15 ส.ค.2566 - ที่อาคารไทยซัมมิท นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร สส.กทม.เขต 24 พรรคก้าวไกล กล่าวก่อนการประชุมสส.ของพรรคก้าวไกล ถึงการรับฟังความเห็นจากประชาชนในการลงพื้นที่กรณีการโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าบรรยากาศในการลงพื้นที่ขณะนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เป็นไปในแนวทางบวกเหมือนหลังการเลือกตั้ง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยในการที่พรรคก้าวไกลจะโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าตนเองเสียน้ำตาบ่อย เพราะทำให้ประชาชนผิดหวัง ซึ่งก็ทำได้แค่เพียงให้กำลังใจสส. ของพรรคคนอื่นๆ ที่เจอสถานการณ์เดียวกัน แต่ก็อาจจะเป็นแบบที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เคยระบุไว้ว่า “อาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน” ก็ได้ ขอให้กำลังใจสส.เขตพรรคเพื่อไทยด้วย เราก็เข้าใจว่าในระบบพรรคการเมืองผู้บริหารพรรคคงจะไม่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนมากเท่าสส.เขต จึงอยากให้สส. เขตสะท้อนเสียงที่ได้รับฟังจากประชาชนขึ้นไปให้ผู้บริหารของพรรคได้รับทราบ ซึ่งก็ไม่ได้มีคนตำหนิหรือติเตียนอะไรที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนใหญ่มีแต่คนมาให้กำลังใจ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 โพสต์รูปภาพกระป๋องคราฟเบียร์ ตัวแรกของจังหวัดพิษณุโลก นายเท่าพิภพ กล่าวว่า ได้เห็นข้อเท็จจริงว่าด้วยเรื่องกฎหมาย ตนไม่มั่นใจว่าใครจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน เพราะจุดยืนของตนและพรรคก้าวไกลในประเด็นนี้ชัดเจนมาโดยตลอดว่าสนับสนุนการแก้กฎหมายการห้ามโฆษณาม.32 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“ผมเคยคุยกับคนที่ออกกฎหมายนี้ เป็นคนที่ยกร่างนี้มา เขาบอกว่าไม่มีเจตนาจะจับประชาชนอยู่แล้ว คนธรรมดาส่วนใหญ่เขาจะจับคนที่เปิดร้านค้า ผับต่างๆ รวมถึงผู้ผลิต เพราะชัดเจนเลยว่า โทษใครเป็นผู้ผลิตด้วยที่จะต้องจ่ายแพงกว่า10เท่า เป็นจำนวนเงิน 500,000บาท เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้วกับมาตรานี้ที่บังคับใช้กับประชาชนมาอย่างยาวนานมาก” นายเท่าพิภพ กล่าว
นายเท่าพิภพ ย้ำว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามีคนมาถามตนเยอะมาก ว่าสามารถโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ มองว่ามาตรานี้มีปัญหาในการบังคับใช้โดยหลักการอยู่แล้ว และไม่ควรใช้กับบุคคลทั่วไป ที่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาได้รับเงินค่าโฆษณาก็ไม่ควรมาจับเขา
เมื่อถามว่า กรณีที่นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตีความกฎหมายว่ามีความผิด นายเท่าพิภพ กล่าวว่า ตนไม่ก้าวล่วงเจ้าหน้าที่ ตนยืนยันว่า กฎหมายนี้ไม่ควรใช้กับบุคคลธรรมดา สุดท้ายเหมือนกับการขับรถฝ่าไฟแดงเป็นกฎหมาย แท็กตริก ทั่วไปเข้าไปเปรียบเทียบปรับก็ไม่มีอะไร
“ผมว่าไม่ใช่ประเด็นใหญ่ คุณราเมศควรไปตั้งใจกับการเลือกหัวหน้าพรรค ได้ข่าวว่าหนักเลย ก็เป็นห่วงจริงๆ สุขภาพของอดีตประธานชวนที่ผมเคารพว่าจะเป็นอย่างไร เห็นแบ่งเป็นหลายก๊ก ก็อยากให้คุณราเมศไปโฟกัสที่พรรคตัวเองมากกว่าเรื่องคนอื่น”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ได้ไปยื่นให้ถอดถอนนายปดิพัทธ์แล้วนั้น นายเท่าพิภพ ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนตอบว่า “ตนต้องตอบว่าอย่างไร เขาก็ร้องไปทุกเรื่องหรือไม่ วันหลังคุณศรีสุวรรณ มาอยู่แยกเพชรบุรี มาดู สส.ก้าวไกลขับฝ่าไฟแดง หรือเลยเส้น แล้วไปร้องก็ได้ ถ้าจะทำอย่างนี่ก็แล้วแต่ แต่ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร เป็นแค่กฎหมายแท็คตริกเฉยๆที่มีการเปรียบเทียบปรับ” นายเท่าพิภพ กล่าว
โดยสำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ทำมาหลายรูปแบบ ไม่ได้ชึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นส่วนใหญ่ และจากที่ทำงานมาจนก็เคยดูแลหลายคดี ที่ถูกกฎหมายรังแก
นายเท่าพิภพ กล่าวต่อว่า ถ้าจะเอาทั้งองคาพยพ มาเล่นกับพรรคก้าวไกลแบบนี้ เพื่อจะเอารองประธานสภาออกไป หรือเล่นงานพรรคก้าวไกล ตนมองว่า “คุณเผาบ้านไล่หนู” จะตอบสื่อต่างประเทศได้อย่างไร พร้อมย้ำว่า อย่าทำให้ประเทศไทยอับอายไปมากกว่านี้ ทั้งองคาพยพนายศรีสุวรรณ นายราเมศ พร้อมขอร้องในฐานะคนไทยที่อยากให้ประเทศดีขึ้น
เมื่อถามว่า ในการประชุมสมัชชาสภา ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการพูดคุยและมีเสียงสะท้อนอย่างไรบ้าง นายเท่าพิภพ กล่าวว่า จากตนไปประชุมสมัชชาสภาที่อินโดนีเซีย การที่ตนได้พูดคุยกับรองประธานสภาจากประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศมาเลเซีย ทั้งสองคนก็ได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ทำไมพรรคที่ชนะถึงไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ตนก็ตอบลำบาก และรู้สึกอาย และทำได้แค่เพียงอธิบายถึงระบบที่บิดเบี้ยวของประเทศไทย ว่าสุดท้ายแล้วปัญหาจะค่อยๆ ถูกแก้ไปเอง ซึ่งก็หวังว่าคงจะมีรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อที่จะได้เร่งแก้ไขปัญหา เพราะทั้งสองประเทศเขาจะมีการจับขั้ว และตกลงกันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ไม่ใช่มาจับกันมั่วภายหลังการเลือกตั้ง เราจึงได้เรียนรู้ว่าประเทศไทยได้สูญเสียสิ่งที่เราเคยได้เป็นตัวอย่างการเป็นประชาธิปไตยให้กับประเทศอื่น อย่าให้ต่างประเทศมีข้อท้วงติง ทั้งนี้ ตนไม่อยากไปประชุมสมัชชาอาเซียนครั้งต่อไป แล้วถูกถามคำถามว่า “รองประธานสภาโดนเด้งเพราะโพสต์รูปเบียร์ในเฟซบุ๊กหรือไม่” และทุกคนก็ถามว่า “Why” ตนก็ตอบไม่ได้ว่าทำไม เพราะมันไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว
“ขอให้เอาพอประมาณนะผู้มีอำนาจ อย่าให้สูญเสียหลักการจนเราอยู่ไม่ได้” นายเท่าพิภพ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ศาลรธน.ยืนยัน ‘อุดม’ ไม่เสียดสี แค่ตอบ ‘ข้อกม.’
ศาลรัฐธรรมนูญทำหนังสือตอบกลับสภาผู้แทนฯ ยืนยัน "อุดม สิทธิวิรัชธรรม" ตุลาการศาล รธน. แสดงความเห็นหลังยุบพรรคก้าวไกล "ยุบ 3 วันตั้งพรรค"
'ชัยธวัช' ยกอดีตมี 'นิรโทษกรรม ม.112' จี้พรรคการเมืองตกผลึกได้แล้ว
'ชัยธวัช' จี้ 'พรรคการเมือง' ควรรีบตกผลึก 'นิรโทษกรรม' เหตุ ปปช.รออยู่ ชี้ ในอดีตก็มี 'นิรโทษกรรม ม.112' มาแล้ว ไม่เกี่ยวกับความจงรักหรือไม่จงรักภักดี บอกของ กมธ. เป็นแค่รายงานศึกษา ขอ 'รัฐบาล' อย่ากังวลจนเกินไป