11 ธ.ค.2564 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ได้ฟังคำสัมภาษณ์ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดถึงสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ชื่อเสียงและเกียรติภูมิของพรรคไม่ได้เป็นไปอย่างเดิม เปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลาและสถานการณ์นั้น ทำให้มีความรู้สึกว่า สิ่งที่นายชวนพูดเป็นความจริง ที่ไม่สามารถปฎิเสธได้ เพราะสรรพสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป สถานการณ์เปลี่ยนไป บริบททางการเมืองในด้านต่างๆก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย
พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งยืนหยัดมาได้ยาวนานถึง 75 ปี จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพรรคให้เข้ากับยุคสมัย และโลกยุคปัจจุบัน แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องยึดมั่นและยืนหยัดไว้ให้มั่นคง ก็คืออุดมการณ์ประชาธิปไตยของพรรค ที่ประกาศไว้ตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค 6 เมษายน 2489 เป็นต้นมา
ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองหรือโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หลักการประชาธิปไตย ก็ยังคงอมตะอยู่เสมอ ยังเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลกมากที่สุด จึงอยากจะให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้พิทักษ์อุดมการณ์ข้อนี้ไว้ให้มั่นคง และประกาศเจตนารมณ์ จุดยืนของพรรค ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่บ้านเมืองกำลังปกครองด้วยรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง พรรคต้องกล้าที่จะยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับประชาชนทั้งประเทศ เพื่อผลักดันให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ขึ้นมาให้ได้ ต้องย้อนนึกถึงเกียรติภูมิพรรคในอดีต ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียว ที่ยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการทหาร จนเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งประเทศ แต่มาวันนี้ภาพลักษณ์เหล่านั้น ได้เลือนหายไปจากความทรงจำของประชาชนแล้ว
แม้ว่าการเมืองยุคปัจจุบัน เงินทุน คือปัจจัยสำคัญในการต่อสู้ในการเลือกตั้งก็ตาม แต่อุดมการณ์และจุดยืนด้านประชาธิปไตย เป็นจุดขายที่สำคัญ มากกว่าผลงานของพรรคในการบริหารกระทรวงเสียอีก ต้องยอมรับความจริงว่า กระทรวงต่างๆที่พรรคประชาธิปัตย์บริหารอยู่ จะมีผลงานโดดเด่น ประสบความสำเร็จมากกว่าทุกกระทรวง ในรัฐบาลชุดนี้ แต่ถ้าพรรคไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนแล้ว กระแสความนิยมของประชาชน ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างโดดเด่น เป็นเรื่องที่ผู้บริหารพรรคจะต้องนำไปศึกษาหาจุดอ่อน และปรับปรุงแก้ไขให้พรรคกลับมาเป็นที่ยอมรับของประชาชนตามคำแนะนำของนายชวนให้ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระวังปากพาจน! 'ทักษิณ' สามหาว เสี่ยงขัดแย้งประเทศเพื่อนบ้าน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทักษิณ ปราศรัย ระวังปากพาจน" โดยระบุว่า
'จตุพร' ซัดเสพติดอำนาจ จนไม่สนใจวิธีการ!
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
'ทักษิณ' ยันพรรครัฐบาลไม่แตะ 112 เผยเคยเตือนสติ 'ธนาธร' มาแล้ว!
"ทักษิณ" เผยพรรคร่วมรัฐบาล ลงสัตยาบันไม่แตะ มาตรา 112 โอดตัวเองตกเป็นเหยื่อเพราะถูกหมั่นไส้ เคยคุย "ธนาธร" ขอให้ช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง หากจะแก้กฎหมายควรทำทีละขั้นตอน อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดโฆษณาอันตรายกว่าสิ่งที่ตั้งใจทำ
ดร.อาทิตย์ หวั่นอำนาจการเมืองอยู่เหนือคำพิพากษาศาล ทำบ้านเมืองล่มสลาย!
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กว่าระบบการเมืองปัจจุบันทำลายนิติรัฐ
อดีตบิ๊กศรภ. ชี้วันเวลาจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลง 'ระบอบทักษิณ' ได้เลย
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ระบอบทักษิณไม่เคยท้อ
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 47: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 อันเป็นพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปรับคณะรัฐมนตรีและชะลอการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราชั่วคราว