24 ส.ค.2566 - นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า สวัสดีครับ อาจารย์สมชาย ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง
ผมจำอาจารย์ได้ดีครับ ผมติดตามบทบาทของอาจารย์ในเรื่องประชาธิปไตยและความยุติธรรมด้วยความชื่นชมมาตลอดครับ
ขอบคุณที่อาจารย์แสดงความชื่นชมบทบาททางการเมืองของผมในอดีต ส่วนที่หวังว่าผมจะมีบทบาทอย่างสำคัญในการผลักดันพรรคการเมืองที่ผมสังกัดนั้น นานมาแล้วที่ผมอาจจะเคยมีบทบาทมากๆ แต่ช่วงนี้ผมไม่ได้มีบทบาทอย่างสำคัญอะไรเลยครับ
ผมยินดีรับฟังคำวิจารณ์ของอาจารย์เสมอครับ แต่ที่อาจารย์ใช้คำว่า "สับปลับ" ผมว่าไม่ตรงกับความเป็นจริงแน่ๆครับ
ในการปราศรัยหาเสียงที่ผ่านมา ผมพูดเรื่องการต่อต้านคัดค้านการสืบทอดอำนาจและทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยและได้เน้นย้ำคำประกาศของแกนนำพรรคว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับสองพรรค ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ
หลังการเลือกตั้ง ผมแสดงความเห็นสนับสนุนการตั้งรัฐบาลโดย 8 พรรค เมื่อไม่สำเร็จ ผมก็แสดงความเห็นทั้งในที่ประชุมแกนนำของพรรคและพูดผ่านสื่อมวลชนว่าไม่เห็นด้วยกับการข้ามขั้วและทักท้วงการจับมือกับสองพรรค ด้วยความหวังว่าการจับมือกันดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น
ผลปรากฏว่า ผมเป็นเสียงข้างน้อย พรรคมีมติและดำเนินการไปดังที่เกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังยืนยันความเห็นต่อการจัดตั้งรัฐบาลตามที่ผมพูดไว้ทุกอย่าง ไม่เปลี่ยนแปลง
มาถึงการโหวตนายกฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง ขอเรียนว่าการโหวตนี้เป็นการโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้คุณเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกฯ ตลอดการหาเสียงผมก็ร่วมหาเสียงเพื่อสนับสนุนคุณเศรษฐาเป็นนายกฯ ผมยังสนับสนุนเหมือนเดิมและก็เป็นมติพรรค ผมจึงโหวตเห็นชอบ
ส่วนที่อาจารย์เห็นว่าการโหวต "เห็นชอบ" เป็นการสนับสนุนรัฐบาลที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น ก็มีส่วนจริง แต่ถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับองค์ประกอบของรัฐบาลผสมที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น ผมก็ต้องปฏิบัติตามมติพรรคอยู่ดี
การปฏิบัติตามมติพรรคเป็นหลักการสำคัญอย่างหนึ่งในระบบรัฐสภา หากจะไม่ปฏิบัติตามมติพรรคในเรื่องใหญ่มากๆก็ต้องพร้อมที่จะลาออกจากพรรคการเมืองนั้นไป แต่ผมไม่คิดจะลาออก
ในช่วง 20 กว่าปีมานี้ ผมผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองมาทั้งในฐานะที่เป็นเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยในพรรค แต่ก็ได้ร่วมกับพี่น้องในพรรคฟันฝ่าวิกฤตมาด้วยกันหลายครั้งหลายหน เมื่อพรรคเพื่อไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายและยากลำบาก ผมก็ยังมีความตั้งใจที่จะมีส่วนช่วยในการฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้
ผมไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไรทั้งในรัฐบาลและในพรรค ในฐานะสส.ของพรรคก็ตั้งใจว่าจะทำหน้าที่นิติบัญญัติ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และจะร่วมกับสส.ของพรรคผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ตามนโยบายของพรรคที่ได้เคยประกาศไว้
อาจารย์ครับ
ผมเล่าให้อาจารย์ฟังไปมากกว่าประเด็นที่อาจารย์พูดถึงผม ก็เพราะเห็นว่าอาจารย์เป็นผู้ที่ผมเคารพนับถือ โดยสรุปก็เพื่อจะบอกว่า ที่ผมพูดไปตั้งแต่ตอนหาเสียงมาจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคัดค้านการสืบทอดอำนาจ การตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ว การไม่เป็นรัฐมนตรี การไม่ลาออกจากพรรคและสิ่งที่ตั้งใจจะทำต่อไป ไม่มีเรื่องไหนที่ผมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาครับ
ขอบคุณที่อาจารย์วิจารณ์ผม แม้แรงไปบ้างก็ไม่เสียใจ ผมยังนับถืออาจารย์เหมือนเดิมจึงชี้แจงมา มีอะไรจะแนะนำผมอีกก็ยินดีรับฟังเสมอครับ
จาตุรนต์ คนเดิมครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปชน.' ตีปี๊บ! 1 ปีฝ่ายค้านผลงานเพียบ เมินเรตติ้งร่วง โต้ฮั้ว พท.
'พรรคประชาชน' โวผลงานฝ่ายค้าน 1 ปี' เสนอกฎหมาย 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง 'รุก-รับ' ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' เมินผลโพลคะแนนร่วง เปรียบ 'เตะบอล' ต้องรอจบ 90 นาที
'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน
'ไพบูลย์' เบรกหัวทิ่มมือกฎหมายเพื่อไทย คลอดประชามติ 2 ครั้ง
“ไพบูลย์” โต้ ”ชูศักดิ์“ ใช้คำวินิจฉัยส่วนตน 6 ตุลาการอ้างทําประชามติ 2 ครั้งไม่ได้ บอก ต้องยึดคําวิฉัยกลาง ชี้มีแค่แก้รายมาตราเท่านั้นไม่ต้องทำ
ชัดเจน! พท.โยนขี้พ้นตัว แก้รธน.ไม่ทันไม่ใช่ความรับผิดชอบพรรค
“เพื่อไทย" ชงกมธ.ร่วมลดเกณฑ์ประชามติ อ้าง ถ้าแก้รธน.ไม่ทัน ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพรรค ชิ่งห้ามความคิดใครไม่ได้
เพื่อไทย เผยแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อดีตคนธปท.ต้านแทรกแซง
แรงต้านแทรกแซงแบงก์ชาติขยายวง อดีตพนักงาน ธปท.อีก 416 คน ร่วมลงชื่อจดหมายเปิดผนึก ยกจรรยาบรรณประธานบอร์ดห้ามเอี่ยวการเมือง เรียกร้องคณะกรรมการสรรหาฯ