'องอาจ' ชี้รัฐบาลใหม่ฮั้วอำนาจลงตัว ฝาก 4 หลักการพื้นฐานบริหารประเทศ

‘องอาจ’ เชื่อสังคมให้โอกาส ‘ครม.เศรษฐา’ ทำงาน ชี้เป็นรัฐบาลฮั้วอำนาจผลประโยชน์ลงตัว พร้อมฝาก 4 หลักการพื้นฐานบริหารประเทศ ทำได้อยู่ยาวแน่

4 ก.ย. 2566 – นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดใหม่ว่า ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เชื่อว่าสังคมและประชาชนส่วนมากพร้อมให้โอกาส และให้เวลารัฐบาลชุดใหม่ทำงานรับใช้ประชาชนบนพื้นฐานของนโยบายที่เคยประกาศไว้ตอนหาเสียง และสามารถทำตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ดังนี้

1.เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย

2.เป็นรัฐบาลที่รวบรวมเสียง สส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ได้เกินครึ่งของจำนวน สส. ในสภาผู้แทนราษฎร เท่ากับว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

3.เป็นรัฐบาลที่มี สว. จำนวนหนึ่งลงมติเห็นชอบให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคือ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ดี เมื่อดูองค์ประกอบของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้แล้ว ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ฮั้วอำนาจ และฮั้วผลประโยชน์กันอย่างลงตัว สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของพรรค กลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรค และกลุ่มอิทธิพลภายในพรรคได้ทั่วหน้า

หากรัฐบาลสามารถประนอมอำนาจและผลประโยชน์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันได้ ไม่มีเรื่องกระทบกระเทือนกันอย่างรุนแรง ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะเดินหน้าทำงานได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าในทางการเมือง การจัดตั้งรัฐบาลผสมจากพรรคการเมืองหลายพรรคอาจมีเรื่องกระทบกันบ้าง ก็เป็นภาระหน้าที่ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องบริหารจัดการให้รัฐบาลทำงานได้อย่างราบรื่นไม่ขัดแย้งกันภายในรัฐบาล

นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้รัฐบาลทำงานให้เกิดผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ จึงขอฝากหลักการพื้นฐานที่สำคัญดังนี้

1.ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก มากกว่าประโยชน์ของตนเอง พรรคพวก ญาติพี่น้อง

2.เร่งแก้ปัญหาของประชาชนอย่างทันท่วงที ทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาระยะยาว

3.บริหารอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบได้อย่างแท้จริง

4.ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้งอย่างจริงจัง

เชื่อว่าถ้ารัฐบาลดำเนินการตามพื้นฐานที่สำคัญนี้ จะช่วยทำให้รัฐบาลสามารถทำงานได้ยาว และเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ แก่ 'เศรษฐา ทวีสิน'

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยา