'จุรินทร์' ลั่น! ไม่มีนโยบายลดเบี้ยคนแก่ ยันยังจำเป็น มีแต่จะเพิ่มในอนาคต

15 ส.ค.2566- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับเปลี่ยนการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุว่า ในส่วนคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติยังไม่ได้มีการกำหนดนโยบายในเรื่องของการที่จะปรับลดเงินและจำนวนของเบี้ยผู้สูงอายุใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านมาได้เข้าไปแก้ไขปัญหาการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อน ซึ่งยุติไปแล้วกว่า 30,000 คนที่รับเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อน ทั้งจาก 600-1,000 บาทและยังรับเบี้ยบำนาญตกทอด เราได้แก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องเอามาคืน หรือที่ยังไม่รับก็ให้มารับไปได้ ซึ่งเป็นที่ยุติไป

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องแนวทางปรับปรุงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปกติ 600 ถึง 1,000 บาท ยังไม่มีนโยบายที่จะไปเปลี่ยนแปลง มีเพียงการศึกษาจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มเติมเบี้ยผู้สูงอายุให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพเศรษฐกิจได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องภายในที่ได้มีการพิจารณาศึกษาอยู่ แต่ยืนยันว่ามติที่จะไปดำเนินการ ไม่มีการลดเบี้ย หรือลดจำนวนผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ตนในฐานะรักษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นรัฐบาลที่เริ่มต้นเบี้ยผู้สูงอายุแห่งชาติจาก 200 บาทต่อเดือนและพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน เรายืนยันว่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นเรื่องจำเป็น และมีส่วนช่วยให้ผู้สูงอายุมีเงินได้ในการยังชีพและในอนาคต ถ้าสามารถเพิ่มเงินได้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและงบประมาณแผ่นดินก็ควรที่จะมีการพิจารณาดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาในเรื่องของกิจการชมรมผู้สูงอายุที่ช่วยพัฒนาประเทศ

“ยืนยันว่าในรัฐบาลรักษาการชุดนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องการกำหนดเกณฑ์รับเบี้ยผู้สูงอายุที่จะทำให้เป็นลบ ผมขอย้ำว่าไม่มีนโยบายเรื่องนี้ ส่วนมีความกังวลในการตีความเรื่องของความจนนั้น อันนั้นเป็นส่วนที่เขาจะต้องนิยามไปตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ไม่มีนโยบายซึ่งในหน่วยยังไม่มีนโยบายที่จะไปทำอย่างนั้น”นายจุรินทร์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ปชป. ถาม 'เศรษฐา' ทำไมไม่รู้จักรดน้ำพรวนดินเศรษฐกิจ

นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และอดีตสส.กทม. กล่าวว่าจากการอภิปรายกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 68 พรรคประชาธิปัตย์และหลายฝ่ายได้แสดงความเป็นห่วง พูด

ฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการ 'งบ 68' วาระแรก ร่าย 3 เหตุผล

ฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการงบ 68 วาระแรก เหตุรัฐบาลเบียดบังงบ ดัน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' เกินไป ชี้ยังให้โอกาสปรับถึงวาระสาม ขืนดื้อดึงขู่ร้องศาลสั่งระงับ 'ปกรณ์วุฒิ' มั่นในไม่มี สส.ก้าวไกล โหวตสวน

'ชัยชนะ' ตอกย้ำรัฐบาลนักวิ่งราว บี้นายกฯ ปรับสูตรอุดหนุนงบท้องถิ่น

'ชัยชนะ' ย้ำรัฐาลจัดงบ 68 เหมือนวิ่งราวทรัพย์ เตือนกู้แล้วเก็บระวังเข้าข่ายปล้น กระทุ้งอุดหนุนท้องถิ่นไม่เหมาะ แนะนายกฯ ปรับสูตร ส่วนกลาง 60 ท้องถิ่น 40

‘สรรเพชญ’ ซัดรัฐบาลกู้เงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หวั่นก่อหนี้ก้อนใหญ่ในอนาคต

รัฐบาลชุดนี้มีอำนาจในการจัดสรรงบประมาณแทบจะ 100% สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการจัดสรรงบประมาณในปี 2568 ที่มีการตั้งวงเงินกว่า 3.7 ล้านล้านบาท คือเรื่องของการกู้ขาดดุล