'วิป 3 ฝ่าย' เคาะ 'เศรษฐา' ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ ปล่อย 'โรม' อภิปรายขอทบทวนมติได้

'วันนอร์' เผย 'วิป 3 ฝ่าย' เคาะ 'เศรษฐา' ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ อ้างรธน.ข้อบังคับไม่ได้กำหนดไว้ พร้อมปล่อย 'โรม' อภิปรายญัตติขอทบทวนมติ 19ก.ค. แต่ย้ำไม่สามารถทบทวนได้

18 ส.ค.2566 - ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาแถลงภายหลังการประชุมวิป3 ฝ่าย ว่า ในวันที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น. จะนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อลงมติบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกำหนดเวลา 5 ชั่วโมง แบ่งเป็นของ สว. 2 ชั่วโมง สส.ไม่เกิน 3 ชั่วโมง โดยคาดว่าจะลงมติในเวลา 15.00 น. และเสร็จสิ้นภายในเวลา 17.30 น.

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีความเห็นว่าผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภา เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไม่ได้กำหนดไว้ ประกอบกับในช่วงที่มีการยกร่างข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมของรัฐสภาเคยมีมติว่าเห็นชอบให้แสดงวิสัยทัศน์เพียง 47 เสียง และไม่เห็นชอบ 370 เสียงโดยประมาณ

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า สำหรับญัตติที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เสนอค้างไว้ตั้งแต่การประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา ในที่ประชุมวิป 3ฝ่าย เห็นว่าให้นายรังสิมันต์ สามารถอภิปรายได้ในการประชุมวันที่ 22 ส.ค.นี้ แต่ก็มีความเห็นว่า เมื่อมีการวินิจฉัยตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 151 ไม่สามารถนำมาทบทวนได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาว่าเมื่อรัฐสภามีมติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วจะสามารถพิจารณาทบทวนได้ตลอดเวลา ซึ่งที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้ตกลงกันว่าเมื่อมีการเสนอเรื่องนี้เข้ามาให้ประธานแจ้งต่อที่ประชุมยืนยันอำนาจของประธานรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 80 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่5 ประกอบข้อที่ 151 รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ชี้ว่าที่ประชุมรัฐสภาจะต้องทบทวนมติในวันที่ 19 ก.ค.ทึ่ผ่านมา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' ยกตัวอย่างมาเลย์ประชุมสภา 4 วันให้ที่ประชุมสำเหนียก

'ก้าวไกล' ลุกหารือขอเพิ่มวันประชุม เหตุมี กม.ค้างเต่อ ด้าน 'อัครเดช' รับลูกเห็นด้วย บอก มาทำงานให้ปชช.อยู่แล้ว ขณะที่ 'วันนอร์' โยน 'พิเชษฐ์' นัดถกวิปเอง

'วันนอร์' บอกเรื่องปกติ!คดีรุมเร้านายกฯ

'วันนอร์' ชี้มรสุมคดีรุมนายกฯ เรื่องปกติของการเมือง แต่เอาแน่ไม่ได้ เชื่อ 314 เสียงรัฐบาลยังแน่น มั่นใจการเมืองไทยหลังเลือกตั้งครั้งหน้าดีขึ้น