![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/09/องอาจ-crop.jpg)
‘องอาจ’ เชื่อสังคมให้โอกาส ‘ครม.เศรษฐา’ ทำงาน ชี้เป็นรัฐบาลฮั้วอำนาจผลประโยชน์ลงตัว พร้อมฝาก 4 หลักการพื้นฐานบริหารประเทศ ทำได้อยู่ยาวแน่
4 ก.ย. 2566 – นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดใหม่ว่า ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เชื่อว่าสังคมและประชาชนส่วนมากพร้อมให้โอกาส และให้เวลารัฐบาลชุดใหม่ทำงานรับใช้ประชาชนบนพื้นฐานของนโยบายที่เคยประกาศไว้ตอนหาเสียง และสามารถทำตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ดังนี้
1.เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
2.เป็นรัฐบาลที่รวบรวมเสียง สส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ได้เกินครึ่งของจำนวน สส. ในสภาผู้แทนราษฎร เท่ากับว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
3.เป็นรัฐบาลที่มี สว. จำนวนหนึ่งลงมติเห็นชอบให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคือ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี เมื่อดูองค์ประกอบของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้แล้ว ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ฮั้วอำนาจ และฮั้วผลประโยชน์กันอย่างลงตัว สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของพรรค กลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรค และกลุ่มอิทธิพลภายในพรรคได้ทั่วหน้า
หากรัฐบาลสามารถประนอมอำนาจและผลประโยชน์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันได้ ไม่มีเรื่องกระทบกระเทือนกันอย่างรุนแรง ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะเดินหน้าทำงานได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าในทางการเมือง การจัดตั้งรัฐบาลผสมจากพรรคการเมืองหลายพรรคอาจมีเรื่องกระทบกันบ้าง ก็เป็นภาระหน้าที่ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องบริหารจัดการให้รัฐบาลทำงานได้อย่างราบรื่นไม่ขัดแย้งกันภายในรัฐบาล
นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้รัฐบาลทำงานให้เกิดผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ จึงขอฝากหลักการพื้นฐานที่สำคัญดังนี้
1.ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก มากกว่าประโยชน์ของตนเอง พรรคพวก ญาติพี่น้อง
2.เร่งแก้ปัญหาของประชาชนอย่างทันท่วงที ทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาระยะยาว
3.บริหารอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบได้อย่างแท้จริง
4.ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้งอย่างจริงจัง
เชื่อว่าถ้ารัฐบาลดำเนินการตามพื้นฐานที่สำคัญนี้ จะช่วยทำให้รัฐบาลสามารถทำงานได้ยาว และเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง
'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป
นายกฯ เดินสาย 9 วัด ทำบุญเข้าพรรษาวัดเทพศิรินทราวาส
นายกฯ ทวีตภาพทำบุญถวายผ้าไตรจีวร และสนทนาธรรมสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส
เพื่อไทย แขวน 'เหลิม ไขก๊อก' โยนให้ผู้ใหญ่คุยกัน
“วิสุทธิ์” เผย 'คกก.จริยธรรมพรรค' ยังไม่เรียกถกปม ‘เฉลิม’ อยากไขก๊อกพ้น ‘เพื่อไทย’ ชี้ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องคุยกัน
เปิดผลสำรวจ 'เศรษฐา' อันดับ 1 ครองใจประชาชน พิธา ตามอันดับ 2
เปิดผลสำรวจ“เศรษฐา”อันดับ 1ครองใจประชาชน มองเป็น นักการเมืองที่มีบทบาท ผลงานโดดเด่น ถูกใจที่สุด ส่วน “พิธา” ได้ที่ 2
โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ แก่ 'เศรษฐา ทวีสิน'
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยา