'เอกนัฏ' ยัน รทสช. ไม่ได้คุยต่อรองโควตารมต.กับเพื่อไทย

แฟ้มภาพ

18 ส.ค. 2566 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า มีการพูดคุยกันมาตลอด โดยคณะเจรจามีเพียงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและตนที่เข้าไปคุยกับทีมบริหารของพรรคเพื่อไทยเป็นการคุยอย่างเป็นทางการได้ระบุเงื่อนไขว่า จะต้องไม่มีการแก้ไข ม.112 ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีการแก้ไข และยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการแบ่งกระทรวง ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยังรับปากว่า จะไม่มีพรรคก้าวไกล เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย

เมื่อถามถึงประเด็นความขัดแย้งในอดีตของกลุ่ม กปปส.กับกลุ่มเสื้อแดงในอดีต นายเอกนัฏ กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ลบไม่ได้อยู่แล้ว ตนก็ไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่เคยทำมาได้ แต่ต้องดูว่าเหตุผลที่เคยทำมาตอนนั้นคืออะไร มีความพยายามจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม จึงได้มีการออกมาชุมนุมต่อต้าน เวลานี้กฎหมายนี้ก็ไม่มีแล้ว เหตุการณ์ก็ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว ความขัดแย้งที่คนเข้าใจว่ามีระหว่างเสื้อเหลือง เสื้อแดง กปปส.ควรจะยุติแล้ว ควรจะร่วมมือกันเดินหน้าประเทศ ให้โอกาสซึ่งกันและกัน

“ หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็มีการเลือกตั้งมาแล้ว 2 ครั้ง ทุกพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง ที่ผ่านมาต่างคนต่างเจ็บด้วยกัน ผมเองก็ถูกคดี หลายคนอาจจะบอกว่าเรื่องการต่อรองเก้าอี้ ขอบอกว่าเจรจากับผมดีที่สุด เพราะผมเป็นอะไรไม่ได้ติดคดีอยู่ และผมจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นอุปสรรคในการเดินหน้าประเทศ เพราะหากแต่จมอยู่ในอดีตก็จะไม่สามารถเดินหน้าไปสู่อนาคตได้” นายเอกนัฏกล่าว

ส่วนการคุยเรื่องโควต้ารัฐมนตรีมีการต่อรองหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่มี ตนและหัวหน้าพรรคไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องตำแหน่งอะไรอยู่แล้ว โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ หากจำได้ในช่วงที่เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นคนเดียวที่ประกาศชัดว่า ขอปฏิเสธทุกตำแหน่งใน ครม.หากเป็นหัวหน้าพรรค วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ตนก็ไม่สามารถเป็นอะไรได้เพราะติดคดี ดังนั้นจึงต้องตัดสินใจบนพื้นฐานการเดินหน้าประเทศ ส่วนจำนวนคณิตศาสตร์คำนวณเก้าอี้ยังไม่ทราบชัดเจน แต่ที่สำคัญคณิตศาสตร์ในระบบรัฐสภาต้องมีเสียงสนับสนุนในสภาฯ เกินครึ่ง เนื่องจากมีบทเฉพาะกาล คือการออกมาร่วมโหวตนายกฯ จะต้องผ่านมติด้วยคะแนน 375 เสียงตอนนี้จะต้องช่วยกันให้ผ่าน

นายเอกนัฏ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า ได้มีการพูดคุยกันแต่ยังไม่ตกผลึกมีบางประเด็นในรัฐธรรมนูญที่พรรครวมไทยสร้างชาติคิดว่ายังไม่ควรแก้ เช่น หมวดเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ เป็นต้น ดังนั้นจึงจะต้องมาพูดคุยกันอีกครั้ง หากจะแก้ไขจะต้องมีหลักประกันว่าแก้แล้วจะดีขึ้นไม่กลับมาสร้างปัญหา ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เข้าใจ

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการโหวต นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยจะผ่าน นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่มั่นใจจนกว่าจะโหวต พรรครวมไทยสร้างชาติมี 36 เสียง ไปทางไหนไปทางเดียวกัน แต่การรวบรวมเสียงก็เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการ

นายเอกนัฏ กล่าวย้ำในช่วงท้ายด้วยว่า ตนในฐานะเลขาธิการพรรคขอบอกว่าไม่สามารถไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีได้ โดยส่วนตัวมีความตั้งใจในการทำงานการเมืองและเร่งพัฒนาพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นสถาบันการเมือง ในส่วนของการทำงานในรัฐบาลก็จะมีบางส่วนเข้าไปร่วม แต่ในส่วนงานการเมืองของพรรคก็เป็นเรื่องสำคัญที่มีความตั้งใจว่า พรรคจะได้นำเสนอแนวทางการทำงานเป็นทางเลือกอีกแบบหนึ่งที่ทันสมัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 34): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน

เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง

เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.