา' ชี้รัฐบาลพท.-แพทองธาร ปฏิเสธความรับผิดชอบคดีตากใบไม่ได้ ชวนนายกฯ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เตือนระวังคนรู้สึกไม่เป็นธรรม อาจเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุ

สว. ห่วงบีอาร์เอ็นฉวย 'คดีตากใบ' โหมไฟใต้ วอนหน่วยมั่นคงป้องเหตุร้าย

'สว.' ห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้ ชี้บีอาร์เอ็นฉวยคดีตากใบโหมไฟใต้ วอนหน่วยความมั่นคงบูรณาการปกครองรับมือ ป้องเหตุร้ายสถานที่ราชการ-ร้านค้า-ปั้มน้ำมัน-ชุมชนไทยพุทธ

'สว.นันทนา' โดนแล้ว! กลุ่มธรรมาภิบาลร้อง 'ปธ.วุฒิ' สอบจริยธรรม

'กลุ่มธรรมาภิบาล' ร้อง 'ประธานวุฒิสภา' สอบจริยธรรม 'นันทนา' เหตุพูดดูหมิ่น 'สว.อาชีพขายหมู' ชี้พบผิดจริงให้ส่งหน่วยงานที่มีอำนาจจัดการ

'กมธ.คมนาคม' สว. ไล่บี้กรมขนส่งฯ ปมบัสไฟไหม้ แนะขึ้นบัญชีรถบริการ 'ผู้สูงอายุ-นร.'

'สว.วุฒิชาติ' แจงเหตุชงญัตติด่วนไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ย้ำต้องยึดมาตรฐานความปลอดภัย ขู่เจอตรวจทิพย์ต้องดำเนินคดี แนะกรมขนส่งฯ ขึ้นบัญชีรถที่ให้บริการผู้สูงอายุ-นักเรียน