ปชป.จบไม่ลง 'ชวน' กรีด 'เดชอิศม์' เคยอยู่พรรคเดียวกับทักษิณ

24 ส.ค.2566 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สส.ประชาธิปัตย์เสียงแตกโหวตสวนมติพรรคให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ได้มีการประชุมสส. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนตีรถมาจากจังหวัดตรังตั้งแต่ 04.00น. เพื่อให้ทันการประชุม เพราะไม่อยาก ลงมติขัดต่อมติพรรค ตามที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ว่าใครที่ขัดมติพรรคจะต้องลาออก ซึ่งตนไม่อยากลาออก โดยบรรยากาศเมื่อวันที่ 21 นั้นเป็นไปด้วยดี และพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเล่ บอกกับที่ประชุมว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมรัฐบาล จึงต้องลงมติไม่รับ นายเศรษฐา ซึ่งมีบางคนพูดในที่ประชุมว่าอยากเป็นรัฐบาลแต่ไม่เป็นประเด็น นางจุรินทร์ท ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค จึงพูดกับที่ประชุมว่าเมื่อมีรัฐบาลต้องมีฝ่ายค้าน ดังนั้นเมื่อเราไม่ได้ไปรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน ตนจึงขออนุญาตที่ประชุม ส่วนตัวคนเดียวขอลงมติไม่รับ โดยให้เหตุผลว่าตนสู้กับพรรคการเมืองเหล่านี้ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนมาพรรคเพื่อไทย เนื่องจากปัญหาทุกเรื่องปฏิบัติของภาคใต้ และจังหวัดที่ไม่เลือกพรรคเหล่านั้น เหมือนที่เคยได้ยินว่าจะพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อนจังหวัดอื่นไว้ที่หลัง ซึ่งเป็นผลกระทบมาก ซึ่งตนต่อสู้เรื่องนี้พร้อมทั้งขอร้องประชาชนอย่าเลือกพรรคที่แกล้งเรา และชาวบ้านก็ปฏิบัติตามที่ตนแนะนำ คือไม่เลือกพรรคเพื่อไทยมาหลายสมัย จะเห็นได้ว่าไม่ได้สส. ใต้เลย3สมัย ซึ่งเป็นผลมาจากการหาเสียงของเรา ดังนั้นหากเราทำสิ่งใดที่เป็นการสนับสนุนพรรคนี้ก็เหมือนกับเราทรยศคนใต้

"ผมยืนยันว่าในวันประชุมพรรคมีมติให้งดออกเสียง และไม่มีคน Walk Out แต่ที่ตนออกจากที่ประชุมก่อนเพราะต้องไปร่วมงานศพของนายเพชร โอสถานุเคราะห์ เนื่องจากคุณพ่อเป็นสส. ร่วมรุ่นกับผมมา"

ส่วนข้อกล่าวหาว่าเป็นพรรคอะไหล่ของรัฐบาลนั้น นายชวนระบุว่า หัวหน้าพรรคได้ออกมาชี้แจงดีแล้วว่าเราไม่ใช่พรรคอะไหล่ แต่สำหรับพฤติกรรมคนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องยอมรับว่าประชาธิปัตย์เป็นทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านมาแล้ว ส่วนที่ถูกมองว่าหาผลประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราก็เป็นพรรคที่ประชาชนหวังพึ่ง แม้ว่าในระยะหลังจะได้คะแนนเสียงน้อยมาก เคยแพ้มากที่สุดครั้งหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้อย่างนี้ 25 เสียง ซึ่งเราไม่โทษกัน กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ก็เป็นชุดที่เราเลือกมา ต้องมาทบทวนว่าเราจะฟื้นพรรคได้อย่างไร และเป็นความหวังดีของพรรคที่เห็นว่าเราไม่ควรไปร่วมรัฐบาล ตนไม่อยากให้พรรคของเราได้รับผลกระทบทั้งเกียรติภูมิและชื่อเสียง

" คิดดูแล้วกัน คนในพรรคที่เป็นกำลังสำคัญทั่วประเทศจะรู้สึกอย่างไร ผมต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ออกมาชี้แจงดีแล้ว ประกาศให้รู้ว่าไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ ส่วนพฤติกรรมของคนจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีกฎเกณฑ์กติกาของพรรคอยู่ "

ส่วนข้อเสนอให้ขับ 16 สส. เสียงส่วนใหญ่ออกจากพรรคนั้ย นายชวน กล่าวว่าเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบชี้แจงเรื่องนี้และต้องรอดูต่อไป ว่าผู้ที่ลงมติจะชี้แจงอย่างไร ส่วนรอยร้าวระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ 2 กลุ่ม 2 ขั้ว นายชวน ย้ำว่า ตนไม่มีขั้ว เพราะตนก็เลือกกรรมการชุดนี้มา ซึ่งเป็นเรื่องของแนวทางที่เราอยากให้ เดินการเมืองอย่างสุจริต ที่พรรคอยู่มาได้ 77 ปี ไม่ได้อยู่เพราะโกงเก่ง ที่ผู้คนศรัทธาได้เพราะเรามีความซื่อตรง ไม่โคตรโกงและไม่โกงทั้งโคตร ยึดหลักความถูกต้องชอบธรรมมันก็อยู่มาได้ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของพรรคที่อยากให้รักษาไว้ต่อไป

"ผมบอกว่าไม่ผิดอะไรความอยากเป็นรัฐบาลไม่ผิดอะไร เพียงแต่กระบวนการไปร่วมรัฐบาลต้องผ่านการประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีผ่านเข้ามา ผมได้ถามหัวหน้าพรรคว่ามีใครไปเจรจาขอร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่มี"

ทั้งนี้นายชวนยังชี้แจงว่าตอนพรรคก้าวไกลเสนอนายพิธา ชิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์งดออกเสียง เพราะพรรคแกนนำไม่เคยประกาศว่าไม่เอาเรา แต่ตอนนี้นายเศรษฐาประกาศด้วยตนเองว่าไม่มีประชาธิปัตย์ เราคิดว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากได้ประชาธิปัตย์ และเราก็มีเสียง 25 เสียง ควรมาตั้งหลักและฟื้น

"ต้องยอมรับว่าตอนที่เราสู้กับพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร นายเดชอิศม์ ก็อยู่ในพรรคนั้น เราเรียกร้องความเป็นธรรมว่าคนภาคใต้ถูกกลั่นแกล้ง ฉะนั้นความคิดจึงต่างกันตั้งแต่ต้น เราสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ผมจึงขอทำหน้าที่ ไม่ทรยศต่อคนภาคใต้ "

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีโอกาสร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชวนรกล่าวว่า ในอนาคตไม่แน่ ตนไม่ทราบ แต่ปัจจุบันไม่มี หากมติกรรมการบริหารพรรคและสส. อยากไปร่วมในตอนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขณะนี้คงไม่มี

พร้อมกันนี้ นายชวน ยังเปิดเผยว่าตนได้ถามในที่ประชุมกรณีกระแสข่าวที่นายเดชอิศม์ เดินทางไปพบกับนายทักษิณที่ฮ่องกงว่าจริงหรือไม่ ซึ่งนาขเดชอิศม์ ยอมรับว่าไปฮ่องกงจริง แต่ไม่ได้เดินทางไปพบนายทักษิณ แต่เมื่อนายทักษิณทราบว่า นายเดชอิศม์ ไปฮ่องกงจึงเรียกไปพบ ซึ่งนายเดชอิศม์ ยืนยันว่าไม่ได้ไปเพื่อเจรจาร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่าพรรคยังไม่แตกใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่ามันเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไม่เป็นไรมีกี่คนตนก็อยู่ เว้นแต่ตนถูกขับ อยู่มา 17 สมัย ไม่ใช่ใครทำได้ทุกคน ในการจะชนะด้วยระบบเลือกตั้ง ท่ามกลางการเมืองที่ผันผวน และอิทธิพลนอกรูปแบบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' เหยื่อระบอบทักษิณ! ตราบใดกระแส 'อนุรักษ์นิยม' ยังไม่ฟื้น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพรรคก้าวไกล เหยื่อของระบอบทักษิณ!

ปมขัดแย้งภายในเพื่อไทย บทพิสูจน์ภาวะผู้นำ 'อุ๊งอิ๊ง'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย : บทพิสูจน์ภาวะผู้นำของอุ๊งอิ๊ง

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

เปิดใจ 'ชวน' วางมือการเมืองหรือลงเลือกตั้งต่อ? เชื่อ 'อภิสิทธิ์' ไม่ไปไหนรอกลับมาช่วย ปชป.

นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภากล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเอง หลังเป็นส.ส.มา 17 สมัยติดต่อกัน หลังมีกระแสข่าวทั้งพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่ส่งนายชวน ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าและกระแสข่าวเตรียมวางมือทางการเมือง